Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​​​​        ก้าวเข้าสู่เดือนเมษายน กับบรรยากาศหน้าร้อนที่ชวนให้แพ็กกระเป๋า ออกจากบ้านไปเปิดประสบการณ์ใหม่เพื่อสร้างความทรงจำ แม้สถานการณ์ COVID-19 ยังคงอยู่ แต่หากเตรียมตัวเป็นอย่างดี ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ก็สามารถเดินทางไปพักผ่อนได้อย่างมีความสุข ด้วยกิจกรรมแบบ ‘Exclusive’ ที่ Ultimate Leisure หยิบยก เสนอเป็นไอเดียเพื่อให้ซัมเมอร์นี้มีแต่ความประทับใจมิรู้ลืม

เที่ยวแบบ Staycation ครบทุกกิจกรรม มีให้ทำในที่เดียว
หากไม่อยากเสียเวลาเดินทางไปไหนไกล ๆ แต่อยากหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเมืองกรุง หรือ จังหวัดใกล้เคียงตอนนี้เทรนด์ การพักผ่อนแบบ “Staycation” กำลังได้รับความนิยม ซึ่งโรงแรมหลาย ๆ แห่งได้มีการปรับรูปแบบการให้บริการแก่ลูกค้าที่มาพัก ให้รู้สึกปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยมีการจัดเตรียมกิจกรรมหลากหลายเพื่อนำเสนอประสบการณ์สุด Exclusive ให้คุณได้เพลิดเพลินตลอดวันภายในที่พักโดยไม่ต้องออกไปไหน ซึ่ง Ultimate Leisure ขอแนะนำ 2 โรงแรมชั้นนำที่ปรับรูปแบบบริการให้รับกับกระแส Staycation ดังนี้ค่ะ  

Sala Bang Pa-in
Address : หมู่ 6 บางกระสั้น บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา | Tel. 035-246388
        เริ่มกันที่ ศาลาบางปะอิน บูติกรีสอร์ตดีไซน์เรียบหรูบนเกาะส่วนตัวริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลางเมืองประวัติศาสตร์อยุธยา มาพร้อมแนวคิด “Historical Getaway” เหมาะกับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ไทย ผ่อนคลายไปกับวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา โอบล้อมไปด้วยกลิ่นอายของเมืองเก่า พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับให้กับผู้มาเยือน
โดดเด่นด้วยการออกแบบรีสอร์ตที่เรียบง่าย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ห้องพักเพรสซิเดนเชียล พูลวิลล่า วิวแม่น้ำ สามารถชมทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามได้จากในห้อง มีพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและกลางแจ้งรวม 484 ตารางเมตร เหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนได้มาพักผ่อนและใช้เวลาอันมีค่าร่วมกัน นอกจากนี้ ยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่ทอดยาวไปตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาถึง 30 เมตร และร้านอาหารรสเลิศ พร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารไทยและนานาชาติ- โดยใช้สมุนไพรและผักออแกนิกที่ปลูกในสวนของทางรีสอร์ต ทานคู่ไวน์เกรดพรีเมียมนำเข้าจากทั่วโลก
ส่วนกิจกรรมของทางรีสอร์ต นอกจากเลือกผ่อนคลายแบบสบาย ๆ ด้วยบริการสปาภายในห้องพักแล้ว ยังมีบริการล่องเรือชมพระราชวังบางปะอินและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ก่อนปิดท้ายด้วยการล่องเรือดูพระอาทิตย์ตกยามเย็น  หรือจะเลือกการปั่นจักรยานรอบเมืองอยุธยาและพระราชวังบางปะอิน เพื่อให้การพักผ่อนครั้งนี้เต็มไปด้วยประสบการณ์ใหม่อันน่าประทับใจ


Four Seasons Hotel Bangkok
Address : 300/1 ถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพมหานคร | Tel. 02-0320888
Google Map : https://goo.gl/maps/4TsgX5BZLMW2fbfL9​
        ต่อกันที่ Four Seasons Hotel Bangkok จุดเด่นสำคัญ คือ โลเคชัน ซึ่งติดแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านเจริญกรุง โดยมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มองเห็นวิวแม่น้ำได้อย่างชัดเจน เสมือนเชื่อมต่อแม่น้ำให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม มี The Urban Wellness Center แบบครบวงจร และร้านอาหารนานาชาติให้ได้เลือกทานตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น Riva del Fiume Ristorante ร้านอาหารอิตาเลียนรสชาติต้นตำรับ, Brasserie Palmier ร้านอาหารฝรั่งเศส เน้นเมนูจากปลาและอาหารทะเลที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี YU TING YUAN ร้านอาหารจีนกว้างตุ้งต้นตำรับซิกเนเจอร์ของโรงแรม และ BKK Social Club บาร์บรรยากาศดีที่มีบาร์เทนเดอร์มือรางวัล Philip Bischoff คอยดูแลด้านเครื่องดื่ม นอกจากนี้ ยังมี The Lounge พื้นที่ส่วนกลางบริเวณล็อบบี้ที่ทำหน้าที่เสิร์ฟชายามบ่ายคอยให้บริการ ให้ทุกคนในครอบครัวได้เลือกทำกิจกรรมกันได้ตามความชอบ


ล่องเรือ Pruek Cruise พร้อมดินเนอร์ระดับมิชลินสตาร์
Address : ท่าเรือโรงแรมรามาดา พลาซา ถนนเจริญกรุง วัดพระยาไกร บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร | Tel. 088-0801800
Google Map : ท่าเรือโรงแรมรามาดา พลาซา - https://goo.gl/maps/2gS3728397vv6yMk6​
ท่าเรือไอคอนสยาม - https://goo.gl/maps/pPMsVbLzwUN6FX7k9​
        สุดท้ายพาไปล่องเรือ Pruek Cruise เรือครูซสุดหรูบนแม่น้ำเจ้าพระยา สัมผัสความงดงามของบรรยากาศยามเย็นไปพร้อมกับการดินเนอร์ ลิ้มรสอาหารจากฝีมือเชฟระดับมิชลินสตาร์ โดยเส้นทางเดินเรือเริ่มต้นจากท่าเรือไอคอนสยามมุ่งหน้าไปยังสะพานพระปกเกล้า จากนั้นกลับมายังสะพานพระราม 3 ก่อนกลับมายังท่าเรือ
ตัวเรือได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา พื้นที่ทั้ง 3 ชั้นบนเรือกว้างขวาง นั่งสบาย ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ชั้นล่างสุดเป็นบาร์น้ำสำหรับนั่งชิลล์ สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ สำหรับโซนชั้น 2 เป็นห้องนั่งรับประทานอาหาร แบบอินดอร์เหมาะสำหรับช่วงซัมเมอร์ ขณะที่ชั้นบนสุดจะเป็นโซนนั่งรับประทานอาหารแบบเอาต์ดอร์ เหมาะสำหรับรับลมเย็นสบายๆ พร้อมทานอาหารจากฝีมือเชฟที่ได้รับรางวัลทั้งมิชลินสตาร์และมิชลินไกด์ เรียกได้ว่าช่วงเวลา 2 ชั่วโมงบนเรือลำใหญ่สุดหรูนี้ จะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์หน้าร้อนที่น่าประทับใจแน่นอน

 
(ภาพจาก FB : Blue Voyage)
ล่องเรือยอร์ชสุดหรู ปล่อยใจผ่อนคลายไปกับท้องทะเล

        ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่ทะเลเปล่งความงดงามมากที่สุด การออกไปล่องเรือยอร์ชชื่นชมบรรยากาศกลางทะเล ดื่มด่ำความสงบสุด exclusive และเป็นส่วนตัว พร้อมบริการอย่างเหนือระดับ จึงตอบโจทย์เป็นที่สุด 
บริการล่องเรือยอร์ชในประเทศไทยมีให้เลือกมากมาย ตามประเภทเรือและจุดหมายปลายทางตามใจปรารถนา โดยระหว่างออกทริปมีกิจกรรมให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ดำน้ำดูปะการัง สัมผัสความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล พายเรือคายัคสำรวจความสวยงามบริเวณรอบ ๆ ก่อนแวะผ่อนคลายบนเกาะด้วยการนอนอาบแดด นั่งปิกนิกบนหาดทรายสีขาวนวล ปิดท้ายทริปด้วยการชมพระอาทิตย์ตกบนเรือสุดโรแมนติก พิเศษยิ่งกว่าด้วยบริการเหนือระดับจากเชฟที่คอยรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ บาร์เทนเดอร์ที่คอยดูแลด้านเครื่องดื่ม พร้อมบัตเลอร์ส่วนตัวคอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
ปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้ให้บริการเรือยอร์ชสุดหรูมากมาย เช่น Blue Voyage Thailand HYPE Luxury Boat Club, Sailing Yacht-Thailand และ Island Spirit Yacht Charter ที่พร้อมยกระดับวันพักผ่อนของคุณให้ Exclusive 


เที่ยวแคมป์หรูสไตล์ “Glamping” ท่ามกลางธรรมชาติที่ประเมินค่าไม่ได้

หรือหากต้องการสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด Ultimate Leisure ขอเสนอการตั้งแคมป์แบบ Glamping มาจากคำว่า Glamorous และ Camping หมายถึงการตั้งแคมป์แบบหรูหรา ซึ่งได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเตียงนอน  เครื่องปรับอากาศ และห้องน้ำในตัว รวมถึงบางแห่งมีบริการทำอาหารให้เสร็จสรรพ จึงสามารถพักผ่อนสบาย ๆ ผ่อนคลายได้ทั้งวัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่จะตราตรึงในใจนักเดินทางไปอีกนานแสนนาน
        สำหรับกิจกรรมระหว่าง Glamping มีให้เลือกมากมาย (ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่) ไม่ว่าจะเป็น อิ่มอร่อยกับการย่างบาร์บีคิว, ปั่นจักรยานชมวิวสวย ๆ หรือ บริการขับรถ ATV รวมไปถึงกิจกรรมทางน้ำอย่าง การล่องเรือ พายเรือแคนู ตกปลา และว่ายน้ำ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับช่วงอากาศร้อน ๆ เช่นนี้ที่สุดเลยค่ะ เรียกได้ว่าแต่ละกิจกรรมที่ยกมา ทุก ๆ คนในครอบครัวสามารถที่จะร่วมกันทำ และ สร้างประสบการณ์ร่วมกันได้อย่างสนุกสนาน
ปัจจุบันที่พัก Glamping ในประเทศไทยมีให้เลือกพักค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่ หินตก ริเวอร์ แคมป์จังหวัดกาญจนบุรี ที่ให้คุณได้พักผ่อนในเต้นท์ปรับอากาศ พร้อมห้องน้ำในตัวริมแม่น้ำแควน้อย อ.ไทรโยค ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ และ ประวัติศาสตร์, เดอะแคมป์ เชียงคาน ที่พักริมน้ำท่ามกลางธรรมชาติ พักผ่อนชมความงดงามของแม่น้ำแม่โขง จังหวัดเลย และ Jumtla Campiness (จัมทราแคมป์ปิเนส) ที่มีที่พักหลากหลายจังหวัด และ รูปแบบของแต่ละที่ก็แตกต่างกันออกไป โดยประกอบด้วยแคมป์ทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ นครปฐม เพชรบุรี กาญจนบุรี พิษณุโลก และ เชียงใหม่ เรียกได้ว่าให้ทุกท่านได้วางแผนการพักผ่อน และ เลือกพักได้ตามความต้องการเลยค่ะ

​Hintok River Camp
The Camp Chiangkhan 
Jumtla Campiness
Google Map : https://goo.gl/maps/FQwu5t9pmWFrM5mX7 | Address : คลองนกกระทุง บางเลน นครปฐม | Tel. 081-8065444 | Facebook : https://www.facebook.com/jumtlaglampingresort

นอกเหนือจากไอเดียการท่องเที่ยวช่วงซัมเมอร์ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมและการเดินทางที่ทุก ๆ ท่านสามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์และความสะดวก แต่สิ่งสำคัญสำหรับช่วงนี้อย่าลืมดูแลตัวเอง สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกนอกบ้าน พกแอลกอฮอล์ล้างมือ และรักษาระยะห่างเมื่ออยู่ในแหล่งชุมชนด้วยนะคะ ขอให้เดินทางปลอดภัยและมีแต่ความประทับใจตลอดการเดินทางในฤดูร้อนนี้ค่ะ​


กลับ