ผลเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ออกมาว่า พรรครีพับลิกันสูญเสียคะแนนเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรให้กับพรรคเดโมแครต แต่ยังสามารถรักษาคะแนนเสียงข้างมากในวุฒิสภาไว้ได้ ซึ่งมีนัยต่อการผลักดันกฎหมายที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณที่จะต้องเผชิญกับการต่อรองจากพรรคเดโมแครตมากขึ้น รวมถึงความเสี่ยงในเรื่องเพดานหนี้สาธารณะที่จะครบกำหนดในวันที่ 1 มี.ค. 62 

     ขณะที่นโยบายการค้าสหรัฐฯ กับ จีนคงยังดำเนินต่อไปได้ภายใต้อำนาจของประธานาธิบดี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการค้าโลกให้ต้องเผชิญกับความยากลำบากในปี 62 และไทยอาจสูญเสียประโยชน์ทางการค้าสุทธิประมาณ 3,100 - 4,500 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 62 หรือ คิดเป็นสัดส่วน 0.6% - 0.9% ของ GDP ไทย

    

     การผ่านร่างกฎหมายที่ทำได้ยากขึ้นจะมีผลต่อความผันผวนค่าเงินดอลลาร์ฯ ตลอดจนทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจจะชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญจนมีผลต่อจังหวะการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงท่าทีของสหรัฐฯ ในการเดินหน้านโยบายกีดกันทางการค้ากับจีน