Display mode (Doesn't show in master page preview)
Turn on more accessible mode
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Turn off Animations

เปิดทิศทางหุ้นไทย สิ่งที่ต้องจับตาหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

บทความ special report october 2024 หุ้นไทยหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่

เปิดทิศทางหุ้นไทย สิ่งที่ต้องจับตาหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

​​​​​​​​​​​        การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในประเทศไทยเป็นเหตุการณ์สำคัญที่มักส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตลาดหุ้นไทยซึ่งมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบทั้งในเชิงบวกและลบ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนมักให้ความสนใจ เนื่องจากการบริหารจัดการประเทศภายใต้นโยบายใหม่ๆ จะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม การบริโภค การลงทุน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน

 

ภาพรวมของตลาดหุ้นไทย


special report, october 2024, ภาพรวมตลาดหุ้นไทย


        ก่อนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของคุณแพทองธาร ชินวัตร ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงของความไม่แน่นอน เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศ นักวิเคราะห์หลายฝ่ายระบุว่าการที่ประเทศไทยไม่มีความชัดเจนทางการเมืองในระยะเวลานานมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน ปัจจัยภายนอก เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างประเทศ และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นไทยมากขึ้น


        ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อหุ้นไทยมีหลากหลายมิติ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ได้แก่ ปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน โดยแต่ละกลุ่มมีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อทิศทางและความผันผวนของตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างมาก


special report october 2024, ปัจจัยภายนอก เศรษฐกิจโลก และ ตลาดการเงินโลก


ปัจจัยภายนอก

เศรษฐกิจโลก :

      • การชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้ว : การที่เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา, ยุโรป หรือญี่ปุ่นชะลอตัวจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการส่งออกของไทยที่มีสัดส่วนใหญ่ การลดลงของความต้องการสินค้าจากประเทศไทยอาจทำให้รายได้จากการส่งออกลดลง ซึ่งส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย และสามารถทำให้ราคาหุ้นตกต่ำ
      • การเติบโตที่ลดลงในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ : ประเทศที่กำลังพัฒนาเช่นจีนหรืออินเดีย หากมีการเติบโตที่ลดลง จะส่งผลให้ความต้องการสินค้าและบริการที่มาจากประเทศไทยลดลงเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากบริษัทที่มีการค้าระหว่างประเทศกับกลุ่มประเทศเกิดใหม่จะได้รับผลกระทบโดยตรง 

ความผันผวนในตลาดการเงินโลก

      • การเปลี่ยนแปลงของดอกเบี้ยในประเทศพัฒนาแล้ว: การปรับขึ้นดอกเบี้ยในประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาสามารถดึงดูดนักลงทุนให้หันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า ซึ่งอาจทำให้เงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยลดลง ส่งผลให้ราคาหุ้นไทยมีความผันผวน

        ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์: ราคาน้ำมัน, ทองคำ หรือวัตถุดิบสำคัญอื่น ๆ ที่มีความผันผวนสามารถส่งผลกระทบต่อหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือการส่งออกของสินค้าเหล่านี้


special report october 2024, ปัจจุยภายใน


ปัจจัยภายใน

การเมืองภายในประเทศ

      • ความไม่แน่นอนทางการเมือง : การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล, ความขัดแย้งทางการเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายรัฐบาลสามารถสร้างความวิตกกังวลในเรื่องของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมการลงทุน ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนมากขึ้น นักลงทุนอาจรอดูความชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
      • นโยบายการคลัง : การตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล, โครงการลงทุนขนาดใหญ่ หรือการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายที่มีผลกระทบต่อธุรกิจสามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเหล่านั้น 

นโยบายการเงิน

      • การปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย : การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารแห่งประเทศไทยมีผลต่อความสามารถในการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศ หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมสูงขึ้น ส่งผลให้การลงทุนและการบริโภคลดลง ซึ่งสามารถทำให้ผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ลดลงและส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงได้ 
      • การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน : การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อสกุลเงินหลัก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร หรือเยน สามารถมีผลกระทบต่อบริษัทที่มีการทำธุรกิจระหว่างประเทศ การแข็งค่าของเงินบาทอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งอาจลดลงความสามารถในการแข่งขัน และในทางกลับกัน การอ่อนค่าของเงินบาทอาจทำให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อบริษัทที่พึ่งพาการนำเข้า


แนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่




        หลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดล่าสุดที่นำโดยแพทองธาร ชินวัตร มีหลายนโยบายที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของไทย รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน เช่น 

        1. นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภค การเสนอการแจกเงินดิจิทัลผ่าน Digital Wallet โดยแต่ละคนจะได้รับเงินเพื่อใช้จ่ายในท้องถิ่น ซึ่งเป็นนโยบายที่มุ่งเน้นกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น หากนโยบายนี้สำเร็จ จะเกิดการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศและการหมุนเวียนของเงินภายในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงผู้ประกอบการในชุมชน


        2. การฟื้นกองทุนวายุภักษ์ เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (Vayupak Fund 1) วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท โดยเป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มเสถียรภาพของตลาดทุน การจัดตั้งกองทุนนี้มีการลงทุนในหลักทรัพย์ของรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนที่มีความแข็งแกร่ง โดยมีการจัดสรรเงินทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของความเสี่ยง และสร้างโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพ โดยกองทุนจะสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทยได้จากปัจจัยต่างๆ เช่น

    • เสริมสภาพคล่องในตลาดทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ : กองทุนนี้ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดหุ้นโดยการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานดีมีความมั่นคงในระยะยาว มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี และจะช่วยส่งเสริมให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในระยะยาว
    • เสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อภาคการเงิน : การที่กองทุนลงทุนในบริษัทที่มีความมั่นคง ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ นักลงทุนต่างชาติก็อาจเห็นว่าตลาดหุ้นไทยมีเสถียรภาพและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากภายนอก
    • เพิ่มโอกาสการเติบโตระยะยาวของผู้ถือหน่วยลงทุน : ผู้ที่ลงทุนในกองทุนวายุภักษ์จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการเติบโตของบริษัทในรูปแบบของเงินปันผล นอกจากนี้ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
    • เสริมเสถียรภาพตลาดหุ้นในช่วงวิกฤต : หากเกิดภาวะวิกฤติเศรษฐกิจหรือความผันผวนในตลาดหุ้น กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรักษาเสถียรภาพ เนื่องจากกองทุนจะเข้ามาช่วยลดแรงขายและเพิ่มสภาพคล่องในตลาด


special report october 2024, ฟื้นฟูการท่องเที่ยว


        3. การฟื้นฟูการท่องเที่ยว ภาคการท่องเที่ยวเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด รัฐบาลมุ่งเน้นการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เช่น การลดข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศ การอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า เช่น กลุ่มชาวต่างชาติผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ กลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกล และคาดว่าจะมีการผลักดันมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น สถานบันเทิงครบวงจร 


        4. นโยบายการกระตุ้นการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม รัฐบาลยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การสนับสนุนภาคธุรกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ เศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งจะเพิ่มโอกาสความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว


        5. ความเชื่อมั่นของนักลงทุน การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นโยบายต่างๆ เช่น การกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนภาครัฐ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการส่งเสริมเทคโนโลยี ล้วนมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ตลาดหุ้นอาจตอบสนองแตกต่างกันไปตามลักษณะของแต่ละภาคธุรกิจ


        การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ความสำเร็จของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางการเมืองของไทยที่ยังคงมีอยู่ ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดหุ้น


        นอกเหนือจากปัจจัยทางการเมืองแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้น เช่น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความท้าทายภายในประเทศที่ยังคงไม่แน่นอน รวมถึงความสามารถของรัฐบาลในการจัดการหนี้สาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ 


แนวโน้มของหุ้นไทยในอนาคต


special report october 2024, แนวโน้มตลาดหุ้นไทย


        การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีผลให้ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น นักลงทุนอาจเริ่มเห็นทิศทางการลงทุนชัดเจนขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังคงต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสำคัญอย่างท่องเที่ยวและการส่งออก 


        โอกาสสำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมักจะมาจากภาคธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ เช่น ธุรกิจค้าปลีกที่ได้รับผลดีจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นจากการแจกเงินดิจิตอล และธุรกิจการก่อสร้างที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 


        ในขณะเดียวกัน ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง ความล่าช้าในการดำเนินนโยบาย และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้น 


คำแนะนำการลงทุนในหุ้นไทย


        สำหรับนักลงทุนที่มีการถือครองกองทุนหุ้นไทยอยู่แล้ว แนะนำให้ ถือครองต่อไปได้ และรอดูสถานการณ์ เนื่องจากยังคงมีความผันผวนในตลาดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ การดำเนินนโยบายของรัฐบาลใหม่ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย 


        สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพิ่มเติมในหุ้นไทย แนะนำให้พิจารณา กองทุนลดหย่อนภาษี เช่น กองทุน Thai ESG ที่เน้นการลงทุนในหุ้น ESG (Environmental, Social, and Governance)  เนื่องจากไม่เพียงแต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ยังเป็นการลงทุนในธุรกิจที่ยั่งยืนและมีการบริหารจัดการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนอย่างยั่งยืนในอนาคต


วรสุดา ใช้เทียมวงศ์ CFP 


ผลิตภัณฑ์แนะนำที่เกี่ยวข้อง

K-ESGSI-ThaiESG

อ่านรายละเอียดกองทุน
ซื้อกองทุนผ่าน K PLUS 



K-TNZ-ThaiESG
อ่านรายละเอียดกองทุน
ซื้อกองทุนผ่าน K PLUS 



นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยงและติดตามข่าวสารและการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน



บทความที่เกี่ยวข้อง

    • ตลาดหุ้นไทยยังเปิดให้บริการอยู่ แถมราคายังถูก อัพไซส์ก็มี คลิก
    • หุ้นไทยสดใส ขานรับกองทุนวายุภักษ์พร้อม ครม.ชุดใหม่ คลิก


บทความอื่น ๆ ประจำเดือน

the wisdom onward october 2024, ultimate leisure

ULTIMATE LEISURE



THE EXPLORER



SPECIAL PRIVILEGE 
สิทธิพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำประจำเดือนกันยายน



กลับ