​ ผ่านพ้นวันหยุดปีใหม่ ก้าวเข้าสู่เดือนแรกของปี 2022 อย่างเป็นทางการ และช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองยังไม่ได้หยุดแค่เพียงเท่านี้ เพราะอีกไม่กี่สัปดาห์ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ก็จะเป็นวันขึ้นปีใหม่จีน หรือ วันตรุษจีน ที่แม้จะไม่ได้มีเชื้อสายจีน แต่คนไทยเราก็ต่างมีความคุ้นเคย และ รู้จักกันดี  ดังนั้นเพื่อเป็นการต้อนรับกับเทศกาลสำคัญ ๆ เช่นนี้ ในวันนี้ The Explorer จึงจะขอพอทุกท่านมาอิ่มอร่อยไปกับอาหารจีนเลิศรส ในรูปแบบของ Fine-Dining ณ ร้านอาหาร POTONG ใจกลางย่านสำเพ็ง – เยาราช อันเต็มไปด้วยกลิ่นอายของจีนกันค่ะ

ตัวอาคารของร้านนั้นเมื่อก่อนเป็นทั้งที่อยู่อาศัย ร้านขาย และ ผลิตยาจีน ของเชฟแพม-พิชญา อุทารธรรม Top Chef Thailand ของไทย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ได้ย้ายร้าน และ ปรับเปลี่ยนอาคารหลังนี้กลายมาเป็นร้านอาหารในปัจจุบัน โดยเมื่อก้าวเข้าครั้งแรก จะสะดุดตากับการจัดวางโหลที่บรรจุของหมักดอง และ ขวดยาสีชาที่ตั้งเรียงรายอยู่เต็มชั้น ให้ความรู้สึกเหมือนร้านยาจีนในสมัยก่อน แต่มิกซ์แอนด์แมทช์ด้วยเฟอร์นอเจอร์ที่ดูเป็นสมัยใหม่ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัว

สำหรับพื้นที่บริเวณชั้นล่างนี้ได้ปรับเปลี่ยนจากพื้นที่หน้าร้านขายยาเดิม มาเป็นบาร์เครื่องดื่มคอมบูฉะ กาแฟ และ ที่นั่งรับรองก่อนขึ้นไปรับประทานอาหาร ภายใต้คอนเซปต์การตกแต่งแบบ Sino-Bar ที่ให้บรรยากาศเหมือนสถานที่แฮงค์เอาต์ของชาวนิวยอร์ก

ต่อมาที่ชั้น 2 ได้ปรับจากห้องผลิตยาจีน มาเป็น Dining Room ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลเป็นหลัก ผสมผสานระหว่างความคลาสสิค และ ความทันสมัย นอกจากนี้ยังสร้างความรู้สึกถึงการเชื่อมกับของยุคสมัยจากการเก็บรายละเอียดของตัวอาคารเก่า อาทิ การใช้ขวดยาเก่ามาเป็นของตกแต่ง ช่องหน้าต่าง และ ความงดงามของลายปูนปั้นสีเขียวไข่กาที่เก็บรายละเอียดไว้ได้เป็นอย่างดี

สุดท้ายคือชั้นที่ 3 ที่จะเป็น Main Dining Hall ถูกปรับเปลี่ยนมาจากห้องพักของครอบครัว กลายเป็นมาเป็นห้อง Dining สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยชั้นนี้จะมีการตกแต่งมาในธีมของความเป็น Oriental โดยจะเห็นได้จากการเก็บรักษาหิ้งบูชาเทพเจ้าซึ่งให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศแบบจีน ๆ อย่างชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างของชั้น 3 คือ ภาพวาดฝาผนังลายเสือดาว สอดรับกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ และ หวายที่ทำให้บรรยากาศภายในชั้น 3 นี้ ดูอบอุ่นขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีระเบียงกว้างที่จะทำให้คุณได้เห็นบรรยากาศอันมีเสน่ห์ของย่านเก่าแก่สุดคลาสสิคแห่งนี้ค่ะ

จากบรรยากาศจะเห็นได้ว่าร้าน POTONG เน้นคอนเซปต์หลักในเรื่องของ “กาลเวลา” ซึ่งหมายรวมไปถึงเรื่องของอาหารด้วยเช่นกัน โดยอาหารจะต้องผ่านกรรมวิธีที่ล้วนต้องใช้ระยะเวลาในการทำ เช่น การดรายเอจ หมักดอง โดยวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสต่าง ๆ นั้นทางเชฟแพมและทีมงานเป็นผู้ทำเองแทบจะทั้งหมดเลยค่ะ และ อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คือ การชูเอกลักษณ์ และ เลือก 5 Elements มาใช้ในการทำอาหารเพื่อให้ได้รสชาติที่หลากหลายมิติ เมื่อได้มาประกอบกับ 5 Senses หรือ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ก็จะทำให้ความทรงจำดี ๆ เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ได้รับประทานอาหาร และจดจำความประทับใจกลับไปได้ค่ะ

ในส่วนของเมนู ดินเนอร์คอร์สสูตรพิเศษ POTONG Chef’s Tasting ได้หยิบเอาอาหารจีนมาผสมผสานเข้ากับเทคนิคการทำอาหารรูปแบบใหม่ กลายเป็นอาหารภายใต้คอนเซปต์ของ “กาลเวลา” จะเสิร์ฟความอร่อยทั้งสิ้น 20 คอร์สเลยทีเดียวค่ะ ตัวอย่างเช่น

Memories Corn Koji ที่เลือกใช้ทุกส่วนของข้าวโพดมารังสรรค์เป็นเมนูแสนอร่อยอย่างคุ้มค่าตามแนวคิดแบบ Zero Waste โดยได้แรงบันดาลใจมาจากซุปข้าวโพดจีนที่มักใส่พริกไทยขาวลงไปเยอะ ๆ โดยในเมนูนี้จะเป็นมูสเมล็ดข้าวโพด (Koji) ทานคู่กับเห็ดทรัฟเฟิลและเมล็ดทานตะวัน บริเวณด้านบนจะเป็น Corn Milk Chips ทอดใน Brown Butter ไว้ทานคู่กัน แกล้มด้วยแครกเกอร์ หรือ แผ่นข้าวโพดที่มีรสเผ็ดอ่อน ๆ จากพริกไทยขาว โดยทั้งหมดนี้จะทานคู่กับชาชังข้าวโพดร้อน ที่มีการ Infuse กับเครื่องเทศ-สมุนไพรจีน ให้ความหอมชื่นใจ อีกทั้งยังเป็นการชะล้างก่อนเข้าสู่คอร์สต่อ ๆ ไปได้เป็นอย่างดี

Forgotten เมนูหาทานยากอย่าง ‘ไก่ดำ’ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัตถุดิบชั้นยอด ยาอายุวัฒนะชั้นเยี่ยมของชาวจีนกันเลยทีเดียว โดยปกติแล้วร้านอาหารส่วนใหญ่มักจะนำไก่ดำไปต้มเป็นน้ำซุป แต่สำหรับที่นี่ทุกคนจะได้ลองทานไก่ดำแบบทั้งตัว โดยเฉพาะส่วนเนื้อและส่วนหนังของไก่ที่อร่อยไม่แพ้กัน

ภายในจานที่เสิร์ฟจะมีทั้งน่องไก่ อกไก่ และ หัวใจ ตัวไก่ทางร้านจะนำไปคลุกเคล้าเข้ากับพริกเสฉวน หลังจากนั้นจะนำไปย่างบนเตาถ่าน เพื่อให้เนื้อไก่ดำยังคงความหอม ก่อนจะโรยหน้าด้วย Chicken Powder ส่วนหัวใจนั้นจะนำไปเจียวกับน้ำตาลทรายแดง จากนั้นนไปซู-วี แล้วจึงนำไปย่าง โดยทั้งหมดจะเสิร์ฟพร้อมข้าวมันสีดำที่อบพร้อมเครื่องเทศสมุนไพรกว่า 20 ชนิด เวลารับประทานจะได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศอย่างชัดเจนเลยค่ะ

ในส่วนของออร์เดิร์ฟ และ อาหารจารหลักที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะในส่วนนี้นั้นมีกว่า 14 คอร์ส เลยทีเดียว และเมื่อเราได้ลิ้มรสเมนูหลักผ่านไปแล้ว ก็จะมาถึงคอร์สขนมหวานที่ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันไม่แพ้กัน กับ Proud ที่ประกอบด้วยเมนูขนมหวาน 5 คอร์ส เช่น POTONG Bite โพทงแครกเกอร์ที่ดีไซน์ตัวขนมออกมาเป็นสัญลักษณ์รูปเสือคู่กับลูกโลก โดยเสือตัวแรกจะทำมาจากถั่วแดง ส่วนเสือตัวที่ 2 จะทำมาจากถั่วดำ และ ตรงกลางลูกโลกจะทำมาจากแปะก๊วย รสชาติที่ได้จะมีความคล้ายกับเต้าทึงน้ำลำไย ซึ่งมีรสชาติของธัญพืชชนิดต่าง ๆ ด้านในสอดไส้ด้วยเนื้อลำไย เลมอน และพุทราจีน พร้อมส่วนผสมของยาปอคุนเอี๊ยะบ๊อ 

Simple Yet Elegant จากเมนูซาลาเปาเก่าแก่เป็นแรงบันดาลใจให้ทางร้านครีเอตเมนูขนมหวานที่มีรูปลักษณ์เป็นซาลาเปาจิ๋วไส้ลาวาไข่เค็ม เสิร์ฟอยู่ในซึ้งอะคริลิกโบราณจำลอง ตัวซาลาเปาจิ๋วด้านนอกทำมาจากมูสหมั่นโถวที่ทางร้านหมักเอง ด้านในเป็นไส้ลาวาไข่เค็ม ส่วนด้านล่างเป็นแป้งแผ่นบาง ๆ ที่ทางร้านนำมาขึ้นรูปให้เหมือนกับกระดาษรองซาลาเปาเวลานึ่ง เวลาทานสามารถหยิบทานได้ทีเดียวทั้งชิ้น โดยทั้งหมดนี้ให้รสชาติคล้ายกับไวท์ช็อกโกแลตที่ไส้ด้านในมีรสเค็ม ๆ หวาน ๆ เหมือนลาวาไข่เค็มค่ะ

​Address : 422 ถนนวานิช 1 เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร | Map : google map  Reservation : Website  ​** คอร์สอาหารอาจมีการปรับเปลี่ยนตามแต่ละช่วงฤดูกาล สามารถติดตามรายละเอียดและอัพเดตเมนูใหม่เพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของทางร้านโดยตรง

เพียงแค่เมนูตัวอย่างที่แนะนำมา ก็ทำให้เชื่อได้เลยว่าทุก ๆ ท่านจะได้เต็มอิ่มไปกับความอร่อย พร้อมกับการได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารภายใต้บรรยากาศสุดคลาสสิค และ ซึมซับเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาผ่านทุกเมนูที่เชฟได้รังสรรค์ขึ้นภายใต้คอนเซปต์ของ “กาลเวลา” ที่เปรียบเสมือนผู้ร้อยเรียงความทรงจำออกมาให้ทุกท่านประทับใจ สุดท้ายนี้ The Explorer ขอให้ทุก ๆ ท่านได้มีความสุข กับการเริ่มต้นปี 2022 นี้ พร้อมกับมีสุขภาพแข็งแรงตลอดปีเลยนะคะ

​