Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​        ในช่วงของการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เช่นนี้ นอกจากกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อแพลิดเพลินไปกับสีสันของเทศกาลทั่วโลกแล้ว การได้หาร้านอาหารอร่อย ๆ เพื่อดื่มด่ำบรรยากาศไปพร้อม ๆ กับลิ้มรสชาติสุดประทับใจกับครอบครัวก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยม และเพื่อความพิเศษยิ่งขึ้นในวันนี้ The Explorer ได้หยิบลิสต์รายชื่อร้านดังที่เปิดตัวในปีนี้ และขึ้นชื่อในเรื่องของความยากในการสำรองที่นั่ง รวมไปถึงการมาของร้านอาหารจากเชฟคนดัง กอร์ดอน แรมซีย์ที่จะมาเปิดสาขาแรกในประเทศไทยเดือนธันวาคมนี้ 




SUSHI SAITO 

Address : 300/1 ถ. เจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
Open : เปิดบริการ อังคาร – อาทิตย์ เวลา 12:00 - 14:00 น., 17:30 - 19:30 น., 19:45 - 22:30 น. ปิดวันจันทร์

        Sushi Saito ร้านซูชิระดับ 3 ดาวมิชลินร้านดังจากโตเกียวที่มีชื่อเสียงทั้งในเรื่องของวัตถุดิบคุณภาพพรีเมียม ทักษะการทำอาหารของเชฟ รวมไปจนถึงการสำรองที่นั่งที่ยากมาก ๆ เพราะระบบการจองโต๊ะที่รับลูกค้าจากการแนะนำของลูกค้าประจำ ทำให้ร้านเป็นที่ต้องการของเหล่านักชิมที่ต้องการมาเปิดประสบการณ์ให้ได้ซักครั้ง และ ยังมีสาขาทั่วโลกอยู่เพียงแค่ 3 แห่งคือ โตเกียว ฮ่องกง และ ที่กรุงเทพที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2023 นี้


เชฟ Takashi Saito

        ร้านตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงแรม Four Seasons Bangkok เสิร์ฟเมนูโอมากาเสะในแบบเอโดะมาเอะ (Edomae) โดยเชฟจะแสดงทักษะการทำซูชิแบบสมัยเอโดะที่เรียบง่าย และ ประณีต เน้นรสธรรมชาติของวัตถุดิบ ปรุงแต่งรสให้น้อยที่สุด ดูแลโดยเชฟ Makoto Maruyama ซึ่งเคยทำงานที่ร้านหลักสาขาโตเกียวมาก่อน ส่วนในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบนั้น เชฟ Takashi Saito ผู้เป็นเจ้าของร้านจะเป็นผู้เลือกวัตถุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาลด้วยตัวเอง ส่งตรงจากญี่ปุ่นมายังเมืองไทยเพื่อคงมาตรฐานของร้านให้ได้มากที่สุด


Crimson Zuke ปลาทูน่าเนื้อแดง และ ซูชิคำพิเศษที่ทำจากปลา Kohada 

        ในขณะที่ร้านสาขาหลักในญี่ปุ่นปัจจุบันนี้รับเฉพาะลูกค้าที่ผ่านการแนะนำจากลูกค้าประจำ ทำให้นักชิมหน้าใหม่หลายท่านอาจถอดใจกันไปแล้ว แต่ในกรุงเทพฯ แม้จะต้องรอคิวสำรองที่นั่งค่อนข้างนานแต่โอกาสที่จะไปชิมรสชาติโอมากาเสะแบบเอโดะมาเอะมาตรฐานเดียวกับ Sushi Saito ที่โตเกียวนั้นยังมีโอกาสมากกว่า และไม่ต้องเดินทางไปถึงญี่ปุ่นอีกด้วย
​Price : Lunch เริ่มต้นที่ท่านละ 5,800 บาท++ / Dinner เริ่มต้นที่ท่านละ 8,500 บาท++
Reservation : สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ 02-0601999



FUEGO

Address : The Taste Thonglor ชั้น 2 ถ. ทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1010
Open : เปิดบริการ พุธ – จันทร์ เวลา 17:30 - 24:00 น. ปิดวันอังคาร
Map : Google Map
Facebook : FUEGO 

        ร้านอาหารสไตล์ Tapas ที่ผสมผสานวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นและสเปนเข้าด้วยกันและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการรังสรรค์เมนู ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง นำเสนออาหารในคอนเซ็ปต์ “The innovative Spanish and Japanese Tapas” ให้ทั้งรสชาติละเมียดละไมแบบญี่ปุ่นและเข้มข้นจัดจ้านในแบบสเปน และเมนูจะถูกเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลาเป็นไปตามวัตถุดิบตามฤดูกาล ดูแลโดยเชฟชาวสเปน Roger Solé เพิ่งเปิดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้



        ภายในร้าน โดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ที่มีครัวแบบเปิดตั้งอยู่ตรงกลาง โชว์ทักษะการใช้ไฟในการทำอาหารของเชฟ ตามความหมายของชื่อร้าน Fuego ในภาษาสเปนที่แปลว่า ไฟ อาหารเสิร์ฟสไตล์ Tapas ทั้งแบบ 11 คอร์สสำหรับนักชิม และ a la cart สำหรับผู้ที่ต้องการรับอาหารมื้อเบา ๆ แฮงเอาท์กับเพื่อนฝูง จิบค็อกเทล เพลินไปกับเพลงละตินและบรรยากาศอันคึกคักภายในร้านที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเพราะแขกที่ค่อนข้างจะแน่นร้าน ควรสำรองโต๊ะล่วงหน้าให้แน่ใจว่าจะได้ที่นั่งแน่นอน เพราะทั้งร้านมีเพียงที่นั่งรอบเคาน์เตอร์เพียงยี่สิบกว่าที่ และโต๊ะอาหารที่รองรับได้ 4 - 5 ท่านเพียงโต๊ะเดียวเท่านั้น
​Price : ค่าใช้จ่ายต่อท่านประมาณ 1,000 - 2,000 บาท / Tapas Set Menu ราคาเซ็ตละ 2,600 บาท ต่อ 1 ท่าน
Reservation : Line: @fuegobkk


* เครดิตภาพจาก juksunch​aebkk.com

JUKSUNCHAE

Address : Woodberry Common ชั้น 5, 15/3 ซ. ร่วมฤดี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Open : เปิดบริการ พุธ – จันทร์ เวลา 18:00 - 23:00 น. ปิดวันอังคาร
Website : juksunchaebkk.com 

        ร้านอาหารเกาหลีแบบไฟน์ไดน์นิงแห่งแรกในไทย นำเสนออาหารเกาหลีเมนูต้นตำรับที่อยู่ในรูปแบบร่วมสมัยแบบที่คุณไม่สามารถหาได้จากร้านอาหารเกาหลีอื่น ๆ ในกรุงเทพ ดูแลโดยเชฟชาวเกาหลีแท้ ๆ อย่างเชฟ Henry Lee เปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 และได้รับการแนะนำจากเว็บไซต์มิชลินสตาร์อย่างรวดเร็ว


* เครดิตภาพจากเฟซบุ๊ค Juksunchae 

        Juksunchae เสิร์ฟอาหารสไตล์โอมากาเสะ 12 คอร์ส เมนูอาหารเกาหลีดั้งเดิมที่นักชิมหลายท่านน่าจะรู้จักดี เช่น บิบิมบับ บุลโกกิ มันดู ฯลฯ จะถูกจับมาใส่ความครีเอทีฟกลายเป็นอาหารจานสวยที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ เช่น EO Mando เกี๊ยวแบบเกาหลีที่ใช้เนื้อปลามาห่อแทนแป้ง ใช้ไส้เป็นหมูสับและกิมจิย่าง  Seong-Gye-Al Bibimbap บิบิมบับระดับพรีเมียมที่ใช้อูนิหรือไข่หอยเม่นมาเป็นตัวชูโรง ยกระดับรสชาติให้มีความพิเศษ หรือจะเป็น Gul Bulgogi ที่เปลี่ยนจากเนื้อวัวมาเป็นหอยนางรมแทน เป็นการนำเสนอวัฒนธรรมทางอาหารของเกาหลีในรูปแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจ อร่อยแบบต้องจองล่วงหน้าแต่เนิ่น ๆ เพราะที่ร้านมีที่นั่งเพียงแค่ 16 ที่เท่านั้น เพื่อรักษาบรรยากาศความเป็นส่วนตัวของลูกค้า
​Price : โอมากาเสะแบบ 12 คอร์ส ราคา 3,900 บาท / Wine Pairing 4 แก้ว ราคา 1,700 บาท


* เครดิตภาพจากเฟซบุ๊ค ร้านอาหารตามกาล

TIMEKAAN

Address : 76 สุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 1010
Open : เปิดบริการ พฤหัสบดี – อังคาร เวลา 17:30 - 23:00 น. ปิดวันพุธ

        ร้านอาหารตามกาล ร้านอาหารไทยที่นำเสนอแนวคิดใหม่ ด้วยการนำเมนูอาหารไทยโบราณอายุกว่าร้อยปีมาเล่าเรื่องใหม่ในรูปแบบของอาหารไฟน์ไดน์นิง โดยคุณปุ้ย ตรีประดับ หวังวงวิวัฒน์ เจ้าของร้านและเชฟโปร พรพรหม เหล่ามนัสศักดิ์ ซึ่งอยู่ในวงการอาหารไฟน์ไดน์นิงระดับมิชลินสตาร์ด้วยกันทั้งคู่ ตั้งใจที่จะนำเสนออาหารไทยภายใต้คอนเซ็ปต์การนั่งไทม์แมชชีนย้อนประวัติศาสตร์ไปพบกับอาหารที่มีเรื่องราวและรากเหง้าที่ยาวนานนับร้อย ๆ ปี


* เครดิตภาพจากเฟซบุ๊ค ร้านอาหารตามกาล 

        เมนูอาหารไทยดั้งเดิมที่หลายคนอาจจะไม่รู้จัก เช่น เครื่องกรอบชาววัง หรือ หมี่น้ำบ้านราชทูต ที่มีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเส้นหมี่ทอดกรอบ เนื้อปูและขิง เมนูที่ใช้รับรองแขกบ้านแขกเมืองที่มีตำรับยาวนานเกินร้อยปี ขนมสัมปันนีที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตำรับท้าวทองกีบม้า แต่เสริมกลิ่นอายความเป็นฝรั่งด้วยแครนเบอร์รี ทวิรสสดชื่น หรือ ปลาแห้งแตงโม เมนูสมัยอยุธยาตอนต้น นำมาแต่งหน้าตาใหม่จนดูคล้ายขนมแสนสวย แต่คงรสชาติแบบดั้งเดิม ทั้งหมดนี้ล้วนผ่านการค้นคว้าศึกษาหาข้อมูลอย่างหนักของทีมเชฟเพื่อนำเสนออาหารไทยต้นตำรับที่สามารถทำให้นักชิมสนุกสนานไปกับเรื่องราวและรสชาติได้อย่างเต็มที่
​Price : เซ็ตเมนู 17 คอร์ส ราคา 3,900 บาท++


* เครดิตภาพจากเว็บไซต์ kiri tsukemen 

KIRI TSUKEM​EN BY TSURU

Address : 64 ซ. ทองหล่อ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
Open : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11:00 - 15:00 น. / 17:00 - 21:00 น.

        สึเคเมน เป็นเมนูราเมนแบบหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นราเมนที่แยกน้ำซุปและเส้นออกจากกัน น้ำซุปจะมีความเข้มข้นมากเป็นพิเศษ เวลารับประทานใช้วิธีคีบเส้นจุ่มเส้นลงในน้ำซุป โดยเส้นอาจจะเป็นเส้นราเมน โซบะ หรืออุด้งก็ได้


* เครดิตภาพจากเว็บไซต์ kiri tsukem​en 

        Kiri Tsukemen เป็นราเมนร้านใหม่ในเครือ Tsuru ที่เปิดตัวในปีนี้ มีความพิเศษจากการที่ทางร้านจะเสิร์ฟสึเคเมนเส้นสดเป็นเมนูหลัก แต่มีความเป็นต้นตำรับโดยเฉพาะของทางร้าน คัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลาในการเคี่ยวน้ำซุปนานจนได้กลิ่นรสที่หอมเข้มข้นจากกระดูกไก่ กระดูกหมู และปลาทะเลแห้ง เสิร์ฟพร้อมชามหินที่ทำให้คงความร้อนของน้ำซุปได้ตลอดมื้ออาหาร มีน้ำซุป 6 แบบให้เลือก โดยเมนู kiri tsukemen จะเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นน้ำซุปกระดูกหมูผสมกระดูกไก่สูตรของทางร้าน 

        ร้านเปิดเพียงวันละ 2 รอบ และ มีที่นั่งภายในร้านเพียงแค่ 10 ที่นั่งเท่านั้น ด้วยชื่อเสียงความอร่อย และมีจำนวนที่นั่งจำกัดทำให้คิวของร้านค่อนข้างจะแน่น โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เป็นอีกหนึ่งความอร่อยที่นักชิมต้องรอเพื่อลิ้มลอง
​Price : เมนูสึเคเมนทุกรายการ ราคาอยู่ที่ 350 บาท
Reservation : ไม่มีบริการสำรองที่นั่ง ใช้การรอคิวหน้าร้าน


*เครดิตภาพจากเฟซบุ๊ค Gordon R​amsey 

BREAD STREET KITCHEN & BAR / STREET PIZZA

        สิ้นสุดการรอคอยกับร้านอาหารร้านแรกในไทยจากเชฟคนดัง กอร์ดอน แรมซีย์ ที่จะเปิดตัวในเดือนธันวาคมนี้ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มสเฟียร์ ย่านพร้อมพงศ์ กับ ร้าน Bread Street Kitchen และ ร้าน Street Pizza ร้านอาหารสไตล์ Casual Dining ในแบรนด์ของกอร์ดอน แรมซีย์ พร้อมสร้างประสบการณ์ของความอร่อยพรีเมียมแบบใหม่ในไทย 

        โดยเชฟกอร์ดอน แรมซีย์นั้น นอกจากจะโด่งดังจากรายการเรียลลิตี้ทำอาหารที่มีชื่อเสียงอย่าง Hell’s Kitchen และ MasterChef แล้ว เขาเป็นเจ้าของมิชลินสตารหลายดวงจากร้านอาหารทั้งหมดที่อยู่ในการดูแลจัดการของเขาอีกด้วย โดยเคยได้มากที่สุดถึง 16 ดวง จากร้านอาหารกว่า 58 แห่งทั่วโลกของเขา ถือเป็นเชฟที่ได้รับมิชลินสตาร์มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก


*เครดิตจากเฟซบุ๊ค Bread Street Kitchen & Bar 

        Bread Street Kitchen & Bar เป็นอีกหนึ่งร้านแฟรนไชส์ของกอร์ดอน แรมซีย์ที่เปิดร้านทั้งในฝั่งยุโรปและเอเชีย เช่น สาขาที่ฮ่องกง สิงค์โปร์ และดูไบ เป็นร้านที่เสิร์ฟแบบ All-day Dining พร้อมเสิร์ฟอาหารขึ้นชื่อของเขาอย่างเช่น Beef Wellington, Fish & Ships, Macaroni Cheese และ Sticky Toffee Pudding ฯลฯ


*เครดิตภาพจากเฟซบุ๊ค Gordon Ramsey Street Pizza 

        Street Pizza อีกหนึ่งร้านของกอร์ดอน แรมซีย์ จุดเด่นอยู่ที่การเป็นพิซซ่าที่ทำจากแป้งซาวโดวจ์อบใหม่ ในคอนเซ็ปต์ของร้าน ‘pizza without rules’ เสิร์ฟพิซซ่าหน้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบดั้งเดิมอย่าง Classic Margherita หรือ Peperoni และ แบบครีเอทีฟอย่าง Nduja & Courgette Pesto ที่เป็นแบบมังสวิรัติ หรือ Corn & Chorizo ที่ใส่ข้าวโพดและไส้กรอกโชริโซ่ซึ่งเป็นไส้กรอกแบบสเปน พร้อมเมนู Side Dish ให้เลือกอีกมากมาย 

        และนี่คือเรื่องราวประสบการณ์ความอร่อยส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในเดือนธันวาคมที่ The Explorer ขอมอบให้กับท่านผู้อ่าน ปิดท้ายปี 2023 ก้าวสู่ปี 2024 ไปด้วยกันค่ะ

 


กลับ