Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​​​​​​​

       ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โลกของเศรษฐกิจในยุคดิจิตอล ธุรกิจยานยนต์เติบโตมากขึ้นในทุก ๆ ปี ซึ่งในแต่ละปีก็มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เหนือชั้น มาสร้างความตื่นเต้นให้กับนักขับจากทั่วทุกมุมโลกได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้งานซึ่งตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ขับมากขึ้น ซึ่งการนำเข้ารถยนต์คุณภาพก็นับได้ว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนวงการยานยนต์ของไทยให้ก้าวไกลในระดับมาตรฐานสากล หนึ่งในแบรนด์นำเข้าไทยที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ไม่น้อยเลยก็คือ Audi รถยนต์ในกลุ่ม Luxury ที่นำเข้าจากประเทศเยอรมนีโดย บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ Audi Thailand ภายใต้การนำทีมบริหารงานของ คุณอ๋อ-กฤษฎา ลํ่าซำ ประธานกรรมการบริษัทฯที่พร้อมสร้างทางเลือกใหม่ เปิดตลาดธุรกิจยานยนต์ของไทยให้กลุ่มลูกค้าคนไทยได้ทำความรู้จัก และ ลองหันมาขับรถยนต์ของแบรนด์ Audi กันมากกว่าที่เคย ส่วนเบื้องหลังความสำเร็จกับการเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์นำเข้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นจะเป็นอย่างไร ไปร่วมค้นหาคำตอบจากแนวคิดและแนวทางการบริหารงานของผู้บริหาร Audi ประจำประเทศไทยพร้อม ๆ กัน




จุดเริ่มต้นสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จของแบรนด์ Audi Thailand

        จากการสำรวจธุรกิจยานยนต์ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา Audi แบรนด์รถยนต์นำเข้าจากประเทศเยอรมนีนับเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์น้องใหม่สุดหรูที่เข้ามามีบทบาท และสร้างทางเลือกใหม่ให้กับคนไทย ซึ่งในปี 2559 บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด นำทีมโดย คุณกฤษฎา ลํ่าซำ ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก Audi AG ประเทศเยอรมนี ในการนำเข้า และ จัดจำหน่ายรถยนต์ Audi ในประเทศไทย รายใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ Audi Thailand

        คุณกฤษฎาเผยว่า สำหรับทิศทางการเปิดตลาดรถยนต์ของ Luxury Segments ในเมืองไทย ณ ตอนนี้ จะเห็นได้ว่ามีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี เมื่อพิจารณาจากยอดขายก็มองเห็นแล้วว่ามีโอกาสที่จะเติบโตมีอยู่มากทีเดียว โดยแบรนด์ Audi จะเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ที่นำเสนอความแตกต่างให้กับผู้ใช้รถยนต์ได้อย่างแน่นอน จึงตัดสินใจนำเข้ารถยนต์แบรนด์ดังกล่าว ประกอบกับการวิเคราะห์ของทีมเอง ที่ล้วนมีความชื่นชมในแบรนด์ Audi เป็นทุนเดิม จึงเชื่อมั่นว่าหากได้ทำแบรนด์อะไรสักอย่างที่ชื่นชอบ บวกกับความเข้าใจในธุรกิจนั้นอย่างถ่องแท้ ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก สามารถวางระบบการจัดการได้อย่างมืออาชีพ จนกระทั่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่ซื้อรถยนต์ Luxury Segmentsได้ในที่สุด

        ส่วนแนวทางการบริหารงาน ทางแบรนด์เน้นยํ้าในเรื่องการเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อรองรับเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดยที่ผ่านมานั้นมีการเทรนนิ่งพนักงานตำแหน่งต่าง ๆ อย่างเข้มข้น จนแน่ใจแล้วว่ามีความพร้อมในการเปิดตัว และ ให้การบริการอย่างแท้จริง​



การให้บริการที่ดีที่สุด สร้างบุคลากรคุณภาพ และ ศูนย์การให้บริการมาตรฐานแบบครบวงจร

“การบริหารเรื่องแบรนด์ของรถมีความสำคัญมาก ต้องมีคุณภาพที่ดี ต้องมีการให้บริการที่ดี ธุรกิจรถยนต์เป็นธุรกิจที่มีมิติเยอะ และ มีความน่าสนใจมาก”

        คุณกฤษฎาเล่าถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาของ Audi Thailand ในเส้นทางการบริหารธุรกิจรถยนต์ ด้วยความที่แบรนด์ Audi เป็นแบรนด์ที่แข็งแรง มี Range รถยนต์ที่มีให้เลือกใช้งานหลากหลายรุ่น ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้ ตั้งแต่รถ SUV ราคา 2.249 ล้านบาท เรื่อยไปจนถึงประเภท Super Car ที่มีราคาเกือบ 20 ล้านบาท การสร้างความแตกต่างในเรื่องของความหลากหลาย Segments จุดนี้นับเป็นความตั้งใจอันดีที่ Audi จะแมทช์ความต้องการของลูกค้าให้เข้ากับประเภทของรุ่นรถที่นำเข้ามา



        ตามมาด้วยการ Set Up ทีมผู้มีความรู้ หรือ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาร่วมงาน พร้อมที่จะนำเสนอกลุ่ม Products รถยนต์ที่มีคุณภาพ และ ให้การบริการหลังการขายอย่างดีที่สุดทุกตำแหน่ง ล้วนเป็นบุคลากรมากความสามารถที่มีประสบการณ์ในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ ก่อนจะมีการขยายทีมให้เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งปัจจุบันในองค์กรของ Audi Thailand มีพนักงานในทีมกว่า 200 คน ทางแบรนด์ให้ความสำคัญอย่างมากในการอบรมบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทั้งในด้านการดูแลลูกค้า และ ด้านเทคนิค มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยรองรับการให้บริการอย่างตรงจุด พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ที่ทันสมัย และ บุคลากรก็มีความรู้ในรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ เป็นอย่างดี เป็นการสร้างมาตรฐานแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ และ การสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างเข้าใจ พร้อมมี KPI วัดคุณภาพชัดเจน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่า ใครก็ตามที่มาซื้อรถยนต์ของ Audi จะได้รับการให้บริการด้านต่าง ๆ อย่างเป็นมาตรฐานแน่นอน

        จากนั้นจึงเริ่ม Operate อย่างจริงจัง พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีเครือข่ายการดูแลลูกค้าที่ครอบคลุมมากขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งภายใน 1-2 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีเครือข่ายของแบรนด์มีการให้บริการที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ Audi Centre Thailand ที่เป็น Headquarter หรือ สำนักใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Audi Lighthouse ในลักษณะของโชว์รูมแบบ Full Flex ที่ประกอบไปด้วยการให้บริการทั้งฝ่ายขาย และ การให้บริการด้านเทคนิคแบบครบวงจร มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก 

        ตามมาด้วย Dealer หรือการเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ต่าง ๆ ที่ปัจจุบันมีเปิดให้บริการแล้วทั้งในกรุงเทพฯ 2 สาขา คือ สาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และ สาขาสำนักงานใหญ่ รวมถึงที่พัทยา จังหวัดชลบุรี เร็ว ๆ นี่ที่ จ.ภูเก็ต เป็นการทยอยเปิด Network อย่างครอบคลุม ให้ลูกค้า Audi ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และ ในอนาคตจะขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง แบบค่อยเป็นค่อยไป สามารถดูแลลูกค้าได้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อรองรับจำนวนรถยนต์ที่ออกขายมากขึ้น

สร้างความมั่นใจและทางเลือกที่แตกต่างให้กับลูกค้า

        เป้าหมายหรือโจทย์ของ Audi ในประเทศไทยคือการสร้างแบรนด์ Audi ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย แน่นอนว่าต้องเป็นในเรื่องของ Product ที่ดึงเอาความหลากหลายของรถยนต์แต่ละรุ่นออกสู่สายตาคนไทยมากที่สุด สิ่งที่ทีมบริหารทำสำเร็จ คือ การนำเข้ารถยนต์ที่ถูกรุ่นมาจำหน่ายในไทย ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการสร้างความมั่นใจ เกิด Emotional Attachment ขึ้นในประเทศไทย ตามมาด้วยเรื่องของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจว่าเราจะดูแลเขาอย่างดี ซึ่งก็ถือเป็นจุดเด่นของเรื่องการบริการหลังการขาย ทางแบรนด์ต้องมีการสื่อสาร เพื่อให้ในที่สุดแล้วลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ดี มีรถยนต์สวย สมรรถนะที่ดีมาให้คนไทยได้ขับขี่ อีกอย่าง ทั้ง 3 โชว์รูม มีรถให้ทดลองขับกว่า 40 คัน แม้กระทั่งรุ่น Super Car ก็มีให้ทดลองขับเช่นกัน การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำก็ต้องให้ผู้ใช้ได้สัมผัสของจริง

        ที่สำคัญ Audi จะต้องเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์มากที่สุด เป็นการสร้างทางเลือกที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ล่าสุดมีการทำ Y&R Research เครื่องมือในการพัฒนากลยุทธ์ ให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานทางธุรกิจ ซึ่งปรากฎว่าแบรนด์ Audi ติดหนึ่งใน Top 100 Brand in Thailand 2018 ของทุกภาคธุรกิจด้วย ตามแนวทางการพัฒนาแบรนด์ที่ถูกจริตกับผู้บริโภคคนไทย 4 แนวความคิด ได้แก่ 

  1. Strategy Leading Tech
  2. Every Actions Reflect Reason for Existence
  3. Real Time with Real Position
  4. Never Stop Leveraging Brand Value

        เป็นการชี้วัดคุณภาพของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นว่าประสบความสำเร็จกระบวนการสร้างแบรนด์ สื่อสารการตลาดของแบรนด์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ นอกจากในเรื่องของการสร้างแบรนด์แล้ว เป้าหมายในเรื่องของการเงิน หรือ Financial ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทีมงานต้องอยู่ได้องค์กรต้องขับเคลื่อน เติบโตไปข้างหน้าอย่างแน่นอน รวมถึงเป้าหมายเรื่องยอดขาย ซึ่งทางแบรนด์ต้องอยู่ในตลาดภาคธุรกิจนี้อย่างมั่นคง ค่อยเติบโตจาก 600 คัน เป็น 1,000 กว่าคัน และ เป้าหมายในปีนี้คือ 1,200 คัน ต้องเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน



รถยนต์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า The Wisdom

        เนื่องจากลูกค้าของ The Wisdom มีรสนิยมที่หลากหลาย มีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะชอบรถเก๋ง บางคนอาจจะชอบรถ SUV บางคนอาจจะชอบรถสปอร์ต ไม่สามารถจะยืนยันได้อย่างเจาะจงว่าจะต้องเป็นรุ่นไหน ตามแต่ความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งทางแบรนด์เองก็พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ มั่นใจว่ารถยนต์ Audi ทุกประเภทตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ หรือ แบบ Luxury Car จะรุ่น Sedan สำหรับครอบครัว หรือ รถสปอร์ตสำหรับคนรุ่นใหม่ก็มีพร้อมรองรับให้บริการ ไม่ว่าใครจะชอบแบบไหน ก็อยากให้มาลองสัมผัสด้วยตัวเอง เพื่อจะได้รับประสบการณ์การขับขี่และการบริการหลังการขาย ที่ดีอย่างเต็มที่นั่นเอง มั่นใจว่าสิ่งที่นำเสนอนั้นดีจริง ๆ​



การเปิดตัว EV Car รถยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกในเมืองไทย

        ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ ในทุก Industry มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ เรื่องของ Electric Vehicle ก็นับเป็นเรื่องที่คนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ แบรนด์ Audi เองก็มีการประกาศแล้วว่าภายในปี 2025 จะมีการผลิตรถยนต์ EV Car นี้ ประมาณปีละ 800,000 คัน พร้อมออกรุ่นใหม่ ๆ มาให้ได้ลองใช้กัน เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และ เนื่องจากรถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า จึงไม่มีมลพิษทางอากาศใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ แบตเตอรี่ของรถรุ่นนี้ยังสามารถซ่อมได้ จึงสามารถลดปัญหาในการสร้างขยะในอนาคต

        สำหรับคันแรกที่จะเปิดตัวนั้นมีชื่อว่า Audi E-Tron (Medium Upper Size SUV) ขับสบาย สมรรถนะในการขับขี่ และ ฟังก์ชันการใช้งานมีประสิทธิภาพ ได้รับการรีวิวที่ดีมาแล้วทั่วโลกและจะเปิดตัวที่เมืองไทยเป็นที่แรก ๆ ของภูมิภาคเอเชีย ในวันที่ 14 มีนาคม 2562 นับเป็น SUV คันแรกของ Audi ในราคาที่จับต้องได้ โดยประเทศไทยจะเปิดตัวแบบ Full Functionality Electric Vehicle และ หลังจากเปิดตัวก็จะการทยอยนำเข้ามาเรื่อย ๆ​

กิจกรรมและความพิเศษที่จัดเตรียมให้กับแฟน ๆ Audi โดยเฉพาะ

        เร็ว ๆ นี้แฟน ๆ Audi จะได้พบกับรถยนต์ Audi รุ่นใหม่ ๆ หลาย Segment และ เป็น Measure Change หรือ รูปลักษณ์ใหม่ ๆ ให้ได้ลองมาสัมผัสความเหนือระดับของยนตรกรรมในแต่ละรุ่น โดยเฉพาะรุ่น Audi TT ทั้งยังมี E-Tron คือ Full EV ไปจนถึง Audi Q3 ซึ่งทางแบรนด์มั่นใจว่าจะต้องเป็นที่ชื่นชอบ และ ขายดีอย่างแน่นอน ตามมาด้วย A6 Mid-Size Luxury 2 รูปแบบ คือ ที่เป็นเก๋งและรถที่มีรูปลักษณ์ภูมิฐาน และ A7 Sportback เครื่องเล็กลง ราคาย่อมเยา เพราะฉะนั้นในปีนี้ก็จะมีการทยอยรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มาเรื่อย ๆ นำเสนออยู่ตลอดเวลา ส่วนงาน Thailand International Motor Show 2019 ที่กำลัง จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนั้น ทางแบรนด์ก็จะมีการนำรถ Audi-EV Car, Audi A7 Sportback, Audi TT และ อีกหลากหลายรุ่นไปอวดโฉมแน่นอน รวมถึงแคมเปญสุดพิเศษร่วมออกบูธในครั้งนี้ ใครที่เป็นแฟนตัวจริงต้องห้ามพลาดไปชมกัน



กลับ

​ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โลกของเศรษฐกิจในยุคดิจิตอล ธุรกิจยานยนต์เติบโตมากขึ้นในทุก ๆ ปี ซึ่งในแต่ละปีก็มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เหนือชั้น พบกับแนวคิดและแนวทางการบริหารงานของผู้บริหาร Audi คุณอ๋อ-กฤษฎา ลํ่าซำ​ ได้ในบทสัมภาษณ์นี้