​​​​​​        ​เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี เดือนแห่งการเฉลิมฉลอง และ เป็นช่วงเวลาของการออกไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศทั้งของคุณเองและครอบครัว แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกในการเดินทางไกลไปยังต่างจังหวัด การไปพักผ่อน Staycation ณ โรงแรมดี ๆ ในตัวเมืองก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีไม่น้อย ผ่อนคลายไปกับ Facilities ภายในของโรงแรม สะดวกสบายจากการบริการอย่างมืออาชีพ และ ดื่มด่ำบรรยากาศสวย ๆ ไปพร้อมกับอาหารเลิศรสของห้องอาหาร ซึ่ง The Explorer ในวันนี้ จะมาแนะนำโรงแรมสำหรับการ Staycation ปลายปีเผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับกิจกรรมส่งท้ายปีกับ Four Seasons Hotel Bangkok​

ที่มา : www.fourseasons.com​

หลังจากที่ห่างหายจากกรุงเทพฯ ไปหลายปี Four Seasons Hotel Bangkok กลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทางโรงแรมได้ตั้งอยู่ในโลเคชันติดแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านเจริญกรุง พร้อมกับเป้าหมายที่ต้องการเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนที่มีเอกลักษณ์สำหรับคนเมือง ด้วยที่ตั้งติดแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ออกแบบเน้นคอนเซ็ปต์การเชื่อมต่อกับแม่น้ำเข้ามาในมุมต่าง ๆ ของโรงแรม อาทิ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่เห็นวิวแม่น้ำ หรือจะเป็นบ่อน้ำสวย ๆ ตามจุดต่าง ๆ ของโรงแรม เพื่อให้คุณ Staycation อย่างเพลิดเพลินด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย นอกเหนือจากสระว่ายน้ำที่มีถึง 2 สระแล้ว ยังมี สปา คิสด์คลับสำหรับผู้ที่มาเป็นครอบครัว หรือจะเป็นท่าเรือส่วนตัว และภายในโรงแรมพื้นที่จัดแสดงศิลปะที่ได้รับการร่วมมือกับ Moca Bangkok อาร์ตแกลเลอรี่ชื่อดังกับโซน Art Space by MOCA at Four Seasons โดยจะมีผลงานศิลปะมาจัดแสดงหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ 

        สำหรับห้องพักของโรงแรมนั้นมีมากกว่า 299 ห้อง เช่น ห้องพักแบบ Premier River View ที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบครบวงจร ทั้งโทรทัศน์ขนาดใหญ่ มินิบาร์ ห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำ อีกทั้งยังมีวิวสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยา และเพื่อความสะดวกของผู้เข้าพักทางโรงแรมยังมีแอปพลิเคชั่นที่ท่านสามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสั่ง Room Service หรือ สำรองโต๊ะในห้องอาหารให้คุณ

        เมื่อพูดถึงห้องอาหาร ภายในโรงแรม Four Seasons แห่งนี้มีห้องอาหารไว้รองรับทั้งหมด 5 ห้องอาหารในรูปแบบ และ บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งห้องอาหารที่จะมาแนะนำในวันนี้ คือห้องอาหาร Riva del Fiume Ristorante ห้องอาหารอิตาเลียนต้นตำรับ ภายใต้บรรยากาศสบาย ๆ ของวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในตกแต่งรูปแบบ Contemporary ที่ผสมผสานความร่วมสมัย อบอุ่น และ ความคลาสสิคไว้ได้อย่างดี แบ่งโซนที่นั่งอย่างเป็นสัดส่วนเพื่อรองรับกลุ่มเล็กไปจนถึงกลุ่มใหญ่ แน่นอนว่าสำหรับปลายปีที่อากาศดีเหมาะแก่การนั่งเอาท์ดอร์ ทางร้านก็มีพื้นที่เปิดโล่ง ซึบซับบรรยากาศริมน้ำ พร้อมชมวิวสวย ๆ ไว้บริการ 

ถัดมากับเมนูอิตาเลียนแบบคลาสสิคอย่าง Spaghettone Aglio & Olio สปาเก็ตตี้ผัดคลุกเคล้าเข้ากับน้ำมันมะกอก Extra Virgin Olive Oil กระเทียม และท็อปบนด้วยพริกแดงแห้ง หรือเมนูไฮไลท์ที่สายเนื้อไม่ควรพลาดกับ Bavetta สเต๊กจานหลักที่เชฟเลือกใช้เนื้อวากิว ‘Mayura’ นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ย่างมาในระดับ Medium Rare แล้วราดตามด้วยซอสไวน์แดง เสิร์ฟพร้อมผักสดตามฤดูกาลอย่าง ‘Radicchio Tardivo’ ที่มีลักษณะคล้ายกับหัวปลีของไทย ซึ่งนำมาย่างทานคู่กับเนื้อเพื่อตัดรสเลี่ยน

​ทางร้านมีเมนูเครื่องดื่มค็อกเทลและม็อกเทลไว้คอยเสิร์ฟให้บริการ เพื่อเติมเต็มอรรถรส เสริมสร้างความสดชื่นให้กับร่างกายในระหว่างมื้ออาหารของท่าน หมายเหตุ : เมนูอาหารของทางร้านจะถูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปทุก Quarter ในแต่ละปี เพื่อความหลากหลายของวัตถุดิบและเสริมประสบการณ์ทานอาหารอิตาเลียนรูปแบบใหม่ ๆ

        เรียกได้ว่าให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสวย ๆ ของช่วงสิ้นปี สนุกสนาน และ อิ่มอร่อยไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโรงแรม เป็นอีกหนึ่งไอเดียทริปส์สั้น ๆ ที่สร้างความสุขส่งท้ายปีร่วมกับครอบครัวได้ดีทีเดียวเลยค่ะ สำหรับปี 2021 นี้บริการเดอะวิสดอมกสิกรไทย ขอให้ทุก ๆ ท่านมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรง และ ก้าวเข้าสู่ปี 2022 อย่างมีความสุขกันทุกท่านนะคะ 

​