Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

        ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาแห่งความโรแมนติกภายใต้วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของใบไม้ที่เปลี่ยนจากเขียวสดใสเป็นส้มแดง หรือ สีเหลืองทองที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยเหตุนี้ Ultimate Leisure จึงตั้งใจพาท่านไปสัมผัสช่วงเวลาอันงดงามของทัศนียภาพที่แปลกตากับ 4 เมืองที่คุณอาจนึกไม่ถึงเป็นการปิดท้ายฤดูใบไม้ร่วงในเดือนพฤศจิกายนนี้กัน 

Bruges –​ Belgium



        บรูช (Bruges) ในภาษาฝรั่งเศส หรือ บรึคเคอ (Brugge) ในภาษาดัตช์ หนึ่งในเมืองมรดกโลกของเบลเยียมที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก ถูกขนานนามว่าเป็นเวนิสแห่งยุโรปเหนือ เพราะ ตัวเมืองเชื่อมต่อกันด้วยคลอง และ บรรยากาศภายในเมืองนั้นสวยงามไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณจากยุคกลาง โดยตัวเมืองอยู่ไม่ไกลจากบรัสเซลล์ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟมาถึงได้ภายใน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ในฐานะเมืองท่าโบราณ และ เป็นเมืองแห่งศิลปะดัตช์ในยุคเนเธอร์แลนด์ตอนต้นระหว่างคริสต์ศวรรษที่ 15 – 16



        ในเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นฤดูใบไม้ร่วงนั้นแม้จะมีนักท่องเที่ยวไม่มากเท่าฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็ทำให้การท่องเที่ยวในตัวเมืองนั้นไม่เบียดเสียดกับผู้คนมากเกินไป นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยวมากมาย เช่น ทัวร์ไกด์ทางด้านวัฒนธรรม ล่องเรือไปตามลำคลองชมตัวเมืองในบรรยากาศเงียบสงบของใบไม้เปลี่ยนสี หรือจะเป็นการเดินชมความงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมรอบตัวเมืองซึ่งการที่ตัวเมืองนั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ทำให้ท่านสามารถเดินเก็บบรรยากาศโดยรอบได้ภายในวันเดียว สำหรับจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าสนใจภายในเมืองที่ไม่อยากให้พลาดกัน คือ
    • ถนนริมคลองโรเซนเฮดได (Quay of Rosary)
    • สะพานโบนิฟาเซียส (Boniface Bridges)
    • บ้านแห่งความเงียบสงบ (Begijnhof Ten Wijngaerde)
    • ทะเลสาปแห่งรัก(Minnewater) 

แนะนำที่พัก


*เครดิตภาพจากเว็บไซต์ Hotel Van Cleef 

Hotel Van Cleef
Website : Hotel Van CleefBooking :Hotel Van Cleef 

        โรงแรมสไตล์บูติก ในอาคารสไตล์นีโอคลาสสิคที่ให้บรรยากาศทันสมัยและหรูหราแต่กลมกลืนท่ามกลางสถาปัตยกรรมโบราณล้อมอาคารหลัก สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ติดริมคลอง ทำให้แขกที่เข้าพักได้สัมผัสกับวิวของเวนิสแห่งยุโรปเหนืออย่างเต็มที่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวก
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนพฤศจิกายน ห้อง Suite เริ่มต้นที่ 567 ยูโร (ประมาณ 21,625 บาท) ต่อคืน 

Kefalonia-Greece



        เซฟาโลเนีย หรือ เคฟาลินีอา เกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทะเลไอโอเนี่ยน ประเทศกรีซ ในช่วงเดือนพฤศจิกายนหรือปลายฤดูใบไม้ร่วงของที่นี่ทัศนียภาพของใบไม้เปลี่ยนสีเป็นเหลืองและส้มแดงตัดกับสีน้ำทะเล อากาศอยู่ที่ประมาณ 10 - 20 องศา ค่อนข้างเย็นแต่ไม่หนาวจัดเช่นโซนอื่นในยุโรป ถึงแม้ว่าน้ำทะเลจะเริ่มเย็นทำให้ไม่อาจลงเล่นน้ำได้เหมือนช่วงฤดูร้อน แต่ก็ยังสามารถแล่นเรือท่องเที่ยวตามเกาะได้



        การมาท่องเที่ยวยังเกาะเซฟาโลเนีย มีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวชมธรรมชาติรอบเกาะ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเขา ชมชายหาดที่มีอยู่มากมายและขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของชายหาดและน้ำทะเล เช่น หาดเมอร์ทอส หาดอันติซามอส หาดเพตานี ฯลฯ และ ที่ขาดไม่ได้คือ ถ้ำเมลิซานี ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ภายในถ้ำมีทะเลสาปน้ำกร่อยที่สามารถพายเรือเข้าไปเที่ยวชมได้ บนถ้ำเป็นโพรงทะลุสามารถมองเห็นทะเลสาปจากมุมสูงได้ 

        หรือจะเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมเก่าแก่ของเซฟาโลเนีย เดินชมชุมชนหมู่บ้านโบราณอย่างฟิสคาร์โดและแอสสอส สนุกกับวัฒนธรรมจากเหล่าพิพิธภัณฑ์ที่มีมากมายบนเกาะ รวมทั้งร่องรอยอารยธรรมที่หลงเหลืออยู่ตามสถาปัตยกรรมเก่าอย่าง เช่น ปราสาท โบสถ์ ประภาคารจากยุคกลาง หรือกำแพงเมืองและสุสานเก่าที่สร้างตั้งแต่สมัยโรมัน รวมถึงการไปลิ้มลองอาหารกรีกแบบเซฟาโลเนียคู่กับไวน์ท้องถิ่นที่ผลิตโดยโรงบ่มชั้นเลิศภายในเกาะ

แนะนำ​ที่พัก


*เครดิตภาพจาก Okios Boutique Residence 

Okios Boutique Residence

        Okios ในภาษากรีก แปลว่า บ้าน โดยที่นี่ตั้งอยู่บริเวณหาดพลาเทอีส (Plateies) ให้บริการที่พักแบบวิลล่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเซฟาโลเนียแบบกลุ่ม วิลลาแบบแสตนดาร์ดเริ่มต้นที่ 3 ห้องนอน พักได้ 8 ท่าน แบบดีลักซ์ 4 ห้องนอน สำหรับ 12 ท่าน และแบบซูพีเรีย 7 ห้องนอน สำหรับ 20 ท่าน วิลล่าทุกหลังมองเห็นวิวทะเล มีบริการสระว่ายน้ำส่วนตัว อยู่ใกล้กับสนามบินอาร์กอสโตเลียนของเกาะ ใช้เวลาขับรถเพียง 30 นาที  
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนพฤศจิกายน วิลลาแบบแสตนดาร์ด เริ่มต้นที่ 729 ยูโร (ประมาณ 27,845 บาท) ต่อคืน 

Daocheng-Y​ading, The Western Sichuan – China



        เต้าเฉิง และ ย่าติง ตั้งอยู่ในโซนตะวันตกของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นพื้นที่แถบนี้จะมีทัศนียภาพสวยงามราวกับภาพวาด และ เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติเข้ามาชมความงามของธรรมชาติรังสรรค์ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่าที่มีชื่อเสียงอย่างมากของจีนเพราะมีภูมิประเทศอันหลากหลายไม่ว่าจะเป็นป่าสน ทุ่งหญ้า ทะเลสาป หรือ ภูเขาหิมะ นอกจากนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่รวมทั้งสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ยังได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากทิเบต ทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห่างไกลจากเมืองใหญ่ แต่ก็มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก



        คำว่าเชียงกรีลานั้นซึ่งหลายคนเข้าใจว่าหมายถึงสวรรค์บนพื้นพิภพนั้น อันที่จริงมีที่มาจากเต้าเฉิงและย่าติงในมณฑลเสฉวน (ภาษาจีนเรียกว่า ‘เซียงเต๋อหลี่ล่า’ มาจากคำว่า ‘เซียงปาลา’ ในภาษาธิเบตที่แปลว่า ‘บ้านเก่า’) แต่เพราะในสมัยก่อนที่การเดินทางมายังที่แห่งนี้นั้นยากลำบากเพราะเต็มไปด้วยภูเขา คนส่วนใหญ่จึงมากันไม่ถึง มักจะไปถึงแค่ในแผ่นดินกลาง (ภาษาจีนเรียกว่า ‘จงเตี้ยน’) ซึ่งอยู่ในมณฑลยูนนาน และ เข้าใจว่าจงเตี้ยน คือ เชียงกรีลา แต่ความจริงกลับอยู่ที่เต้าเฉิงย่าติงนี้เอง 

        การมาเยือนที่เต้าเฉิง - ย่าติง มีสถานที่ทางธรรมชาติที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมหลายแห่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อาทิเช่น ทะเลสาปไข่มุก (เจินจูไห่) ทะเลสาปน้ำนม (หนิวหน่ายไห่) ทุ่งหญ้าลั่วหรง ภูเขาหยางม่ายหย่ง ภูเขาเซียนหน่ายรื่อ ซึ่งถือเป็น 2 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเขตอนุรักษ์ย่าติง หรือจะไปเที่ยวชมเขาไห่จื่อซาน ทุ่งหญ้าแดงที่เต้าเฉิง ฯลฯ

แนะนำที่พัก


*เครดิตภาพจากเว็บไซต์ Crowne Plaza Yading 

Crowne Plaza Yading

        โรงแรม 5 ดาวแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในเต้าเฉิงย่าติง Crowne Plaza Yading เป็นหนึ่งในโรงแรมของเครือ IHG รับประกันความสะดวกสบายและหรูหราแม้จะอยู่ในเมืองท่องเที่ยวชนบทห่างจากเมืองใหญ่ก็ตาม ตั้งอยู่ใน Shangri-La Town ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเต้าเฉิงย่าติง เดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในพื้นที่ได้อย่างสะดวก
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนพฤศจิกายน ห้อง Suit เริ่มต้นที่ 1,442 หยวน (ประมาณ 7,167 บาท) ต่อคืน 

Karimabad – ​Pakistan



        คาริมาบัด เป็นส่วนหนึ่งของแคว้นแคชเมียร์ในการปกครองของปากีสถาน มีหุบเขาฮุนซาที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงามของทัศนียภาพใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง แม้ว่าเดือนพฤศจิกายนจะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่ถ้าดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงต้นเดือนก็ยังทันได้พบกับกลิ่นอายของฤดูใบไม้ร่วงได้อยู่ พร้อมชมวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของผู้คนแห่งหุบเขาฮุนซา



        หุบเขาหุนซานั้น อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,500 เมตร ถือได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของเหล่านักผจญภัย ได้รับขนานนามว่าเป็นแชงกรีลาแห่งเอเชียกลาง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์โลกมายาวนานนับพันปี เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมในอดีตที่เหล่าคาราวานพ่อค้าจะต้องผ่านจากจีนมายังชมพูทวีป เคยมีสถานะเป็นนครรัฐมานานกว่า 900 ปีจนกระทั่งอังกฤษเข้ามาครอบครองเอเชียใต้ทั้งหมดในช่วงล่าอาณานิคม 

        การมาเยือนคาริมาบัดและหุบเขาฮุนซาเพื่อชมความงามของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนั้น มีแหล่งท่องเที่ยวที่ควรแวะอย่าง จุดชมวิวราคาโปชิ ป้อมบัลติท และ ป้อมอัลติท ที่มีอายุหลายร้อยปี ซึ่งจะได้เห็นทัศนียภาพความงามของใบไม้เปลี่ยนสีและความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาคาราโครัม หรือจะไปชมความงามของทะเลสาปอัตตาบัตที่มีสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ซึ่งเกิดจากดินถล่มมากั้นแม่น้ำฮุนซาจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 2010 ซึ่งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและสถานที่เล่นกีฬาทางน้ำที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวปากีสถานและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 

แนะนำที่พัก


*เครดิตภาพจากเว็บไซต์ Luxus Hunza 

Luxus Hunza
Website : Luxus Hunza | Booking : Luxus Hunza 

        รีสอร์ทระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ติดกับทะเลสาปอัตตาบัต มองเห็นวิวท้องฟ้ากว้าง หุบเขาใหญ่ และทะเลสาปสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่สวยราวจินตนาการ พร้อมที่พักแสนสะดวกสบาย มีสัญญาณไวไฟฟรี มีร้านอาหารให้บริการภายในรีสอร์ท และตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในคาริมาบัด
Rate : ค่าเข้าพักในเดือนพฤศจิกายน
    • ห้อง Lake view เริ่มต้นที่ 24,500 รูปีปากีสถาน (ประมาณ 3,200 บาท) ต่อคืน
    • ห้อง Royal Suite ราคา 45,000 รูปีปากีสถาน (ประมาณ 5,880 บาท) 

Tips สำหรับการท่องเที่ยวชมทัศนียภา​พใบไม้เปลี่ยนสี



    • เช็คสภาพอากาศให้ดี และ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม : เพราะสภาพอากาศในละวันนั้นเราไม่สามารถควบคุมได้ และช่วงฤดูนี้เองก็มีอากาศที่หนาวเย็นอยู่ในหลายสถานที่ ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คสภาพอากาศ เพื่อการเตรียมอุปกรณ์จำเป็นในการรับมือกับอากาศ เช่น การสวมเสื้อหลายชั้น
    • หาข้อมูลสถานที่จุดชมวิวที่ต้องการ : เพื่อให้การตามรอยจุดหมายของคุณนั้นสามารถควบคุมเวลาในการเดินทาง และ เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสถานที่ เช่น การเตรียมขวดน้ำติดตัวเพื่อป้องกันการขาดน้ำเวลาเดินทางได้ดีนั่นเอง
    • เตรียมกล้องให้พร้อม : แม้โทรศัพท์มือถือจะสามารถถ่ายภาพออกมาได้สวยไม่แพ้กล้องใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามกล้องถ่ายรูปดี ๆ สักตัวหนึ่งก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการเก็บภาพความประทับใจของปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นเพียงปีละครั้ง
    • หาตัวช่วยเพิ่มสีสันในการท่องเที่ยว : การเลือกวิธีการเดินทางก็มีส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถไฟ หรือ เคบินลอยฟ้า หรือ การเข้าไปมีส่วนร่วมกับเทศกาลท้องถิ่นของเมืองนั้น ๆ ที่รับรองได้เลยว่าจะให้อารมณ์และประสบการณ์ที่แตกต่างกัน และ สร้างความประทับใจให้ทริปนี้ของคุณลืมไม่ลงเลยทีเดียว
    • การใช้ Fall Foliage Map หรือ App : ในบางพื้นที่บนโลก เช่นที่โซนอเมริกา หรือญี่ปุ่น จะมีการทำ Fall Foliage Map หรือ แอปพลิเคชั่นที่สามารถเช็คสภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติในโซนที่เราต้องการเข้าไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ว่าช่วงเวลาใดพื้นที่ไหนเปลี่ยนสีแล้วเพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่ตรงกับที่เราต้องการมากที่สุดนั่นเอง 

        เรื่องราวเหล่านี้คือสีสันแห่งปรากฎการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีจากเมืองต่าง ๆ ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ เป็นความงามของใบไม้เปลี่ยนสีช่วงสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาวซึ่งใบไม้จะร่วงหล่นลงจดหมดและแทนที่ด้วยสีขาวโพลนของหิมะในหลายพื้นที่ ยังมีความงามของทัศนียภาพหลากหลายบนโลกใบนี้ที่ธรรมชาติรังสรรค์ราวกับภาพวาด รอให้เราได้ไปค้นพบอยู่เสมอ



กลับ