Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​        เข้าสู่ช่วงเดือนสุดท้ายของปีที่เต็มไปด้วยทริปท่องเที่ยวที่แสนสนุกสนาน และ เต็มไปด้วยสีสันตระการตา โดยเฉพาะทริปการเดินทางด้วยรถไฟ หรือ เรือสำราญ ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเมืองท่องเที่ยวชั้นนำต่าง ๆ ภายใต้บรรยากาศของเทศกาลเฉลิมฉลองของช่วงเวลานี้ ทั้งคริสมาสต์ และ ส่งท้ายปี ในวันนี้ Ultimate Leisure จะมาพาทุกท่านไปพบกับเสน่ห์แห่งมนต์ขลังทั่วยุโรปและอเมริกาที่ต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้งในชีวิตนี้ค่ะ



* เครดิตภาพจาก Disney Cruise Line 

Disney Fantasy to The Eastern Caribbean

Package : 7 Night Eastern Caribbean Cruise from Port Canaveral (Very Merry time)
กำหนดการ : 23 – 30 ธันวาคม 2023
ตารางเดินทาง
​Day 1 : Port Canaveral, Florida 
​Day 6 : on the Sea 
​Day 2 – 3 : on the Sea 
​Day 7 : Disney Castaway Cay, Bahamas 
​Day 4 : Tortola, British Virgin Islands 
​Day 8 : Port Canaveral, Florida 
​Day 5 : St. Thomas, U.S. Virgin Islands 

        การท่องเที่ยวภายใต้แบรนด์ดิสนีย์นั้น นอกเหนือไปจากความสนุกสนานจากการล่องเรือสำราญเพื่อการพักผ่อนและสันทนาการทั่วไปแล้ว ความพิเศษที่ให้มากกว่า คือ มนต์เสน่ห์ของโลกจินตนาการในแบบของ pop culture ที่ทุกคนทั่วโลกล้วนเติบโตมาด้วยกัน และ ในทริปล่องเรือสำราญในช่วงเทศกาลคริสต์มาสสำหรับดิสนีย์แล้ว เป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่จะเติมเต็มความสนุก และความฝันในวันหยุดพักผ่อนได้ครบทุกคนในครอบครัวไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดก็ตาม 

        ทริปการเดินทางนี้ เริ่มต้นการเดินทางที่ท่าเรือคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา ซึ่งอยู่ไกลจากวอลต์ ดิสนีย์ เวิลด์ รีสอร์ท เมืองออร์แลนโดเพียงนั่งรถ 1 ชั่วโมง ทำให้คุณอาจจะจัดตารางการท่องเที่ยวให้คุณและครอบครัวสามารถแวะไปที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ได้ทั้งก่อนและหลังการล่องเรือ ซึ่งในเดือนธันวาคมนี้ ดิสนีย์ก็จะเต็มไปด้วยอีเวนต์เทศกาลคริสต์มาส พร้อมสร้างความครึกครื้นไปจนถึงช่วงส่งท้ายปีเก่า


ว่ายน้ำกับปลาโลมา , เกาะเซนต์โธมัส , ดำน้ำสกูบา

        ไฮไลท์ของทริปเรือสำราญ Disney Fantasy to The Eastern Caribbean (Very Merry Time) คือการที่คุณจะได้แวะเที่ยวดิสนีย์แลนด์สาขาหลักในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองคริสต์มาส ซึ่งจะมีการจัดอีเวนต์แสงสีและกิจกรรมต่าง ๆ อันเนื่องมาจากเทศกาล และยังรวมไปถึงความสนุกสนานระหว่างทริปบนเรือที่เตรียมธีมท่องเที่ยวคริสต์มาส ที่จะทำให้การล่องเรือชมความงามของทะเลแคริบเบียนครั้งนี้ให้มีความพิเศษน่าประทับใจราวความฝัน 

        ใช้เวลา 2 วันบนเรือสำราญ ก่อนจะเข้าสู่หมู่เกาะแคริบเบียนในเช้าของวันที่ 4 โดยเริ่มต้นจากเกาะทอร์โทลา เกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมว่ายน้ำกับเหล่าโลมาที่ Dolphin Discovery ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเขาเฮลธี และ บรรยากาศที่ชายหาดเคน การ์เดน เบย์ ซึ่งเป็นหาดยอดนิยมของเกาะ จากนั้นเดินทางไปยังเกาะเซนต์โธมัสในวันที่ 5 หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกาซึ่งในอดีตนั้นเคยเป็นเกาะโจรสลัดมาก่อน แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในคาบสมุทรแห่งนี้ กิจกรรมสุดฮิตของที่นี่ คือ กิจกรรมดำน้ำสกูบา เพื่อชมความงามใต้ท้องทะเล การนอนอาบแดดบนหาดทรายสีขาวนวล หรือจะเป็นการปั่นจักรยานเพื่อชมธรรมชาติโดยรอบของป่าเขตร้อนก็สามารถทำได้


* เครดิตภาพจาก Disney Cruise Line 

        ผ่านพ้นความสนุกสนานบนเกาะเซนต์โธมัส ก็เข้าสู่การเดินทางล่องเรือเป็นระยะเวลา 1 วัน ก่อนเข้าสู่วันที่ 7 เพื่อเข้าสู่พื้นที่ของ Disney Castaway Cay เกาะส่วนตัวของดิสนีย์ ในหมู่เกาะบาฮามาส ที่จะต้อนรับเฉพาะแขกคนสำคัญร่วมทริปของดิสนีย์เท่านั้น ให้คุณได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมทางน้ำมากมาย ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศอันสดใสของทะเลแคริบเบียนบนพื้นที่ส่วนตัวที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย นอกจากนี้บนเกาะยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อปิดทริปพักผ่อนไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์น้ำ หรือ คลับสุดพิเศษ ก่อนจะล่องเรือกลับสู่ท่าเรือคะแนเวอรัลในวันที่ 8 ของทริปนี้



        นอกจากกิจกรรมบนเกาะแล้ว ระหว่างการเดินทางบนเรือสำราญ ทุก ๆ ท่านสามารถสนุกสนานไปกับกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโชว์การแสดงจากคาแรกเตอร์ตัวละครยอดนิยมของดิสนีย์ ละครเพลงระดับบรอดเวย์ การแสดงพลและดอกไม้ไฟกลางทะเล รวมไปถึงสวนน้ำ ไนต์คลับ เลานจ์ และ Youth Clubs สำหรับเด็ก ๆ นอกจากนี้ยังมีบริการสปา ซาลอน ฟิตเนส และ ห้องอาหารพร้อมให้บริการอีกด้วย


* เครดิตภาพจาก Disney Cruise Line 

        พิเศษสำหรับทริปคริสต์มาส ภายในเรือจะมีอีเวนต์พิเศษสำหรับเทศกาล ด้วยการตกแต่งภายในเรือตามธีมคริสต์มาสด้วยบ้านขนมปังขิงขนาดเท่าของจริง และต้นคริสต์มาสสูง 24 ฟุต พร้อมตัวละครดิสนีย์ที่อยู่ในชุดเข้ากับเทศกาล และกิจกรรมเวิร์คช็อปศิลปะธีมคริสต์มาสสำหรับเด็ก ๆ
​ค่าใช้จ่าย : ราคาเริ่มต้นที่ USD$ 7,075 สำหรับ 2 ท่าน (ประมาณ 251,870 บาท ณ พฤศจิกายน 2566)
รายละเอียดเพิ่มเติม : disneycruise.disney.go.com


* เครดิตภาพเรือ Aurora จาก P&O Cruises 

P&O Aurora to Norway

Package : 12 Nights on Aurora R324
กำหนดการ : 17 – 29 ธันวาคม 2023 (12 คืน)
ตารางการเดินทาง :
​Day 1 : Southampton, UK 
​Day 7 – 9 : Alta, Norway 
​Day 2 - 3 : on the Sea 
​Day 10 : on the Sea 
​Day 4 : Andalsnes - Romsdalsfjord, Norway 
​Day 11 : Haugesund, Norway 
​Day 5 : on the Sea 
​Day 12 : on the Sea 
​Day 6 – 7 : Tromso, Norway 
​Day 13 : Southampton, UK 

        หลายคนต้องการไปสัมผัสประสบการณ์แสงเหนือ Aurora Borealis หรือ Northern Light ให้ได้ซักครั้ง ในเดือนธันวาคมซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ของเทศกาลฤดูหนาวในยุโรปเช่นนี้ พบกับประสบการณ์การท่องเที่ยวไปชมแสงเหนือด้วยเรือสำราญทริป 12 วันจากประเทศอังกฤษไปยังนอร์เวย์กับ P&O Cruises เรือสำราญสัญชาติอังกฤษ


* เครดิตภาพจาก P&O Cruises 

        การไปเยือนขั้วโลกเหนือด้วยเรือสำราญนั้นอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ P&O Cruises จะพาคุณไปสัมผัสใกล้ชิดขั้วโลกเหนือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยการเที่ยว 5 เมืองของนอร์เวย์ผ่านการล่องเรือ Aurora เรือสำราญขนาดกลาง เป็นเรือสำราญที่มีความคล่องตัวเป็นอย่างมากด้วยความที่เป็นเรือที่เล็กที่สุดในไลน์ของ P&O Cruises มาพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ความบันเทิงที่ครบวงจร ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องอาหารและสปา ห้องสมุดขนาดใหญ่ และ เอนเตอร์เทนเมนท์ เช่น โรงภาพยนตร์ โรงละคร หรือ เลานจ์แสดงดนตรีสด ทั้งหมดจัดเต็มมาด้วยหรูหราให้สมกับเป็นแบรนด์เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ

        ความพิเศษของทริปล่องเรือสำราญตามหาแสงเหนือในทริปนี้คือ การที่เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศคริสต์มาสแบบสแกนดิเนเวียจากเมืองต่าง ๆ ที่เรือแวะจอด ทำให้การชมแสงเหนือซึ่งมีความสวยงามน่าประทับใจอยู่แล้วมีบรรยากาศของมนต์ขลังจากเทศกาลคริสต์มาสมาเสริมให้เป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งมากขึ้นไปอีก นอกเหนือไปจากการใช้ชีวิตผ่อนคลายให้เต็มที่กับกิจกรรมสันทนาการสุดหรูบนเรือกว่าสิบวันกลางทะเล



        เริ่มต้นการเดินทางที่เซาแธมป์ตัน เมืองท่าสำคัญของประเทศอังกฤษ ทริปการเดินทางวันที่ 2 - 3 จะใช้เวลาไปกับการพักผ่อนหย่อนใจกับกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ภายในเรือ ก่อนจะเข้าสู่วันที่ 4 โดยในช่วงครึ่งวันแรก จะแวะที่อันดาลส์เนส (Andalsnes) และ อีกครึ่งวันหลังจะเป็น รอมดัลส์ฟยอร์ด (Romsdals Fjord) ซึ่งอยู่ในเขตรอมสดัล เมืองชายฝั่งนอร์เวย์ที่เต็มไปด้วย ‘ฟยอร์ด’ หรืออ่าวขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็ง เกิดภูมิทัศน์ของช่องทางน้ำที่ถูกโอบไว้ด้วยเขาสูง พบได้ไม่กี่แห่งบนโลก และ มีมากที่สุดที่นอร์เวย์ก่อนจะล่องเรือเป็นเวลา 1 วันเพื่อไปยังจุดหมายอันน่าตื่นตาจุดถ่อไป


* เครดิตภาพคริสต์มาสในทรอมโซจาก Visit Norway

        เข้าสู่วันที่ 6 - 7 ของการเดินทางตามแผนการ เรือจะหยุดแวะที่ ทรอมโซ (Tromso) หนึ่งในเมืองที่ดีที่สุดในการมาตามหาแสงเหนือ โดยช่วงเวลาที่จะพบแสงเหนือจะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน - เมษายน นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมทางการท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การไปเดินเที่ยวภายในเมือง การนั่งเคเบิลคาร์เพื่อไปชมวิวบนยอดเขา อีกทั้ง ทรอมโซ ยังเป็นหนึ่งในเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นเมืองท่องเที่ยวสำหรับเทศกาลคริสต์มาสของนอร์เวย์อีกด้วย



        ปลายทางต่อไปในวันที่ 7 - 9 อยู่ที่เมืองอัลตา (Alta) อีกหนึ่งเมืองซึ่งเป็นที่นิยมในการมาตามหาแสงเหนืออีกเมืองหนึ่ง โดยท่านจะได้สัมผัสไลฟ์สไตล์แบบชาวอาร์กติกของนอร์เวย์ตอนเหนือ อีกทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงที่โรงแรมน้ำแข็งอย่าง Sorrisniva Igloo Hotel จะเปิดให้เข้าพักและเข้าชม (ช่วงเดือนธันวาคม - เมษายน) ถ้าเวลามากพอก็เป็นอีกสถานที่ที่น่าสนใจที่จะแวะเข้าไปเยี่ยมชม


* เครดิตภาพจากเฟซบุ๊ค Visit Haugesund และเว็บไซต์ Avaldsnes

        เมืองสุดท้ายของนอร์เวย์สำหรับทริปนี้ คือ เฮาเกอซึน (Haugesund) เมืองแห่งราชาไวกิง เพราะในอดีตเป็นเมืองของฮาราลด์ แฟร์แฮร์ กษัตริย์องค์แรกของนอร์เวย์กว่าพันปีมาแล้ว ถือเป็นเมืองทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเมืองหนึ่งภายในเมืองมีพิพิธภัณฑ์ แกลอรี คาเฟ่ ร้านอาหาร และ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การแวะไป Avaldsnes หมู่บ้านที่จำลองวิถีชีวิตของชาวไวกิงสมัยโบราณขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ก่อนจะเดินทางกลับสู่เซาแธมป์ตัน จุดเริ่มต้นของเส้นทางนี้เพื่อเป็นการสิ้นสุดทริปตามหาแสงเหนือในเทศกาลคริสต์มาสอันอิ่มเอมนี้
​ค่าใช้จ่าย : ราคาเริ่มต้นที่ USD$ 4,741 (ประมาณ 168,779 บาท ณ พฤศจิกายน 2566) สำหรับ 1 ท่าน (ห้อง Suite)
รายละเอียดเพิ่มเติม : www.pocruises.com


* เครดิตภาพเรือ Amabella จาก Amawaterways

Amabella on The Danube River 

Package : Christmas Market on The Danube
กำหนดการ : 11 – 17 ธันวาคม 2023 (7 คืน)
ตารางการเดินทาง :
​Day 1 – 2 : Budapest, Hungary 
​Day 6 : Linz, Austria 
​Day 3 : Bratislava, Slovakia/Vienna, Austria 
​Day 7 : Passau-Vilshofen, Germany 
​Day 4 : Vienna, Austria 
​Day 8 : Vilshofen, Germany 
​Day 5 : Weissenkirchen-Melk, Austria 

        ช่วงเวลาคริสต์มาส ในโซนของยุโรปกลางจะเต็มไปด้วยสีสันของเทศกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัด Christmas Market ที่สร้างชีวิตชีวาและความครึกครื้นให้กับแต่ละเมืองใหญ่เป็นอย่างยิ่ง และถึงแม้ว่าในช่วงเวลานี้จะก้าวเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แต่แม่น้ำบางสายอย่างแม่น้ำดานูบ ยังคงสามารถทำการเดินเรือท่องเที่ยวได้อยู่ และ Christmas Market on the Danube โดยเรือ Amabella ถือเป็นทริปส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะสร้างประสบการณ์น่าประทับใจของการไปยลเสน่ห์เมืองในยุโรปกลางถึง 4 ประเทศ ทั้งฮังการี สโลวาเกีย ออสเตรีย และ เยอรมนี


* เครดิตภาพจาก Amawaterways 

        โดยเรือที่จะถูกใช้ในการล่องแม่น้ำนั้นจะเป็นเรือ Amabella เรือสำราญขนาดเล็กเพื่อการล่องแม่น้ำ แต่ยังคงความสะดวกสบายและความหรูหราสำหรับการพักผ่อนไว้อย่างครบครัน ภายในมีบริการสปาและห้องฟิตเนส รวมทั้งเสิร์ฟอาหารคุณภาพ โดยทาง Amawater เป็นสมาชิกอยู่ในเครือข่ายของ La Confrérie de la Chaîne des Rôtisseurs สมาพันธ์อาหารชั้นสูงระดับนานาชาติ มีรางวัล The Best 10 Cruises for Food จาก Food&Wine’s 2023 Global Tatesmakers List การันตีอีกด้วย และ ในบางพื้นที่ที่จอดแวะ สามารถซื้อบริการทัวร์ไกด์ เพื่อท่องเที่ยวแบบเข้าถึงวัฒนธรรมของชาวยุโรปกลางตามเมืองต่าง ๆ ที่แวะท่องเที่ยวได้ด้วยเช่นกัน 

        แน่นอนว่าไฮไลท์ของการล่องเรือแม่น้ำดานูบในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เป็นเพียงอีเวนต์ที่มีได้แค่ปีละครั้งเท่านั้นที่คุณจะได้ล่องแม่น้ำดานูบเที่ยวชมบรรยากาศ Christmas Market ของยุโรปกลางจากทั้ง 4 ประเทศ ทั้งฮังการี สโลวาเกีย ออสเตรีย และเยอรมนี ตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์นับพันปีท่ามกลางกลิ่นอายเทศกาลคริสต์มาสต์ฤดูหนาว ที่จะเพิ่มมนต์ขลังให้กับเมืองท่องเที่ยวมีความน่าประทับใจมากยิ่งขึ้น



        ทริปล่องแม่น้ำดานูบในเทศกาลคริสต์มาสนี้เริ่มต้นวันที่ 1 - 2 ของการเดินทางอยู่ที่กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) ประเทศฮังการี เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งแม่น้ำดานูบ ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงาม เช่น สะพานเชน สะพานโซ่ขนาดใหญ่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสะพานข้ามแม่น้ำดานูบที่สวยที่สุด โบสถ์เซนต์สตีเฟนสัน โบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของฮังการี โบสถ์แมทเทียสอายุกว่า 700 ปีที่มีหลังคาหลากสีสันสดใสโดดเด่นเป็นอย่างมาก รวมทั้งรัฐสภาฮังการีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นรัฐสภาที่สวยงามที่สุดในโลก และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส บูดาเปสต์จะครึกครื้นไปด้วยผู้คนและแสงไฟประดับจาก Christmas Market ที่ถูกจัดขึ้นบริเวณจัตุรัสกลางเมืองโวโรสมาตี้ มีการจัดแสดงดนตรีหลากหลายแนวเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับงาน



        ต่อมากับวันที่ 3 ของทริปนี้คุณจะล่องแม่น้ำดานูบไปสู่เมืองบราติสลาวา (Bratislava) เมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย สัมผัสคริสต์มาสในแบบสโลวาเกีย รวมทั้งนำชมปราสาทบราติสลาวา ก่อนจะพาคุณไปยังกรุงเวียนนา (Vienna) ประเทศออสเตรียในช่วงเย็น



        เข้าสู่วันที่ 4 เราจะใช้เวลาอย่างเต็มที่ เพื่อดื่มด่ำมนต์เสน่ห์แห่งเทศกาลคริสต์มาสของกรุงเวียนนา ซึ่งนอกเหนือจากเป็นเมืองหลวงของออสเตรียแล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นนครแห่งเสียงดนตรี ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอารยธรรม และ กลิ่นอายความรุ่มรวยของศิลปะในแขนงต่าง ๆ โดยในทริปจะมีให้เลือกทั้งทัวร์ชมสถาปัตยกรรมทรงคุณค่า เช่น โรงอุปรากร พระราชวังฮาพส์บวร์ค ไปจนถึงศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์กรุงเวียนนา หรือจะไปทัวร์จักรยานเที่ยวชมเมืองยามบ่าย ในช่วงเย็นจะพาเยี่ยมชม Christmas Market หน้าพระราชวังเชินบรุนน์ และ ที่หน้าศาลาว่าการกรุงเวียนนาที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่



        หลังจากชมความสวยงามของกรุงเวียนนากันมาอย่างเต็มที่แล้ว ต่อมาวันที่ 5 ท่านจะได้ล่องเรือไปยังเมืองไวส์เซนไคร์เชน (Weissenkirchen) และ เมืองเมลค์ (Melk) โดยไวส์เซนไคร์เชนนั้นถือได้ว่าเป็นเมืองผลิตไวน์ชั้นดีของออสเตรีย เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างเงียบสงบ ที่นี่คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการจะไปเดินทัวร์เมืองพร้อมชิมไวน์ หรือ จะไปตามร้านค้าท้องถิ่นเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แยมแอปริคอต และ ช็อกโกแลตที่เป็นของฝากรสอร่อยประจำเมือง จากนั้นเรือจะพาคุณผ่าน Wachau Valley หุบเขาที่มีทัศนียภาพสวยงามริมแม่น้ำดานูบตอนล่าง หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกของยูเนสโกซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเมืองเมลค์



        ต่อมาเรือจะเข้าสู่เมืองลินซ์ (Linz) ในวันที่ 6 ที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรปในปี 2009 เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ในช่วงยุคกลางเมืองลินซ์เจริญมากเนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อของเส้นทางการค้าในสมัยนั้น ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของออสเตรีย เจริญทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และ วัฒนธรรม รวมทั้งในช่วงคริสต์มาส ที่นี่ก็มี Christmas Market ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้เมืองไหนในยุโรป


* เครดิตรูป Christmas Market ที่พัสเซา จากเว็บไซต์ passauer-christkindlmarkt

        ข้ามสู่ประเทศเยอรมนีที่เมืองพัสเซา (Passau) ในวันที่ 7 โดยเมืองนี้เป็นเมืองแห่งแม่น้ำสามสายบรรจบกัน ระหว่างแม่น้ำดานูบ (สีน้ำเงิน) แม่น้ำอินน์ (สีเขียว) และแม่น้ำอิลซ์ (สีดำ) เป็นเมืองชายแดนเล็ก ๆ ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของเยอรมันโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่ได้บรรยากาศแบบบาวาเรียน มีตลาด Christmas Market ที่จัตุรัสเซนต์สตีเฟนที่ท่านสามารถเลือกซื้อเครื่องแก้วชั้นดีจากร้านค้าท้องถิ่น ฯลฯ ก่อนจะพาคุณมาส่งที่จุดหมายปลายทางยังเมืองวิลส์โฮเฟน (Vilshofen)
​ค่าใช้จ่าย : ราคาเริ่มต้นที่ USD$ 3,499 สำหรับ 1 ท่าน (ประมาณ 124,564 บาท ณ พฤศจิกายน 2566)
รายละเอียดเพิ่มเติม : amawaterways.com



Santa Claus Express Night Train-Finland

Package : Santa Claus Express Night Train no. 275/263, 266/274
กำหนดการ : ทุกวัน
ตารางการเดินทาง : Helsingki - Tampere - Oulu – Rovaniami 

        นอกจากล่องเรือสำราญ ชมเมืองท่องเที่ยว และ แวะตลาด Christmas Market มากมายแล้ว Ultimate Leisure อยาจะเชิญชวนทุกท่าน สัมผัสบรรยากาศของเทศกาลคริสสต์มาสด้วยการนั่งรถไฟสายพิเศษ โดยเริ่มจากนั่งรถไฟไปหาซานตาคลอสที่เฮลซิงกิ เมืองหลวงประเทศฟินแลนด์ ที่มีรถไฟด่วนสายกลางคืนจากสถานีกลางเฮลซิงกิ และไปลงปลายทางที่โรวาเนียมี ดินแดนอันเป็นบ้านเกิดของซานตาคลอสไว้บริการนักท่องเที่ยวอย่างสะดวกสบาย และ เหมาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาแห่งเทศกาลคริสต์มาสที่ควรได้ประสบการณ์นั่งรถไฟไปเที่ยวบ้านซานตาคลอสกันซักครั้ง


* เครดิตภาพจาก Finnish Railways (VR)

        Santa Claus Express Night Train เป็นรถไฟสองชั้น ออกจากสถานีกลางเฮลซิงกิในเวลา 18.49 น. และไปถึงยังสถานีกลางโรวาเนียมีเวลา 07.38 น. ในวันรุ่งขึ้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง 49 นาที แล่นผ่านทิวทัศน์ฤดูหนาวที่งดงามของฟินแลนด์จากเฮลซิงกิ ผ่านตัมเปเร และ โอลู ก่อนจะถึงโรวาเนียมี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตแลปแลนด์ซึ่งเป็นบริเวณเหนือสุดของประเทศ



        การมาเยือนโรวาเนียมีในช่วงเดือนธันวาคมนั้น เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุด เพราะ เป็นช่วงที่ตรงกับเทศกาลคริสต์มาส แม้ว่าจะหนาวเย็นจนอุณหภูมิติดลบ แต่ความอบอุ่นจากเทศกาล และ เสน่ห์ของเมืองฤดูหนาวแบบยุโรปตอนเหนือจะทำให้การมาท่องเที่ยวที่เมืองนี้มีแต่ความรื่นเริง สนุกสนานตลอดการมาเยือน อีกทั้ง มีกิจกรรมสำหรับวันหยุดคริสต์มาสมากมาย เช่น การไปเที่ยวหมู่บ้านซานตาคลอส ถ่ายรูปคู่กับซานตา แวะส่งโปสการ์ดที่ที่ทำการไปรษณีย์ของหมู่บ้าน ติดสแตมป์ ประทับตรา Santa Claus Village ส่งไปให้คนพิเศษแทนคำอวยพร เยี่ยมชมโรงเรียนเอลฟ์ นั่งเกวียนกวางเรนเดียร์ นั่งเลื่อนสุนัขฮัสกี้ ขี่สโนว์โมบิลซาฟารี ฯลฯ
​ค่าใช้จ่าย : เคบินตู้นอนมีห้องน้ำส่วนตัว ราคาประมาณาณ €39-160 (ประมาณ 1,509-6,189 บาท ณ พฤศจิกายน 2566)
รายละเอียดเพิ่มเติม : eurail.com/en/plan-your-trip/trip-ideas/trains-europe/night-trains/santa-claus-express
Booking : การจอง Santa Claus Express Night Train เป็นการโทรศัพท์จองกับเจ้าหน้าที่ Finnish Railways (VR) โดยตรง ตามเบอร์ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ (+358 9 2319 2902)



The Santa Steam Express-UK

Package : The Santa Steam Express
กำหนดการ : 15, 18 และ 21 ธันวาคม 2023 วันละ 4 รอบ
ตารางการเดินทาง : สถานีกลางลอนดอน - สถานีวิคตอเรีย 

        กลิ่นอายเทศกาลคริสต์มาสต์ของกรุงลอนดอน ก็มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครทั้งความทันสมัยสุดขีดและความอนุรักษ์นิยมแบบสุดขั้วผสมผสานกันอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน ทั้งยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่น่าเรียนรู้ หนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอนอย่างหนึ่ง คือ รถไฟไอน้ำ นวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่เกิดขึ้นครั้งแรกในอังกฤษนี้เอง แม้ว่าจะถูกลดทอนความสำคัญในฐานะคมนาคมหลักไปนานแล้ว แต่ที่ลอนดอนยังคงการเดินรถไฟไอน้ำเพื่อการท่องเที่ยวสไตล์นอสตัลเจียเอาไว้ โดยในเดือนธันวาคมนี้ The Steam Dream Rail Co ซึ่งบุกเบิกธุรกิจเดินรถไฟไอน้ำเพื่อการท่องเที่ยวในอังกฤษได้จัดทริปรถไฟสั้น ๆ เป็น Holiday Train สำหรับทุกคนในครอบครัว คือ The Santa Steam Express


* เครดิตภาพจาก The Steam Dream Rail Co 

        The Santa Steam Express จะเป็นรถไฟรอบสั้น ๆ จากสถานีวิคตอเรียซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังบัคกิงแฮม  ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองลอนดอนฝั่งตะวันตก ทัศนียภาพริมแม่น้ำเทมส์ และ ย่านต่าง ๆ ตามเส้นทางที่รถไฟแล่นผ่าน เช่น ย่านชิสวิค (Chiswick) ย่านที่อยู่อาศัยสุดหรูที่มีบรรยากาศร่มรื่น ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 90 นาทีต่อ 1 รอบ ก่อนจะกลับมาที่จุดเริ่มต้นสถานีวิคเตอเรีย


* เครดิตภาพจก The Steam Dream Rail C​o 

        โดยก่อนขึ้น ผู้โดยสารที่เป็นเด็กจะได้รับเครื่องดื่มรับรองอุ่น ๆ และ ขนมหวานเป็นของขวัญก่อนออกเดินทาง ก่อนจะขึ้นไปพบกับซานตาคลอสบนรถไฟเพื่อรับของขวัญคริสต์มาส แนะนำให้ผู้ปกครองแจ้งอายุของบุตรหลานก่อนขึ้นรถไฟเพื่อที่ทางเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมของขวัญที่เหมาะสมกับเพศและอายุของเด็ก ๆ ได้ถูกต้อง สำหรับผู้โดยสารทั่วไปจะได้รับเสิร์ฟมินซ์พาย เครื่องดื่มชากาแฟ พร้อมของว่างต่าง ๆ ที่เข้ากับเทศกาลคริสต์มาส เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมคริสต์มาสสไตล์อังกฤษแบบดั้งเดิมแต่สะดวกสบายและน่าประทับใจสำหรับทุกคนในครอบครัว
​ค่าใช้จ่าย : £65 (ประมาณ 2,886 บาท ณ พฤศจิกายน 2566) ต่อท่าน
รายละเอียดเพิ่มเติม : santa-express.steamdreams.co.uk/santasteamexpresstours.php



The Polar Express, Colorado-U​.S.A. 

Package : The Polar Express
กำหนดการ : 17 พฤศจิกายน 2023 - 1 มกราคม 2024
ตารางการเดินทาง : สถานี Durango - The North Pole, Colorado

        โคโลราโด เป็นรัฐทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา อยู่ในเทือกเขาร็อกกีซึ่งครอบคลุมอยู่เกือบครึ่งหนึ่งของรัฐทางฝั่งตะวันตก โคโลราโดมีเมืองสำคัญในการท่องเที่ยวหลายเมืองในการสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ และ สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเดนเวอร์ (Denver) เมืองหลวงของรัฐแอสเพน (Aspen) เมืองสกีรีสอร์ทสุดหรู และ จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวธรรมชาติทางรถไฟอย่าง เมืองดูแรงโก (Durango) ซึ่งทุกฤดูหนาวปลายปีจะมีการจัดรถไฟสาย Christmas Holliday อย่าง The Polar Express เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส


Denver & Aspen

        ทริปนั่งรถไฟคริสต์มาส 2 ชั่วโมงกับบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสที่ราวกับหลุดไปยังวรรณกรรมเยาวชนของ คริส แวน ออลส์เบิร์กกับ The Polar Express ที่เคยทำเป็นภาพยนตร์ดังมาแล้ว เรื่องราวของเด็กชายผู้ไม่เชื่อว่าซานตาคลอสมีอยู่จริงได้ขึ้นขบวนรถไฟปริศนายามค่ำคืนและพบกับการผจญภัยอันแสนตื่นเต้นในคืนวันคริสต์มาสอีฟ Durango & Silverton Narrow Gauge Railroad ผู้ดำเนินธุรกิจรถไฟท่องเที่ยวในเมืองนี้จึงจัดทริป The Polar Express ขึ้นมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสให้กับชาวเมืองและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล


* เครดิตภาพจากเว็บไซต์ Durango & Silverton Narrow Gauge Railroad 

        The Polar Express จะเปิดรอบวิ่งตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงค่ำ วันละ 3 รอบ คือ 16:55 น.,18:30 น. และ 20:00 น. แนะนำให้ผู้โดยสารสวมใส่ชุดนอนเพื่อเข้ากับบรรยากาศในหนังสือและภาพยนตร์ ทุกท่านจะได้รับเสิร์ฟเครื่องดื่มอุ่น ๆ อย่างช็อกโกแลตร้อน ของว่าง และ ขนมหวานต่าง ๆ เมื่อรถไฟเคลื่อนตัวก็จะได้รับชมการแสดงดนตรีและแสงสีเสียง เพื่อให้บรรยากาศของขบวนรถเต็มไปด้วยความรื่นเริงและสนุกสนานอย่างเต็มที่ สร้างความประทับใจกับการเดินทางได้ทั้งครอบครัว 
​ค่าใช้จ่าย : ราคาชั้น First Class สำหรับผู้ใหญ่คนละ USD$ 67-93 (ประมาณ 2,385 - 3310 บาท ณ พฤศจิกายน 2566) ราคาเด็ก USD$ 57-83 (ประมาณ 2,029 - 2,954 บาท ณ พฤศจิกายน 2566) ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่เลือกโดยสาร
รายละเอียดเพิ่มเติม : durangotrain.com

        เรื่องราวและมนต์ขลังของเทศกาลคริสต์มาสมักทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความสุขและความอบอุ่นหัวใจได้เสมอ Ultimate Leisure ขอมอบเรื่องราวการท่องเที่ยวแสนสุขในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้เป็นดั่งของขวัญและคำอวยพรส่งท้ายปีเก่าสำหรับผู้อ่านทุกท่าน และ ก้าวข้ามไปสู่ความสุขของปีใหม่ 2024 ไปด้วยกันนะคะ



กลับ