Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​        ​​ในช่วงวันหยุดยาวของเดือนที่อากาศร้อนทำลายสถิติเช่นนี้ Ultimate Leisure ขอชวนคุณหนีความร้อนและฝุ่นควันมลพิษทั้งหลายไปสัมผัสกับความเย็นสบายอากาศกำลังดีในฤดูใบไม้ผลิ 6 เมืองท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนในช่วงเดือนเมษายนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการไปชมดอกไม้บาน สกีฤดูใบไม้ผลิ เดินชมวัฒนธรรมความงามของเมืองเก่าท่ามกลางอากาศเย็น เที่ยวทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หรือท่องทะเลทรายแบบสบาย ๆ  



 

ISTANBUL – TURKEY
Temperature in April : 8 - 16°C
Season : ฤดูใบไม้ผลิ 

        อิสตันบูลในเดือนเมษายน คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อากาศกำลังเย็นสบาย เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เมื่อมาถึงช่วงเวลานี้ของปี ดอกทิวลิปซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของตุรกีจะบานสะพรั่งอวดความสวยงามตามสวนสาธารณะ และ จุดท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ทั่วเมือง อนึ่ง ดอกทิวลิปนี้เป็นมีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซียและอาณาจักรออตโตมันก่อนจะถูกนำไปสู่ยุโรปในศตวรรษที่ 16 ดังนั้นตั้งแต่ ค.ศ. 2006 เป็นต้นมา รัฐบาลตุรกีจึงจัดงานเทศกาลดอกทิวลิปที่เมืองอิสตันบูลในทุกเดือนเมษายน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเป็นต้นกำเนิดของดอกทิวลิปที่แท้จริง สถานที่แนะนำให้ไปชมดอกทิวลิปบานสะพรั่งได้แก่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด(Sultanahmet Square) สวนสาธารณะใหญ่ ๆ เช่น Emirgan Park, Gulhane Park และ Yildiz Park



        นอกเหนือไปจากการชื่นชมความงามของดอกทิวลิปและดอกไม้อื่น ๆ ในช่วงเดือนเมษายน ยังเหมาะกับการออกไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้อย่างคล่องตัว เพราะยังเป็นช่วงโลว์ซีซั่นก่อนช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะเริ่มเข้ามา คุณสามารถเดินชมพระราชวังโทพคาปิ (Topkapi Palace) อันเลื่องชื่อ ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่กว่า 600 ปีของอาณาจักรออตโตมันอันยิ่งใหญ่ในอดีตได้แบบไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คน หรือ จะเดินชมตัวเมืองชอปปิงของฝากขึ้นชื่ออย่างพรม เครื่องเซรามิก หรือ เครื่องราง Evil Eye แวะชิมอาหารขึ้นชื่อของตุรกี เช่น กาแฟ ชา ไอศกรีมที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะของหวานประจำชาติอย่าง Turkish delight จากต้นตำรับ และ แน่นอนว่าอากาศดีเช่นนี้ ห้ามพลาดการออกไปล่องเรือตามช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) ที่กั้นกลางระหว่างยุโรปและเอเชีย



ชอปปิงของฝากที่แกรนด์บาซาร์ ชิมกาแฟตุรกีกับเตอร์กิชดีไลท์ และ ล่องเรือในช่องแคบบอสฟอรัส ชมเมเดนทาวเวอร์ หอคอยกลางน้ำอายุกว่า 500 ปี 

แนะนำที่พัก

Ciragan Palace Kempinski Istanbul
Map : Google MapWebsite : www.kempinski.com
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนเมษายน ห้อง Suit เริ่มต้นที่ EUR1,339 (ประมาณ 51,841 บาท) ต่อคืน


*เครดิตภาพจาก-Ciragan Palace Kempinski Istanbul 

        โรงแรมหรูที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นการรีโนเวทขึ้นจากพระราชวัง Cicaran พระราชวังหลังสุดท้ายของสุลต่านออตโตมันซึ่งสืบประวัติการสร้างไปได้ถึงศตวรรษที่ 17 หลังจากทศวรรษที่ 1910 ถูกไฟไหม้เสียหายจนทำให้ถูกทิ้งร้าง ต่อมา ในทศวรรษที่ 1980 ได้บูรณะให้เป็นโรงแรมหรูที่คงรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิมเอาไว้ ซึ่งก็คือการเป็นพระราชวังริมน้ำที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ค่อนออกไปทางยุโรปผสมผสานกลิ่นอายศิลปะออตโตมัน การมาเยือนโรงแรมแห่งนี้เป็นเสมือนการมาสัมผัสไลฟ์สไตล์ที่หรูหราดุจสุลต่านที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและกลิ่นอายอดีตอันยิ่งใหญ่ ทั้งในด้านความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและการบริการที่ให้การปรนิบัติดุจดังท่านเป็นเชื้อพระวงค์



SAVOIE – FRANCE
Temperature in April : 5 - 17°C
Season : ฤดูใบไม้ผลิ 

        แม้จะพ้นฤดูหนาวแล้ว แต่ในยุโรปยังมีบางพื้นที่ที่คุณสามารถไปทริปสกีฤดูใบไม้ผลิหรือ Spring Ski ได้ สกีรีสอร์ทตามเทือกเขาแอลป์หลายแห่งยังคงมีหิมะปกคลุมหนาแน่นภายใต้อุณหภูมิประมาณ -7 ถึงประมาณ 4°C และ ที่จังหวัดซาวัว ประเทศฝรั่งเศส ขึ้นชื่อว่าเป็น Snow Kingdom จากการที่มีสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของโลกอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้น คือ วาล ธอร์แรงส์ (Val Thorens) สกีรีสอร์ทชื่อดังที่อยู่ในพื้นที่ที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ มีกิจกรรมมากมายเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการทัวร์สกี ขี่สโนว์โมบิล เล่นสโนว์บอร์ด เล่นเลื่อนหิมะ ฯลฯ การมาสกีในฤดูใบไม้ผลิที่นี่นั้นเหมาะมากสำหรับนักสกีที่ต้องการหลีกเลี่ยงนักสกีจำนวนมากในช่วงไฮซีซั่น โดยเฉพาะคนที่เริ่มหัดเล่นสกีเพราะจะมีพื้นที่มากมายให้หัดเล่นได้ รวมทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่ลดราคาลงมาเกือบเท่าตัว นอกจากสกีแล้วยังมีกิจกรรมอื่นในรีสอร์ทอย่าง Fun Park สำหรับเด็ก ๆ โรงภาพยนตร์ โรงโบว์ลิง และ ศูนย์สปาเวลเนส ฯลฯ



        นอกเหนือไปจากการมาเล่นสกีและเล่นสนุกกับหิมะที่สกีรีสอร์ทแล้ว ที่ซาวัวยังมีที่ให้ได้ท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิในชนบทของวิถีชีวิตบริเวณเทือกเขาแอลป์ ถ้าคุณมีเวลามากพอ อย่าลืมที่จะแวะไปท่องเที่ยวยังเมืองชองเบอรี (Chambery) เมืองหลักของซาวัวที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ราชอาณาจักรซาวอย สถาปัตยกรรมภายในเมืองถูกบูรณะและรักษาเอาไว้ในสภาพดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสถ์เก่า ร้านค้า หรือสถานที่สำคัญอย่างมหาวิหารแซงต์ ฟรองส์ เดอ ซาลส์ (Saint-François-de-Sales cathedral) ปราสาทชองเบรี (Chambery Castle) ซึ่งเคยเป็นปราสาทของดยุคแห่งซาวอย ปัจจุบันได้กลายเป็นที่ทำการของสภาเมือง น้ำพุช้าง (Fountain of Elephants)หนึ่งในแลนด์มาร์คประจำเมือง มีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่ขายอาหารท้องถิ่นไว้บริการนักท่องเที่ยว แนะนำให้ลองชิมขนมปัง Praline Brioche ขนมอบขึ้นชื่อของที่นี่


ภาพน้ำพุช้าง เครดิตภาพจากเว็บไซต์ visit-france.org

แนะนำที่พัก

Club Med Val Thorens Sensations
Map : Google MapWebsite : www.clubmed.com.au
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนเมษายนสำหรับ 2 ท่านต่อ 1 ห้อง เริ่มต้นที่ EUR2,505 (ประมาณ 96,961 บาท) ต่อคืน



        หนึ่งในที่พักที่ดีที่สุดในพื้นที่ของ Val Thorens และมีระบบเข้าพักที่สะดวกต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยู่ไม่ไกลเกิน 300 เมตรจากลานเล่นสกี และตั้งอยู่ในพื้นที่ของสถานีสกี สะดวกกับทุกกิจกรรม ทุกห้องพักจะมีระเบียงสำหรับออกไปชมวิวยอดเขาหิมะ สูดอากาศบริสุทธิ์ ภายในโรงแรมมีบริการร้านอาหารและบาร์เครื่องดื่ม บริการเกี่ยวกับคอร์สเรียนสกี รวมทั้งยังมีบริการรถรับส่งสนามบินซึ่งรวมอยู่ใน Flight Package แล้วอีกด้วย



WASHINGTON D.C.  - U.S.A.
Temperature in April : 7 - 19°C
Season : ฤดูใบไม้ผลิ 

        วอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นช่วงเวลาสำคัญของการท่องเที่ยว เพราะเมืองหลวงที่ดูเงียบสงบและเคร่งขรึมแห่งนี้จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากเทศกาลซากุระThe National Cherry Blossom Festival ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และเป็นงานใหญ่สำหรับชาววอชิงตัน ดี.ซี.เลยทีเดียว โดยต้นซากุระกว่า 3,000 ต้นที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้รับมอบเป็นของขวัญมาจากรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งแต่ ค.ศ. 1912 จะบานสะพรั่งสวยงามเป็นอย่างมากตามสถานที่สำคัญของเมือง โดยจุดชมวิวที่สำคัญจะอยู่ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำไทดัล เบซิน (Tidal Basin)


*เครดิตภาพจาก facebook ของ National Cherry Blossom Festival 

        สำหรับการจัดงานเทศกาลดอกซากุระของกรุงวอชิงตัน ดีซี ภายในปี 2024 นี้ จะจัดขึ้นจนถึงวันที่14 เมษายน เป็นงานรื่นเริงใหญ่ มีอีเวนต์น่าสนุกมากมาย ไม่ว่าจะการเป็นการเดินพาเรดจากหน่วยงาน องค์กร สถานศึกษาต่าง ๆ การแสดงดนตรีสด การแสดงทางวัฒนธรรมระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น นิทรรศกาลศิลปะ การจัดขายอาหารนานาชาติ การเล่นว่าว วิ่งการกุศล การแสดง และ การละเล่นสันทนาการต่าง ๆ โปรแกรมกิจกรรมส่วนใหญ่สามารถเข้าร่วมได้ฟรี ไม่ต้องซื้อตั๋ว หรือจะเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น การนั่งเรือชมวิวซากุระบาน การซื้อซิตี้ทัวร์ขี่จักรยาน หรือ สกูตเตอร์ไฟฟ้าชมบรรยากาศรอบเมือง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดของตารางวันและเวลาในการจัดอีเวนต์ต่าง ๆ ได้ที่ nationalcherryblossomfestival.org 

แนะนำที่พัก

Washington Hilton
Map : Google Map | Website : www.hilton.com
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนเมษายน เริ่มต้นที่ USD 296 (ประมาณ 10,469 บาท) ต่อคืน
Booking : www.hilton.com


*เครดิตภาพจากโรงแรม Washington Hilton 

        ที่โรงแรม Washington Hilton เป็นตัวเลือกที่พักที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมงานเทศกาลดอกซากุระ เพราะตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองทำให้สะดวกต่อการเดินทาง และยังมองเห็นวิวทิวทัศน์ของซากุระบานสะพรั่งได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีแพคเกจท่องเที่ยวสำหรับเทศกาลนี้โดยเฉพาะไว้บริการอีกด้วย คือ Cherry Blossom Package แพคเกจเข้าพักที่จะเสิร์ฟค็อกเทลธีมดอกซากุระ 2 แก้ว และคัพเค้กธีมเดียวกัน พร้อมกับส่วนลด 50% สำหรับอาหารเรียกน้ำย่อยที่ร้านอาหารภายในโรงแรม


The S​cidmore Swizzle และ Cherry Blossom Rickey ค็อกเทลเนื่องในเทศกาลดอกซากุระจากโรงแรม Washington Hilton
เครดิตภาพจาก Washington Hilton



CRETE - GREECE
Temperature in April : 11 - 20°C
Season : ฤดูใบไม้ผลิ 

        เกาะครีต เป็นเกาะทางใต้สุดของกรีซ อากาศค่อนข้างร้อนกว่าเกาะอื่น ๆ ในละแวกนี้ การมาเยือนเกาะครีตในเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงท้ายของฤดูใบไม้ผลิของที่นี่ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบเที่ยวทะเลเขตอบอุ่นแบบอากาศกำลังสบาย ๆ ก่อนที่เกาะครีตจะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนที่อุณหภูมิจะสูงมากขึ้น และยังเป็นช่วงเดือนสุดท้ายของฤดูท่องเที่ยวบนเกาะ ทำให้ผู้คนไม่หนาตาวุ่นวายแบบช่วงกลางไฮซีซั่นอีกด้วย เหมาะสำหรับการหนีความร้อนมาเดินเล่นสูดอากาศชายทะเลอีเจี้ยน ทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวชายหาด เดินป่าปีนเขา หรือเที่ยวชมรอบตัวเมือง



        เกาะครีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมโบราณอย่าง อาณาจักรมิโนอัน ซึ่งถือว่าเป็นอารยธรรมกรีกยุคแรก มีซากพระราชวังคนอสซอส(Knossos) ที่เป็นหลักฐานความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรมิโนอันที่เคยรุ่งเรือง ไม่ควรพลาดการไปเยี่ยมชมหาดทรายสีชมพูเอลาโฟนิสซี(Elafonissi) ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายในแต่ละปี



        รวมทั้งการชิมไวน์และชีสแบบท้องถิ่นชาวครีต ซึ่งร้านอาหารหลายแห่งมักจะผลิตไวน์และชีสเอง ซึ่งถ้าเป็นในช่วงหลังเทศกาลอีสเตอร์ของกรีกจะมีเมนูพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นมื้อหนัก เช่น Easter Lamb แกะย่างในแบบกรีก ซุปเนื้อสำหรับเทศกาลอีสเตอร์อย่าง Magiritsa ขนมปัง tsoureki คุกกี้แบบกรีกkoulourakia ฯลฯ



แนะนำที่พัก

Daios Cove
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนเมษายน ที่พักแบบ Waterfront One-Bedroom Villa with Private Pool ราคาคืนละ EUR 918 (ประมาณ 35,533 บาท) ต่อคืน


*เครดิตภาพจาก Daios Cove 

        โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวติดริมทะเลที่มีห้องพักจำนวน 300 ห้อง และวิลล่าอีก 39 หลังกระจายตัวอยู่ตามอ่าว Vathi บนเกาะครีต มีห้องพักที่เห็นวิวทะเลอีเจี้ยนสีฟ้าสด เหมาะสำหรับทั้งการมาเที่ยวแบบคู่รักหรือครอบครัว เพราะทะเลบริเวณนี้นอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีความตื้นและคลื่นไม่แรงนัก ไม่อันตรายกับเด็กน้อยที่อยากจะเล่นน้ำทะเล แถมทางโรงแรมยังมีบริการของเล่นสำหรับเล่นทรายชายหาดให้สำหรับคุณหนูทั้งหลายอีกด้วย และ ยังมีรถบักกี้ไฟฟ้าขับไว้รับส่งถึงที่พักแบบไม่มีเสียงรบกวน ทางโรงแรมมีบริการที่ใส่ใจยอดเยี่ยม แขกที่เข้าพักสามารถเลือกขนาดของหมอนที่นอนรวมถึงน้ำหอมปรับอากาศภายในห้อง มีบริการร้านอาหารภายในโรงแรม นำเสนออาหารนานาชาติและเมนูที่เน้นสุขภาพ รวมทั้งบริการฟิตเนสสปาที่มีอย่างครบครัน



AMSTERDAM – NETHERLAND
Temperature in April : 4 - 11°C
Season : ฤดูใบไม้ผลิ 

        ในเดือนเมษายน ที่อัมสเตอร์ดัมจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิแรก และ ยังเป็น Peak Season ของทุ่งดอกทิวลิปของเนเธอร์แลนด์อีกด้วย โดยสถานที่ชมดอกทิวลิปที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือ สวนคิวเคนฮอฟ (Keukenhof) หนึ่งในสวนดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง สามารถขับรถออกจากตัวเมืองออกไปประมาณ 30 นาที ช่วงกลางเดือนจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการมาชมดอกทิวลิป และการมาเยือนอัมสเตอร์ดัมในเดือนนี้ ห้ามพลาดกับเทศกาล King’s Day ในวันที่ 27 เมษายน ที่ชาวดัตช์จะแต่งกายด้วยสีส้มสดใสกันทั้งเมืองและมีปาร์ตี้กันอย่างสนุกสนาน โดยวัน King’s Day หรือโกนิงส์ดัค(Koningsdag)ในภาษาดัตช์ เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เพื่อเฉลิมฉลองให้กับวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชาธิราชวิลเลม-อเล็กซานเดอร์ จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1880



        เมษายน จัดเป็นช่วงไฮซีซั่นสำหรับการท่องเที่ยวของทั้งอัมสเตอร์ดัม และประเทศเนเธอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ จากการที่ดอกทิวลิปเบ่งบานเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่การมาเดินเที่ยวหรือขี่จักรยานไปตามเมืองที่สวยงามแห่งนี้ ใช้เวลาพักผ่อนกับอากาศดี ๆ ของฤดูใบไม้ผลิ ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คุ้มค่าการเดินทางแล้วเช่นกัน สำหรับผู้ที่นิยมวิถีสโลว์ไลฟ์ หรืออาจจะลองไปทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ล่องเรือในคลองและแม่น้ำอัมสเตอร์ดัม ชมทิวทัศน์ริมคลอง พบกับเรือนแพของชาวดัตช์ที่ลอยลำอยู่ตามแม่น้ำลำคลอง นักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมอาจหาโอกาสไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ที่มีอยู่มากมายภายในเมือง ไม่ว่าจะเป็นVan gogh Museum, Anne Frank House- Museum, Amsterdam Science Museum ฯลฯ



แนะนำที่พัก

Pillows Grand Boutique Hotel Maurits at the Park Amsterdam
Map : Google Map | Website : www.pillowshotels.com
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนเมษายน ห้อง Pillow Suitl ราคาคืนละ EUR 855 (ประมาณ 33,094 บาท)


*เครดิตภาพจาก Pillows Grand Boutique Hotel Maurits at the Park Amsterdam 

        โรงแรมสุดชิคทันสมัยในอาคารเก่าแก่ที่รีโนเวทอย่างมีสไตล์ โรงแรมตั้งอยู่ติดกับสวนสาธารณะOosterpark เป็นย่านที่ค่อนข้างสงบและมีเสน่ห์ ไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน คงความหรูหราของมาตรฐานโรงแรมระดับ 5 ดาวไว้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบภายนอกและภายใน รวมไปถึงบริการต่าง ๆ มีร้านอาหาร 2 แห่ง รวมทั้ง Rooftop’s Bar เป็นที่พักสำหรับไลฟ์สไตล์คนเมืองใหญ่ที่ต้องการความสโลว์ไลฟ์แต่สะดวกสบายและทันสมัย



MARRAKECH – MOROCCO
Temperature in April : 11 - 23°C
Season : ฤดูใบไม้ผลิ 

        แม้จะอยู่ในโซนทะเลทรายของทวีปแอฟริกา แต่ในช่วงเดือนเมษายนซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ผลิ ที่มาร์ราเกช เมืองใหญ่อันดับ 4 ของโมร็อกโกมีอากาศค่อนข้างสบายทีเดียว และ เหมาะกับการไปเที่ยวเป็นอย่างมาก แนะนำการออกไปเดินชมบ้านเมืองที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นไม่เหมือนใคร ไปดูมัสยิดโกโตบิยา (Koutoubia Mosque) สถาปัตยกรรมทางศาสนาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของมาร์ราเกช สัมผัสวิถีชีวิตของชาวโมร็อกโก ในโซนเมืองเก่า และ ในตลาดเก่าของเมืองที่เรียกว่า Medina สนุกเต็มที่กับการเดินเที่ยวดูสินค้าพื้นเมืองที่น่าสนใจหลากหลายที่จัตุรัส Djemaa el Fna Square และ ตลาด The souks มีสินค้าท้องถิ่นขึ้นชื่ออย่างเครื่องเทศนานาชนิด หญ้าฝรั่น พรม ผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผาสีสดใส ชิมชามินต์โมร็อกโก ซึ่งเป็นชาเขียวของแอฟริกาปรุงด้วยใบมินต์ และ น้ำตาล อร่อยคู่กับขนมหวานยอดนิยมอย่างเชบาเกีย (Chebakia) ซึ่งทำจากแป้งอัลมอนด์อบกับน้ำผึ้ง



        สำหรับสาวกแบรนด์ YSL อย่าพลาดที่จะไปเยี่ยม Jardin Majorelle บ้านส่วนตัวของอีฟส์ แซงต์ โลรองต์ ที่เขารักมากและกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน ภายในเป็นบ้านสวนตกแต่งด้วยสีสันสดใส และมีหอแสดงชีวประวัติของอีฟส์ แซงต์ โลรองต์รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์พื้นเมืองวางจำหน่าย แต่ถ้าเบื่อบรรยากาศในเมือง อาจจะออกทริปทะเลทรายด้วยการเดินทางโดยบอลลูน ซึ่งเดือนเมษายนก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับกิจกรรมนี้เป็นอย่างมาก เพราะท้องฟ้าแจ่มใส ไม่ค่อยมีเมฆ ชมความงามของภูมิประเทศเหนือเทือกเขาแอตลาส สนใจการนั่งบอลลูน ชมพระอาทิตย์ขึ้นในทะเลทราย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและจองแพคเกจได้ที่ www.hellotickets.com​



แนะนำที่พัก

Selman Marrakech
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนเมษายน ห้อง Suitl พักได้ 4 ท่าน ราคาคืนละ USD1,809 (ประมาณ 63,984 บาท)



        รีสอร์ทหรูที่จะทำให้คุณเหมือนหลุดไปอยู่ในพระราชวังฤดูร้อนของสุลต่าน จากไลฟ์สไตล์สุดหรูสไตล์อาหรับผสมผสานสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบโมร็อกกัน และมีธีมของการขี่ม้าผสมผสานไปด้วย เช่น เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเครื่องหนัง รูปประดับและของตกแต่งที่เป็นม้า รวมไปถึงคอกม้าภายในรีสอร์ทที่จะมีม้าอาหรับกว่า 20 ตัวผลัดกันมาเดินโชว์โฉมให้แขกผู้เข้าพักได้พบ ที่ Selman Marrakesh นี้มีชื่อเสียงจากการที่คนดังอย่างมาดอนน่า และเดวิด เบคแฮมเคยมาพักและจัดงานฉลองวันเกิดสุดอลังการมากแล้ว ภายในโรงแรม มีห้องพักที่หรูหรา พร้อมสปาเวลเนสระดับพรีเมียม รวมไปถึงร้านอาหารของรีสอร์ทที่จะมีดนตรีสดจากวงดนตรีพื้นเมืองบรรเลงเพิ่มสุนทรีย์ อาหารที่เสิร์ฟมีทั้งอาหารนานาชาติและอาหารโมร็อกกันท้องถิ่น

        และนี่คือแผนการเดินทางไป ‘พักร้อน’ สไตล์ Ultimate Leisure ที่อยากให้ทุกท่านได้ใช้เวลาวันหยุดยาวของเดือนเมษายนนี้ ไปพักผ่อนและผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างเต็มที่ รับเทศกาลปีใหม่ไทยในปีนี้ค่ะ

 

​​

กลับ