Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​“Enjoy Failure and Learn from it.
You Can Never Learn from Success.”
James Dyson


การเริ่มต้นลงมือทำอะไรสักอย่าง เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ ย่อมไม่ได้เดินบนเส้นทางที่มีแต่กลีบกุหลาบ การเปิดบริษัท หรือ การทำธุรกิจเองก็เช่นกัน การจะก้าวเข้าไปสู่ความสำเร็จที่เราได้ตั้งไว้ย่อมต้องมีความผิดหวัง หรือ ล้มเหลวระหว่างทางเป็นธรรมดาไม่เว้นแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Dyson Ltd. ที่ James Dyson ผู้เป็นเจ้าของต้องประสบพบเจอกับความล้มเหลวของการผลิตตัวสินค้าต้นแบบมากกว่า 5,000 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ได้กลายเป็นบริษัทผู้คิดค้นนวัตกรรมเครื่องดูดฝุ่นไร้ถุงเก็บฝุ่นที่โด่งดัง ครองใจตลาด และ กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีระดับโลก สำหรับ Business Empowerment ในวันนี้ เราจึงจะมาดูเบื้องหลังของความสำเร็จ จากกลยุทธ์ที่ James Dyson ใช้ นั่นก็คือกลยุทธ์ “ล้ม-ลุก-คลุก-คลาน” โดยประกอบด้วยหลัก 4 ข้อ ตามชื่อกลยุทธิ์ ดังนี้


“ล้ม”เพื่อรู้ และ ถอยเมื่อจำเป็น

อาจจะเรียกได้ว่าความล้มเหลวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการพัฒนา เกิดการเติบโตขึ้นกับทุก ๆ สิ่งบนโลก เพราะ สิ่งที่ผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปนั้น จะกลายเป็นความรู้ เป็นประสบการณ์เพื่อให้เรานำไปปรับปรุงแก้ไข ดังเช่น การผลิตตัวต้นแบบเครื่องดูดฝุ่นของ James Dyson ที่ทำการทดลองผลิตออกมาแต่ไม่สำเร็จถึง 5,126 ครั้ง แต่ในทุก ๆ ครั้งของความผิดพลาดนั้นเป็นข้อมูลที่นำมาพัฒนาต่อยอด เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องนั้นในการผลิตครั้งต่อ ๆ ไป จนนำมาสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด



อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ การที่รู้จังหวะว่าเราควรถอยเมื่อใด เพราะ การมุ่งมั่นเพื่อไปให้ถึงตามเป้า ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คุ้มกับสิ่งที่ต้องสูญเสียไป ดังเช่นกรณีของ Dyson ที่เคยหันมาจะลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่สุดท้ายเมื่อมองว่าไม่สามารถตอบโจทย์ตลาดรถที่ต้องการประสิทธิภาพในราคาที่จับต้องได้ โครงการนี้จึงถูกยกเลิกไปเพื่อไม่ให้กระทบกับส่วนอื่น ๆ ของแบรนด์

“ลุก” ขึ้นหาความแตกต่าง เพื่อการเป็นผู้นำที่โดดเด่น

การจะทำให้สินค้าของเราโดดเด่นออกมาจากตลาด นั่นก็คือ การสร้างความแตกต่าง สิ่งแปลกใหม่ให้กับตัวสินค้าของเรา ซึ่งเราสามารถหาไอเดียได้จากรอบตัว และ ในบางครั้งอาจจะมาจากสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย อย่างเช่น การที่ James Dyson ได้มองเห็นรูปแบบการทำงานของเครื่องแยกไซโคลนในโรงเลื่อยไม้ ที่สามารถกำจัดขี้เลื่อยได้จากอากาศ จึงได้นำรูปแบบนี้มาใช้กับเครื่องดูดฝุ่น จนเกิดมาเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่ไร้ถุงเก็บฝุ่น อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพที่มากกว่าเดิม เพราะ หากใช้ถุงเก็บฝุ่นนั้นจะต้องคอยเปลี่ยนอยู่เสมอ และ กลายเป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จมาจนทุกวันนี้ 



นอกจากนี้ Dyson เองยังมีการเพิ่มลูกเล่นให้กับสินค้าของบริษัทเอง ด้วยการสร้างเครื่องดูดฝุ่นที่มาในรูปแบบสำหรับคุณหนู ดึงดูดผู้ใช้วัยเด็กด้วยสีสัน หรือ เสียง อีกทั้งเป็นการสร้างประสบการณ์การใข้งาน การรับรู้ในตราสินค้าให้กับกลุ่มเด็กที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าที่แท้จริงในอนาคตได้อีกด้ว 

“คลุก” วงใน หาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า

แน่นอนว่าการที่จะทำให้ธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จนั้น การเข้าใจในความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ห้ามมองข้าม ที่สำคัญอาจจะต้องลองรับฟังข้อมูลจากหลาย ๆ แหล่ง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ เพราะในบางครั้งคำตอบที่ดูน่าเชื่อถือ อาจจะไม่ใช่ความต้องการของกลุ่มลูกค้าโดยส่วนใหญ่ก็เป็นได้ ดังเช่น การที่ Dyson เลือกที่จะออกแบบให้กล่องเก็บฝุ่นเป็นแบบใส สามารถเห็นปริมาณฝุ่นที่เครื่องดูดขึ้นมาได้ ซึ่งขัดแย้งกับผลของการวิจัยตลาด แต่กลับให้ผลตอบรับที่ดี ถูกใจลูกค้าเป็นอย่างมาก



แม้จะสามารถเข้าใจความต้องการ และ ผลิตสินค้าออกมาได้ถูกใจลูกค้าแล้ว แต่การที่ไม่หยุดพัฒนา มองหาสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ดังเช่นการที่บริษัท Dyson ยังคงเดินหน้าวิจัยเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาให้ประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ดียิ่งขึ้น ที่จะสามารถให้ได้ หรือ มากกว่าความต้องการของลูกค้า เพราะว่าสิ่งที่เรียกว่าความต้องการนั่นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

คืบ “คลาน” เปิดโลกใหม่สร้างโอกาสอย่างต่อเนื่อง

การเปิดธุรกิจหนึ่ง ย่อมไม่ได้มีเพียงแค่สินค้า 1 ตัว ฉะนั้นแล้วการเพิ่มไลน์สินค้าให้มีความหลากหลาย ก็จะทำให้ธุรกิจมีโอกาสที่จะสร้างผลประกอบการจากกลุ่มลูกค้าที่กว้างมากขึ้น และ ไม่ให้ธุรกิจยึดติดอยู่กับสินค้าเพียงประเภทเดียว ซึ่ง Dyson เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าเครื่องดูดฝุ่นจะเป็นสินค้าตัวหลักของทางบริษัท แต่ทางแบรนด์ยังไม่หยุดพัฒนา และ ได้ออกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกมาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น พัดลมไร้ใบพัด เครื่องหนีบผม เครื่องเป่าผม ไปจนถึงเครื่องฟอกอากาศ เป็นต้น

 

นอกจากนี้ในสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้การขายสินค้าหน้าร้านนั้นไม่สะดวก และ เพื่อให้ประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าเป็นไปด้วยดี สามารถที่จะสอบถามการใช้งาน หรือ คุณลักษณะของสินค้าได้ทันที ประกอบกับการมาของ Metaverse ทำให้ทางแบรนด์ได้เปิดตัว Dyson Demo VR หรือ ร้านค้าเสมือนจริงที่ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าได้เสมือนอยู่ที่ร้านได้นั่นเอง 
 
เบื้องหลังความสำเร็จของ Dyson นั้น คือ การไม่ย่อท้อต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้น และ มุ่งมั่นหาสิ่งใหม่ ๆ มาพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่อย่างต่อเนื่อง และนั่นเองที่ทำให้ Dyson สามารถที่จะออกแบบ พัฒนาสินค้าให้ และ เป็นหนึ่งผู้นำในตลาดดังที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้นั่นเอง

​สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ห้ามลืม สำหรับการทำธุรกิจ นั่นก็คือ
การจดสิทธิบัตรในตัวสินค้า และ นวัตกรรมที่เราได้พัฒนาขึ้นมา เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบที่อาจส่งผลเสียต่อธุรกิจได้ในอนาคต


กลับ