เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ประเทศไทยเป็นฐานใหญ่ของการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน แค่ในครึ่งแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วกว่า 12.4 ล้านคน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีคนดังระดับโลกจำนวนไม่น้อยที่เลือกมาท่องเที่ยวพักผ่อนในเมืองไทย มีศิลปินฮอลลีวู้ดที่เข้ามาทำงานและพักผ่อนที่ไทยไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ เช่น ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ และนี่เป็นแรงบันดาลใจให้ Ultimate Leisure เดือนสิงหาคมนี้จะชวนคุณไปท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยมีแรงบันดาลใจจากทริปของคนดังระดับโลก
Twitter @russellcrowe
Russell Crowe : Old School Trip in Bangkok
รัสเซล โครว์ นักแสดงมากฝีมือชาวนิวซีแลนด์ผู้รางวัลออสการ์ได้เดินทางมายังประเทศไทยในปี 2564 เพื่อมาถ่ายทำภาพยนตร์ The Greatest Beer Run Ever และพักผ่อนที่ภูเก็ตและกรุงเทพฯ โดยดารารุ่นใหญ่ประทับใจมากกับการมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้ และได้อัปโหลดภาพถ่ายลงทวิตเตอร์ส่วนตัวหลายภาพจนเป็นกระแสในโซเชียลอยู่พักหนึ่งกับแฮชแท็ก #Lost in Bangkok
โดยทริปนั้น เริ่มต้นที่ภูเก็ตพักกักตัวตามนโยบายทางภาครัฐในโครงการ Phuket Sand Box ช่วงขณะนั้น ก่อนจะเดินทางขึ้นมาที่กรุงเทพฯ เพื่อถ่ายทำภาพยนตร์และท่องเที่ยวแบบ Street Tour ตามวัดวาอารามและย่านเมืองเก่า แรงบันดาลใจจากสไตล์การท่องเที่ยวของดาราระดับออสการ์รุ่นเก๋าท่านนี้ เราขอนำเสนอไอเดียการท่องเที่ยวแบบ Old School ในย่าน Old Town ของกรุงเทพฯ ลัดเลาะท่องเที่ยวแบบ Slow Life ไปด้วยกัน
Where to Go
ย่านฝั่งธน ซึ่งเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นวัดอารามหลวงเก่าแก่ที่สำคัญของย่านฝั่งธนบุรี ที่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การแวะไปชม และไหว้สักการะขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดซักครั้ง หรือย่านชุมชนโบราณ ที่สะท้อนวัฒนธรรมความเป็นอยู่ในแบบไทยสมัยเก่าได้เป็นอย่างดี
วัดอรุณราชวราราม
เริ่มต้นกับวัดอรุณราชวราราม วัดเก่าแก่ที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยอยุธยาอย่าง พระอารามหลวงชั้นเอก ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ สำหรับชาวต่างชาติมาช้านาน ตั้งแต่ในสมัยอดีต หากเรือต่างชาติแล่นมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วพบกับพระปรางค์วัดอรุณนี้เมื่อไร ก็ถือได้ว่ามาถึงบางกอกแล้วแน่นอน โดยคนไทยหลายคนเชื่อว่าการไปสักการะเดินทักษิณาวัตรเวียนรอบพระปรางค์วัดอรุณ จะช่วยขับไล่สิ่งไม่ดีไปจากชีวิต กลับร้ายกลายเป็นดี และการเดินผ่านรูปปั้นยักษ์วัดแจ้ง ก็จะช่วยปัดเป่าสิ่งเลวร้ายออกไปได้เช่นกัน
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
ไปต่อกันที่วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร สร้างโดยเจ้าพระยานิกรบดินทร (โต กัลยาณมิตร) เจ้าสัวใหญ่ในสมัยนั้น ถวายให้สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 จึงพระราชทานวัดตามนามสกุล กัลยาณมิตร และโปรดให้ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ สูง 15 เมตร พระราชทานนามว่า พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต แต่ชาวจีนเรียกว่า ซำปอกง เป็นที่เคารพสักการะของพ่อค้าชาวจีนมาช้านาน โดยเชื่อว่าไหว้แล้วจะช่วยในเรื่องของโชคลาภ ทำมาค้าขายดี เดินทางปลอดภัยคลาดแคล้ว พบเจอแต่มิตรสหายที่ดี และด้านหน้าองค์พระ จะมีกำปั่นของเจ้าพระยานิกรบดินทรตั้งไว้ เชื่อกันว่า ถ้าทำบุญหยอดเหรียญขอพรให้เงินทองไหลมาเทมา
ชุมชนกุฎีจีน
แวะชมชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี รวมวัฒนธรรมทั้งพุทธ (ไทย) คริสต์ (โปรตุเกส) และ อิสลามนิกายชีอะห์ที่อยู่ร่วมผสมผสานกลมกลืนกันมานานกว่า 200 ปี ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านในพื้นที่วัดกัลยาณมิตร โบสถ์ซางตาครู้ส ศาลเจ้าเกียนอันเกง มัสยิดบางหลวง และ แวะไปพักร้อนที่คาเฟ่ในพิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนซึ่งเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมในชุมชน
โดยที่พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีนนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชน แต่เปิดให้เข้าชมฟรี สร้างโดยทุนส่วนตัวของเจ้าของบ้านซึ่งเป็นคนย่านชุมชนกุฎีจีนดั้งเดิม ชั้นล่างจัดเป็นคาเฟ่ นอกจากเครื่องดื่มต่าง ๆ แล้ว บางทีจะเจอกับเมนูขนมสไตล์ไทย - โปรตุเกสเสิร์ฟด้วย เช่น ขนมฝรั่งกุฎีจีน, กวยตั๊ดกุฎีจีน (พายสัปปะรด), ขนมกุสรัง ฯลฯ ด้านบนเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติศาสตร์ของชุมชนเชื้อสาย ไทย - โปรตุเกส โดยนักท่องเที่ยวสามารถช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายของพิพิธภัณฑ์ได้จากการอุดหนุนของที่ระลึกต่าง ๆ
| พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน Address : 271 ซ.วัดกัลยาณ์ แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
Open : ทุกวัน เวลา 09.30 – 17.30 น.
|
Where to Enjoy
ภาพจาก อินสตาแกรม @jayfaibankok
ร้านเจ๊ไฝ
Open : วันพุธ - วันเสาร์ เวลา 9.00 – 21.00 น.
Tel : 092-7249633 | Instagram : jayfaibangkok http://https//www.instagram.com/jayfaibangkok/
ตามรอยไปชิมของอร่อยแบบรัสเซล โครว์ มีอยู่ 2 ร้านที่รับรองความอร่อยจนไปปรากฎอยู่ในโซเชียลมีเดียของเขาร้านแรก คือ ร้านเจ๊ไฝ ร้านอาหารริมทางที่โด่งดังไปทั่วโลกจากตำนานไข่เจียวปูของเจ๊ไฝ ซึ่งได้สมญานามว่าเป็นราชินีสตรีทฟู้ดของไทย อร่อยจนได้ติดดาวจากมิชลินสตาร์ตั้งแต่ปี 2561 และยังอยู่ในรายชื่อไม่เคยหาย คิวแน่นทุกวัน เหล่านักชิมที่ walk in มาที่ร้านอาจต้องรอนานกว่า 3 - 4 ชั่วโมงกว่าจะได้โต๊ะกันเลยทีเดียว จะสะดวกกว่าถ้านัดคิวสำรองโต๊ะล่วงหน้าไว้ก่อน
ภาพจากเฟซบุ๊ค Fats and Angry
Fats and Angry
Open : ทุกวัน เวลา 11.00 – 20.00 น.
อีกร้านหนึ่ง คือ ร้าน Fats and Angry ร้านเบอร์เกอร์สไตล์อเมริกันที่แต่งร้านด้วยธีม Vintage Diner ยุค 50’s ที่พระเอกแกลดิเอเตอร์ของเราได้เข้าไปชิมความอร่อยมาแล้วชมว่า ‘Great humors, great burger’ ที่ร้านจะเสิร์ฟเมนูทั้งเบอร์เกอร์ เนื้อ หมู ปลา แต่ที่ขายดีที่สุด คือ Cheese Beef Burger และ เมนูเครื่องดื่มที่ไม่ควรพลาดอย่างมิลค์เชคหลากรส ให้บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในภาพยนตร์อเมริกันย้อนยุค
Where to Stay
ภาพจาก เฟซบุ๊ค Mandarin Oriental, Bangkok
โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
(Mandarin Oriental Bangkok)
Address : 48 ซ. โอเรียนเต็ล อเวนิว แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ
โรงแรมซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในเมืองไทยที่สร้างขึ้นมาโดยนักธุรกิจชาวเดนมาร์คตั้งแต่ปี พ.ศ. 2413 มีอายุมากกว่า 153 ปี ปัจจุบันอยู่ในการบริหารงานของกลุ่มธุรกิจโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โดยโรงแรมมีจุดเด่นในเรื่องของการให้บริการที่ดีเยี่ยม และ ที่พักติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยผู้เข้าพักอาจเข้าไปชมสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์ในโรงแรมอย่างอาคาร Author’s Wing ตึกเก่าสไตล์โคโลเนียลที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่นในปี พ.ศ. 2545 มาแล้ว และที่ห้องอาหารฝรั่งเศสของโรงแรมอย่าง Le Normandie ก็อร่อยขึ้นชื่อจนได้รับ 2 ดาวจากมิชลินมา 6 ปีติดต่อกัน
Chris Hemsworth : Koh Kood, A Little Escape from the Big City
ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2562 คริส เฮมส์เวิร์ธได้เดินทางที่ประเทศไทยเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์ Extraction แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเรื่องทริปท่องเที่ยวและ ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ในเมืองไทยมากนัก แต่เราอาจจะพอตามรอยข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการถ่ายทำและข่าวบันเทิงต่าง ๆ เป็นร่างข้อมูลสำหรับการทำทริปท่องเที่ยวได้
สถานที่หลักของการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Extraction จะอยู่ที่กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, ราชบุรี และ สมุทรสาคร โดยเขาทำงานอยู่ในเมืองไทยอยู่นาน 3 เดือน ระหว่างนั้นมีคลิปไวรัลของเขาที่แสดงอาการหงุดหงิดการจราจรในกรุงเทพ เลียนแบบบุคลิกขี้โมโหของเทพเจ้าธอร์ จนทำให้คนที่ได้เห็นคลิปอมยิ้มกันไปหมด จุดนี้ทำให้ Ultimate Leisure คิดว่าเขาอาจจะอยากไปจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่เพื่อไปพักผ่อนช่วงเวลาสั้น ๆ ในต่างจังหวัดใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ซึ่งที่แห่งนั้นก็คือ เกาะกูด จังหวัดตราด ที่ซึ่งเขาและภรรยาเอลซา พาทากี พร้อมครอบครัวได้พากันไปพักผ่อนในช่วงระยะเวลาที่อยู่ในประเทศไทยนั่นเอง
Where to Go
เกาะกูด
เกาะที่ได้ฉายาว่าเป็นอันดามันตะวันออก จากน้ำทะเลที่เป็นสีฟ้าสวยไม่ต่างจากทะเลฝั่งอันดามัน อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างเงียบสงบและคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้ค่อนข้างมาก กิจกรรมท่องเที่ยวภายในเกาะกูดค่อนข้างจะเรียบง่าย เช่น ดำน้ำ, พายเรือคายัค, เล่นน้ำ, เดินเล่นชายหาด, เที่ยวน้ำตก ฯลฯ
การเดินทาง : - เดินทางโดยสารรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพ - ตราด (ประมาณ 4 ชั่วโมง) และ ขับต่อไปยังท่าเรือแหลมศอก (30 นาที) โดยจะต้องจองตั๋วเรือที่จะไปเกาะกูดล่วงหน้า ส่วนใหญ่จะไม่รับจองในวันเดินทาง
- นั่งเครื่องบินจากกรุงเทพถึงเกาะกูด (1 ชั่วโมง) ด้วยสารการบินบางกอกแอร์เวย์ส โดยสามารถเข้าไปเช็กราคาตั๋วเครื่องบินและรอบบินได้ที่นี่ คลิก
|
Where to Enjoy
ภาพจากเฟซบุ๊ค The Deck Bar Koh Kood
The Deck Bar Koh Kood
Open : ทุกวัน เวลา 10.00 – 23.00 น.
แม้ว่าจะเป็นเกาะที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ดี ๆ จำนวนไม่น้อยไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยคาเฟ่แรกที่ Ultimate Leisure อยากแนะนำ คือ The Deck Bar Koh Kood คาเฟ่ร้านดังของเกาะกูดที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งดื่มเครื่องดื่มชมวิวทะเล ภายในเกาะกูดรีสอร์ท มีเครื่องดื่มต่าง ๆ ทั้งกาแฟสด ค็อกเทล และ อาหารไว้บริการ สำหรับท่านที่ชอบทำกิจกรรม ที่ร้านมีเรือคายัคให้เช่าพายอีกด้วย
ภาพจากเฟซบุ๊ค Nomkhon Station : Cafe Kohkood
ร้านสถานีนมข้นหวาน
Open : ทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น.
และอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ Ultimate Leisure ขอหยิบยกมาแนะนำเป็น คาเฟ่เล็ก ๆ ที่ควรค่าแก่การแวะมาสัมผัสบรรยากาศริมคลองที่เสิร์ฟเมนูง่าย ๆ ราคาไม่แพง ตกแต่งร้านเรียบง่าย สบายตา ให้คุณแวะมานั่งห้อยขาจิบเครื่องดื่ม ภายใต้บรรยากาศชิล ๆ ของป่าโกงกางในเกาะกูด
Where to Stay
ภาพจากเว็บไซต์ Soneva
Soneva Kiri
Address : 110 ต. เกาะกูด อ. เกาะกูด จ. ตราด
รีสอร์ทหรูสุด Luxury ที่เกาะกูด สะดวกสบายตั้งแต่เริ่มเดินทาง เพราะทางรีสอร์ทมีเครื่องบินส่วนตัว 8 ที่นั่งพาคุณจากสนามบินสุวรรณภูมิมาถึงรีสอร์ทได้ภายใน 1 ชั่วโมง
โดยครอบครัวเฮมส์เวิร์ธเลือกที่พักแบบวิลล่าแบบ 4 ห้องนอน ที่มีทั้งสระว่ายน้ำพร้อมสไลเดอร์ ครัว ห้องสตีม พื้นที่สำหรับทำสปาทรีทเมนต์ และห้องฟิตเนสแบบส่วนตัว ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีลูกเล็กถึง 3 คนและคุณพ่อที่จะต้องคอยดูแลรูปร่างเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์แอคชัน ตามข่าวแจ้งว่า สนนราคาที่ครอบครัวเฮมสเวิร์ธใช้จ่ายเพื่อการมาพักผ่อนที่นี่ รวมค่าบริการอื่น เช่น เชฟส่วนตัวสำหรับปรุงอาหารออแกนิกภายในวิลล่า อาจจะถึงคืนละ 8,000 - 8,500 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อคืน (ประมาณ 275,540 – 292,757 บาท)
ภายในรีสอร์ท มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกิจกรรมนันทนาการ เช่น ดำน้ำ, พายเรือแคนู, ทัวร์ชมชุมชนภายในเกาะกูด, ล่องเรือไปดินเนอร์, ทำสปาทรีตเมนต์ หรือ จะเพียงแค่เดินเล่น นั่งเล่นชมวิวทะเลภายในรีสอร์ทก็มีความสุขได้แล้ว นอกจากนี้เรื่องอาหารการกิน ใน Soneva Kiri ยังมีให้บริการอาหารอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารยุโรป อาหารอินเดีย ของหวานต่าง ๆ โดยวัตถุดิบจะเป็นแบบออแกนิคทั้งหมด สำหรับแขกที่มาเข้าพักซึ่งมีเด็กมาด้วย ที่นี่มีโซนเด็ก The Den , มีกิจกรรมคอร์สศิลปะและคอร์สทำอาหารสำหรับเด็กให้ได้เรียนรู้และสนุกเต็มที่อีกด้วย
ภาพจาก อินสตาแกรม @lalalalisa_m
Lisa Blackpink : Ayudhya Dreaming
ลิซ่า แบล็คพิงค์ หรือ ลลิษา มโนบาล ถูกตั้งสมญานามในโซเชียลว่าเป็น Thailand’s Pride จากการเป็นศิลปินคนไทยที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก เธอมีอินสตาแกรมที่มีผู้กดติดตามกว่า 95.8 ล้านคน และถูกจัดให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล ทุกอย่างที่เธอโพสต์ลงในไอจีส่วนตัวล้วนแต่เป็นไวรัลและฮิตติดตลาดในเวลาอันรวดเร็ว
ภาพจาก อินสตาแกรม @lalalalisa_m
ลิซ่าจะโพสต์รูปสถานที่ท่องเที่ยวในไทยทุกครั้งที่เธอกลับมาประเทศ และ การมาเที่ยวเมืองไทยครั้งล่าสุด เธอเลือกที่จะโพสต์รูปขณะไปเที่ยวที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติก็เดินทางมาตามรอยศิลปินในดวงใจกันเป็นการใหญ่ และนี่ก็เป็นอีกคนดังที่เป็นแรงบันดาลใจให้ Ultimate Leisure จัดทริปเที่ยวอยุธยาตามรอยลิซ่าให้คุณไปเยี่ยมเมืองหลวงเก่าของไทยด้วยกัน
Where to Go
วัดมหาธาตุ
วัดเก่าแก่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่าง ๆ แต่งชุดไทยไปเที่ยวตามลิซ่ากันจนแน่นจังหวัด โดยวัดแรกที่ Ultimate Leisure แนะนำ คือ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ในโซนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่สำคัญเป็นอย่างมากในสมัยอยุธยาเป็นราชธานี เป็นพระอารามหลวงที่สร้างขึ้นในสมัยมสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 หรือขุนหลวงพะงั่ว ในพ.ศ. 1917 ประดิษฐานพระบรมธาตุ ตั้งอยู่ตรงใจกลางพระนคร เป็นที่พักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสี และเป็นที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ในสมัยอยุธยา แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียงซากโบราณสถานที่ปรักหักพัง แต่ร่องรอยทางสถาปัตยกรรมยังแสดงถึงภูมิความรู้ที่ประณีตและชาญฉลาดของช่างสมัยอยุธยาได้เป็นอย่างดี
ภาพจาก เว็บไซต์ https://go.ayutthaya.go.th/
วัดหน้าพระเมรุ หรือ วัดพระเมรุราชิการามวรวิหาร
ถัดมากับวัดหน้าพระเมรุ วัดเก่าแก่ที่ไม่ปรากฎว่าใครเป็นผู้สร้าง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่องตามแบบศิลปะอยุธยาตอนปลาย หล่อด้วยสำริดสูง 6 เมตร นามว่า พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ สันนิษฐานว่าสร้างหรือบูรณะในสมัยพระเจ้าปราสาททอง และพระพุทธรูปที่สำคัญอีกองค์คือพระคันธารราฐที่วิหารน้อย เป็นพระพุทธรูปศิลาเขียวปางปฐมเทศนาประทับห้อยพระบาท ศิลปะสมัยทวารวดีซึ่งอายุไล่เลี่ยกับการสร้างบุโรพุทโธที่เกาะชวา เมื่อพันกว่าปีก่อน มีเพียง 1 ใน 5 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย
ภาพจาก เว็บไซต์ https://go.ayutthaya.go.th/
วัดแม่นางปลื้ม
วัดสุดท้ายที่จะแนะนำในบทความนี้ แต่ไม่ท้ายสุดสำหรับจังหวัดอยุธยา คือ วันแม่นางปลื้ม วัดเก่าแก่ขนาดเล็ก อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ถูกเผาทำลายเช่นวัดอื่น ๆ ในเขตกำแพงพระนคร เพราะในสมัยนั้น วัดแม่นางปลื้มถูกกองทัพพม่าใช้เป็นฐานยิงปืนใหญ่เข้าตีเมือง เดิมชาวบ้านเรียกว่า วัดนางปลื้ม หรือวัดสมปลื้ม สันนิษฐานว่าสร้างในสมัย พ.ศ. 1920 ภายในวัดประดิษฐาน หลวงพ่อขาว หรือ พระพุทธนิมิตมงคลศรีรัตนไตร เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีผู้เลื่อมใสจำนวนมากเข้ามาสักการะขอพรบนบานด้วยไข่ต้มและพวงมาลัย มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นคือ เจดีย์ทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานสิงห์ล้อม คล้ายกับที่วัดธรรมิกราชและวัดมเหยงค์ ทำให้สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในช่วงต้นสมัยอยุธยาเช่นเดียวกัน
ภาพจาก อินสตาแกรม @dianaflipo
ร้านชานเรือน นาข่า
Address : 92/2 หมู่ 1 ต. นาข่า อ. เมือง จ. อุดรธานี
แต่งชุดไทยสไตล์ลิซ่า : ชุดจากร้านชานเรือน นาข่า จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นร้านผ้าไทยของนางเอกสาว เดียร์นา ฟลีโป ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของลิซ่าที่ไปด้วยกันนั่นเอง โดยใส่เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวแขนกลีบบัว โดดเด่นตรงผ้านุ่ง ซึ่งเป็นผ้ามัดหมี่ย้อมครามหมักโคลนลายขอนาค กระบวนการผลิตด้วยมือทั้งหมด ทั้งการทอ มัดลายย้อมคราม ใช้เวลาในการทำนานร่วมเดือน
Where to Enjoy
ภาพจากเฟซบุ๊ค KaowLaor – ขาวละออ
ร้านขาวละออ
Address : 11/4 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา, จังหวัดอยุธยา
Open : ทุกวัน เวลา 9.00 – 21.00 น.
ในการไปปพระนครศรีอยุธยาในครั้งนี้ ลิซ่ากับเพื่อน ๆ ได้แวะไปรับประทานอาหารที่ร้านขาวละออ ร้านอาหารไทยสไตล์โฮมเมดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งชื่อร้านตามคุณยายละออ ผู้เป็นเจ้าของสูตรอาหารภายในร้าน เป็น 1 ใน 9 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในอยุธยาที่ถูกแนะนำในเว็บไซต์ของมิชลินไกด์ โดยมีหลากหลายเมนูที่น่ารับประทาน เช่น กุ้งแม่น้ำเผา ยำช่อมาลี ปลาทูยักษ์ ส้มตำกุ้งสดฯลฯ
Where to Stay
ภาพจากเฟซบุ๊ค sala ayutthaya
Sala Ayutthaya
Address : 9,2 หมู่ 4 ถ. อู่ทอง ต. ประตูชัย อ. พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา
แม้ว่าในทริปของลิซ่าอาจจะไม่มีการพักค้างคืนในจังหวัดอยุธยา แต่สำหรับท่านที่อยากจะซึมซับบรรยากาศแห่งวันวานของความเป็นพระนครศรีอยุธยาให้มากขึ้น อาจจะไปพักที่โรงแรมศาลา อยุธยา อยู่ในเครือโรงแรม Sala Boutique โรงแรมสุดชิคประจำจังหวัดซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รักการถ่ายรูป ตัวโรงแรมออกแบบให้ได้กลิ่นอายของความเป็นอยุธยาที่มีความเป็นโมเดิร์นผสมผสานกันอย่างลงตัว โรงแรมตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำตรงกันข้ามกับวัดพุทไธสวรรย์ จะเห็นวิวที่สวยงามของโบราณสถานริมน้ำที่สวยงาม และสำหรับคนรักศิลปะ ภายในโรงแรมมี Art Gallery ให้เข้าเยี่ยมชมได้ด้วยนะคะ
Sam Smith : Samui Will Set You Free
Sam Smith นักร้องดังชาวอังกฤษ เจ้าของบทเพลงฮิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Stay with me, I’m not the only one, Too good to goodbyes, Unholy และอีกมากมายบนชาร์ตเพลงระดับโลก ได้รับรางวัลจากงานดนตรีมามากมาย นอกจากเสียงร้องที่ไม่เหมือนใคร เขายังเป็นที่สนใจจากสื่อจากการเปิดเผยตนเองตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่เข้าวงการว่าเขาเป็น LGBTQ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา แซม สมิธเป็นไวรัลอีกครั้งบนโลกโซเชี่ยลเมื่อเขาอัปภาพและคลิปลงโซเชียลส่วนตัวในขณะที่มาเที่ยวพักผ่อนที่เกาะสมุย ประเทศไทย เพราะ แฟชันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Sam Smith กับความสนุกสนานมีชีวิตชีวาของเขาที่สะท้อนออกมาจากภาพชุดดังกล่าว
ภาพจาก อินสตาแกรมของ @samsmith
แม้เรามีข้อมูลจำกัดว่าเขาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เพราะ ศิลปินฝั่งตะวันตกมักจะรักษาความเป็นส่วนตัวไว้สูงมาก ทำให้เราอาจจะเที่ยวตามรอยเขาได้ค่อนข้างยากซักหน่อย จากกิจกรรมต่าง ๆ ที่เห็นได้จากภาพถ่ายระหว่างที่เขาอยู่ในเกาะสมุย การไปซิ่งมอเตอร์ไซค์กับคนท้องถิ่น การไปล่องเรือกลางทะเล ก็พอจะคาดเดาได้ว่า จะต้องเป็นการท่องเที่ยวที่สนุกสุดเหวี่ยงอย่างแน่นอน
Where to Go
การเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับการไปเยือนเกาะสมุยคือเครื่องบิน โดยมีสายการบินบางกอกแอร์เวย์สบินตรงจากกรุงเทพ - สมุยเพียงสายการบินเดียว (1 ชั่วโมง 20 นาที) นอกนั้นจะเป็นการบินจากกรุงเทพไปลงสนามบินสุราษฎร์ธานี แล้วค่อยโดยสารรถยนต์ เรือ หรือเครื่องบินเล็กไปยังเกาะสมุยอีกต่อหนึ่ง
| สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ เส้นทางกรุงเทพ - เกาะสมุย ราคาตั๋วเครื่องบินเริ่มต้นที่ 2,160 บาท
|
สมุย เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีสีสัน เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายให้ผู้มาเยือนได้รู้สึกถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความเรียบง่าย อิสระ ได้รับการปลดปล่อย สายรักธรรมชาติและกีฬาทางน้ำ ก็มีแหล่งดำน้ำสวย ๆ จำนวนมาก โดยเกาะเต่า ถือว่าเป็นฮับใหญ่ของธุรกิจดำน้ำที่มีมาตรฐานระดับสากล หรือจะเป็นสายธรรมะ ก็มีวัดหลายแห่งให้เข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น เจ้าแม่กวนอิมพันมือที่วัดปลายแหลม หรือหลวงปู่ทวดที่วัดบ่อผุด ฯลฯ สำหรับสายสปา มี Wellness Resort ระดับโลกไว้บริการ หรือสายปาร์ตี้ไนท์ไลฟ์ เพียงนั่งเรือไปเกาะพะงัน ก็สามารถเอนจอยฟูลมูนปาร์ตี้ได้
ภาพจากเว็บไซต์ https://www.bluevoyagethailand.com/th/
ล่องเรือยอร์ชชมเกาะ | Blue Voyage Thailand
Open : ทุกวัน เวลา 08.00 – 19.00 น.
การไปล่องเรือยอร์ช เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหล่าคนดังฮอลลีวู้ดจะทำเสมอเมื่อมาเที่ยวทะเลเมืองไทย และแซม สมิธก็เช่นกัน ที่สมุย มีเรือยอร์ชดี ๆ ให้บริการทัวร์ชมเกาะต่าง ๆ ไม่น้อย เราแนะนำเรือยอร์ชของ Blue Voyage Thailand โดยเส้นทางเดินเรือที่สมุยจะใช้เรือ S/Y Blue Coco สะดวกสบายและหรูหรา ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่สามารถชมวิวทะเลได้รอบด้านผ่านกระจกบานใหญ่รอบลำ และ โซนรับประทานอาหารท้ายเรือ สามารถทำกิจกรรมสันทนาการได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำ ตกปลา ปาร์ตี้เล็ก ๆ บนเรือ ฯลฯ
แพ็กเกจการท่องเที่ยว- ทริปครึ่งวัน เริ่มต้น 29,900 บาท
- ทริปเต็มวันหรือมีการค้างคืน คิดราคาเพิ่มเติมตามเส้นทางเดินเรือ จำนวนวัน และ ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
|
Where to Enjoy
มีร้านอาหารนานาชาติเป็นจำนวนมาก นอกจากห้องอาหารในโรงแรมระดับ 5 ดาวแล้วก็ยังมีร้านอาหารที่น่าสนใจอีกมากภายในตัวเมืองเกาะสมุย
ภาพจาก เฟซบุ๊ค Pepenero Koh Samui
Pepenero
Address : 4/5 หมู่ 1 ถ. แม่น้ำ อ. เกาะสมุย จ. สุราษฎร์ธานี
ร้านอาหารอิตาเลียนที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดบนเกาะสมุยที่รันธุรกิจโดยเชฟชาวอิตาเลียน คงความเป็นอาหารอิตาเลียนแบบต้นตำรับ ที่นี่ไม่มีพิซซ่า แต่เป็นเมนูอาหารอิตาเลียนชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นซุป พาสต้า เมนูเนื้อหรืออาหารทะเลในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน เช่น Spagetti Alla Bottarga สปาเกตตี้ไข่ปลากระบอกแห้ง (600บาท) Cacciuccio Soup ซุปซีฟู้ดสไตล์ทัสคานี (580 บาท) ฯลฯ
Where to Stay
Kimpton Kitalay Samui
Address : 10 ต. บ่อผุด อ. เกาะสมุย จ. สุราษฎร์ธานี
สำหรับที่พักเมื่อเดินทางมาที่เกาะสมุย เราขอแนะนำโรงแรม Kimpton Kitalay Samui ที่หาดเชิงมนบนเกาะสมุย โรงแรมเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว บรรยากาศสงบ เป็นส่วนตัว เพราะในพื้นที่หาดเชิงมนจะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านเท่าไรนักเมื่อเทียบกับโซนอื่น ๆ หลังจากที่สนุกกับสีสันของการท่องเที่ยวมามาก เราคงอยากที่จะมีเวลาได้อยู่กับตัวเองและธรรมชาติกันบ้าง
การตกแต่งรีสอร์ทมีแรงบันดาลใจมากจากวัฒนธรรมท้องถิ่นบนเกาะสมุยกับความหรูหราสมัยใหม่ บรรยากาศจะเหมือนกับหมู่บ้านชาวประมงที่มีความเรียบง่าย เงียบสงบ มีความ modern luxury เข้ามาผสมผสาน ทำให้เกิดความน่าสบายใจ และเข้าถึงได้ง่าย
จุดเด่นของรีสอร์ทแห่งนี้ คือ การเป็นที่พักแบบ Pet Friendly ที่คนรักสัตว์สามารถพาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาเข้าพักด้วยกันได้ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิกซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแห่งเดียวในเกาะสมุยเลย
ภาพจากเว็บไซต์ imdb และ อินสตาแกรม @hallebeiley
Halle Beiley : Viva Pattaya
ฮัลลี เบลีย์ สาวน้อยอายุ 23 ปีที่โด่งดังไปทั่วโลกด้วยการรับบทเจ้าหญิงแอเรียล จากภาพยนตร์ The Little Mermaid ที่เข้าฉายภายในปีนี้ ทำให้เธอกลายเป็นดาวเด่นคนต่อไปทั้งในวงการเพลง และ ภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ด
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ฮัลลี เบลีย์ได้มาเยือนประเทศไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์พอดิบพอดี มากับแฟนหนุ่มแรปเปอร์ DDG ที่มาเล่นคอนเสิร์ตในเทศกาลเพลง The Rolling Loud Pattaya และได้โชว์ชุดภาพระหว่างเที่ยวสนุกตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้งในพัทยาและกรุงเทพลงโซเชียลส่วนตัว มีคนเข้ามากดถูกใจมากกว่า 1 แสนไลค์ ทำให้เราคิดถึงการไปเที่ยวทริปสั้น ๆ ที่พัทยา เมืองชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพมากที่สุด หาคำตอบว่าทำไมนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติถึงรักพัทยา
Where to Go
พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสัน มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาเพื่อเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนพัทยาคาดหวังที่จะได้รับความสนุกสนานและความบันเทิงเริงใจกันแบบเต็มที่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนกลับไปสู่ชีวิตจริง
ภาพจากอินสตาแกรม@hallebeiley และ เฟซบุ๊ค Elephant Jungle Sanctuary Pattaya
Elephant Jungle Sanctuary Pattaya
Address : 56/1-56/6 ต. เขาไม้แก้ว อ. บางละมุง จ. ชลบุรี
ถ่ายรูปคู่กับช้างซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติของไทย แนะนำให้ไปสัมผัสกับความแสนรู้ของสัตว์ใหญ่อย่างช้างโดยที่ไม่ทำร้ายพวกเขาด้วยการแวะไปที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง Elephant Jungle Sanctuary ที่พัทยา ซึ่งเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนแทน
| แพ็กเกจการท่องเที่ยว แบบครึ่งวัน (คนละ 2,500 บาท) ให้คุณสามารถอยู่กับช้างได้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหาร อาบน้ำช้าง ฯลฯ โดยทัวร์จะมี 2 รอบ
- รอบเช้า ตั้งแต่ 06.30 – 13.30 น.
- รอบบ่าย 12.30 – 17.30 น.
|
Where to Enjoy
พัทยาเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยมากมาย ทั้งร้านที่ขายไอเดียสนุก ๆ เกี่ยวกับอาหาร ร้านที่แต่งร้านเป็นธีมเรื่องราวสร้างบรรยากาศ จูงใจให้นักท่องเที่ยวมาใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับอาหารและความคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจ
ภาพจากเฟซบุ๊ค Cave Beach Club
Cave Beach Club
Address : ซ. นาจอมเทียน 10 สัตหีบ จ. ชลบุรี
นั่งเอกเขนกรับลมชมวิวกินบรรยากาศกับคาเฟ่ริมทะเลที่ตกแต่งสไตล์ Beach Lounge มีจุดถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย เสิร์ฟทั้งเมนูอาหารไทยและอาหารยุโรป มาตรฐานครัวเดียวกับร้าน The Glass House อีกหนึ่งตำนานความอร่อยของพัทยา หรือจะสั่งเครื่องดื่มมานั่งชิลสบาย ๆ เช่น เมนู Paradise Lost Cave (400 บาท) Boho Cave (380 บาท) ฯลฯ
ภาพจากเฟซบุ๊ค Scoop Beach Café
Scoop Beach Café
Address : 1 211 ซ. นาจอมเทียน 4 บางละมุง จ. ชลบุรี
ร้านไอศกรีมโซนพัทยาใต้ ที่เหมือนยกคาเฟ่เกาหลีเมืองปูซานมาตั้งไว้ ตกแต่งร้านด้วยสไตล์มินิมอล เมนูอาหารทั้งเครื่องดื่ม ของหวาน และไอศกรีมที่ออกแบบมาอย่างน่ารักแบบที่ต้องถ่ายรูปไว้ที่ระลึกก่อนชิมแทบทุกคน โดยไอศกรีม 1 สกูปเริ่มต้นที่ 80 บาท มี Fancy Cone และ Topping แยกขาย เมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ จะเริ่มต้นที่ 105 - 145 บาท และยังมีเมนูวาฟเฟิลแบบต่าง ๆ อีกด้วย
Where to Stay
ภาพจาก เฟซบุ๊ค Grande Centre Point Space Pattaya
Grande Centre Point Space Pattaya
Address : 888 หมู่ที่ 5 เมืองพัทยา อ. บางละมุง จ. ชลบุรี
โรงแรม Grande Centre Point Space Pattaya เปิดตัวในปีที่แล้วด้วยธีมโลกอวกาศ สร้างจุดขายใหม่ที่น่าสนใจให้กับการมาพักผ่อนที่พัทยา โรงแรมตกแต่งด้วยธีมอวกาศตั้งแต่ด้านหน้าอาคารตลอดจนบริเวณโดยรอบจนถึงการตกแต่งภายในและห้องพักต่าง ๆ
ภายในโรงแรมมีทั้งสวนน้ำ และ คลับสำหรับเด็กที่ออกแบบให้เหมือนกับสถานีอวกาศ มีเกมและกิจกรรมมากมาย สำหรับนักธุรกิจที่เข้าพัก ที่นี่ก็ตอบโจทย์ด้วยศูนย์ประชุม Space Convention Centre ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย พื้นที่กว้างขวางไร้เสา
ในช่วงเวลากลางปี หลายคนอาจจะติดพันกับงานและหน้าที่ต่าง ๆ จนหาเวลาปลีกตัวไปพักผ่อนกันได้ยาก การได้ไปเที่ยวพักผ่อนสั้น ๆ ให้ตนเองและครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันบ้าง แม้จะเป็นทริปภายในประเทศเดินทางใกล้ ๆ ใช้เวลาไม่นาน แบบไอเดียการมาเที่ยวเมืองไทยของเหล่าคนดังระดับโลก น่าจะทำให้สีสันในชีวิตของเดือนสิงหาคมอบอุ่นสดใสกันมากขึ้นนะคะ