Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​​        ธุรกิจอาหารกำลังตอบรับเทรนด์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้นมาซักระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวคิดเรื่อง Sustainable Food หรืออาหารยั่งยืนที่กำลังจะเป็นเทรนด์อาหารใหม่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดจำนวนขยะที่เกิดจากการประกอบการอย่าง Zero Waste การลดจำนวน Carbon Footprint ในเชิงการผลิตอาหาร รวมไปถึงแนวคิดเชิงอนุรักษ์ทางด้านสังคมและวัฒนธรรมท้องถิ่นในพื้นที่ที่ร้านอาหารนั้นเปิดทำการอยู่ 

        วันนี้ The Explorer จะชวนนักชิมและนักชิล ไปชิมความอร่อยเลิศรสจากร้านอาหารรางวัล Michelin Green Star จากเมืองใหญ่ทั่วเอเชีย และผ่อนคลายไปกับบรรยากาศคาเฟ่สไตล์ Eco-Friendly ที่เปิดกิจการด้วยปรัชญาแนวคิดเพื่อสิ่งแวดล้อม



        ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ Michelin Green Star หรือ รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกกันซักนิด รางวัลนี้ เป็นรางวัลที่มอบให้กับร้านอาหารที่โดดเด่นในการมีการจัดการบริหารธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม(Sustainable Gastronomy) โดยมิชลินได้จัดทำรางวัลนี้มากว่า 3 ปี โดยมีร้านอาหารที่ได้ Michelin Green Star ทั้งหมด 448 แห่งทั่วโลก ปัจจุบันในประเทศแถบเอเชียมีอยู่ 47 ร้าน และนี่คือส่วนหนึ่งของความอร่อยเลิศแบบรักษ์โลกตามเมืองใหญ่ของเอเชียที่ The Explorer จะพาคุณไปทำความรู้จัก



Pru – Phuket/ Thailand
Address : ตรีสรารีสอร์ท 60/1 ม. 6 ถ. ศรีสุนทร ต. เชิงทะเล อ. ถลาง จ. ภูเก็ต
Open : เปิดบริการวันพฤหัสบดี - วันจันทร์ เวลา 18.00 - 22.30 น. ปิดวันอังคาร - วันพุธ
Map: Google Map | Tel : 076-310100
Facebook : PRU Restaurant | Website : www.prurestaurant.com
*รางวัล 1 ดาวมิชลิน ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม
*รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก 

        พรุ (Pru) ร้านอาหารแนว Innovative ชื่อร้านอาหารนำมาจากคำภาษาไทยว่า พรุ ของป่าพรุซึ่งเป็นป่าชายเลนทางภาคใต้ โดยการจัดการวัตถุดิบของทางร้านนั้น ไม่ว่าจะผักสด สมุนไพร หรือดอกไม้ที่นำมาประกอบอาหาร จะนำมาจากส่วนผักออร์แกนิคแบบเกษตรยั่งยืนของร้านเองควบคู่ไปกับการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นในประเทศ 

        ในส่วนของเนื้อสัตว์ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีเช่น สัตว์ปีกมาจากการเลี้ยงแบบปล่อย สัตว์ทะเลจะต้องมาจากการจับได้โดยการใช้เบ็ด มีการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน ทำเมนูที่ใช้ผลผลิตตามฤดูกาล ไปจนถึงการทำอาหารและการตกแต่งจานอย่างประณีต ทำให้พรุได้ทั้งรางวัล Michelin Green Star และยังได้รับรางวัล Michelin Star 1 ดาวในปี 2023 นี้อีกด้วย


 *ซ้ายไปขวา
    • เมนู Surathani ที่วัตถุดิบหลักคือกุ้งจากแม่น้ำตาปี
    • เมนู Krabi วัตถุดิบหลักคือ ปลากระบอกแดงจากกระบี่
    • เมนู Durian and Carvier ที่วัตถุดิบหลักคือทุเรียนและคาร์เวียร์จากหัวหิน

​The Explorer’s Pick : Pru Experience 7 Courses : Cuisine Journey 6,500 บาท++ / Discovery Wine Pairing 4,500 บาท++ / Premium Wine Pairing 7,000บาท++  

Reservation : www.restaurants.sg​
** ขอบคุณภาพจาก พรุ PRU 



Haoma – Bangkok / Thailand
Address : 231/3 ซ. สุขุมวิท 31 คลองเตยเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
Open : เปิดบริการวันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 17.30 – 23.00 น. ปิดวันจันทร์
Map : Google Map | Tel : 092-8918222
Facebook : Haoma | Website : haoma.dk
*รางวัล 1 ดาวมิชลิน ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม
*รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก

        Haoma เป็นร้านอาหารสไตล์ Neo-Indian มีชื่อเป็นภาษาเปอร์เซีย แปลว่าต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ทางร้านปลูกผักกว่า 40 ชนิดไว้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร โดยผักต่าง ๆ จะถูกปลูกด้วยวิธีที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกแบบ Hydroponics, Aquaponics หรือดินออร์แกนิค อีกทั้ง ยังมีบ่อปลาซึ่งร้านจะนำมาใช้เป็นน้ำหมุนเวียนในการเพาะปลูก และมีการสร้างระบบรองน้ำฝนทั้งในส่วนเพื่อการปลูกผักแบบ Aquaponics และนำไปกรองผ่านระบบ Nosdaq Water System เพื่อเป็นน้ำดื่มสะอาดไว้บริการลูกค้า 

        นอกเหนือไปจากระบบคิดในการผลิตวัตถุดิบสำหรับทำอาหารด้วยวิธีคิดแบบยั่งยืนดังที่กล่าวมาแล้ว Haoma ยังเน้นการไม่ทิ้งวัตถุดิบ นำเสนออาหารอินเดียสไตล์ใหม่ที่สวยงามทันสมัยแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของกลิ่นรสเครื่องเทศในแบบฉบับอาหารอินเดีย


*จากซ้ายไปขวา
    • Crab Madras Curry เมนูที่ต้องใช้เวลาทำนานกว่า 36 ชั่วโมง วัตถุดิบหลักคือปูม้าสดใหม่ ด้านบนคือ chilli cracker
    • Vada Pao, Pani Puri และ Dahi Kebab เมนูมังสวิรัติแบบ Traditional เสิร์ฟพร้อม Aam Panna เครื่องดื่มเย็นที่ทำจากมะม่วง
    • มนูของหวานสไตล์รัฐราชสถาน มะม่วงปรุงรสกับหญ้าฝรั่นและขิง รับประทานกับ Lassi หรือโยเกิร์ตปั่นของอินเดีย ท็อปด้วยวงแหวนประดับที่ทำจากยี่หร่า

​The Explorer Pick : Meat & Seafood Experience : HAOMA EXPERIENCE MENU 3,990บาท++
BEVERAGE PAIRING AVAILABLE 3,990บาท++

Reservation : book.chope.co/booking
** ขอบคุณภาพจาก HAOMA 



Kashiwaya – Osaka | Japan
Address : 2 - 5 - 18 Senriyamanishi , Suita , Osaka 565 - 0851 Japan
Open : เปิดบริการวันจันทร์ - วันเสาร์ เวลา 12.00 – 15.30 และ 18.00 – 22.00 น. ปิดวันอาทิตย์
Map : Google Map | Tel : +816-6386-2234
*รางวัล 3 ดาวมิชลิน สุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง
*รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก 

        Kashiwaya เป็นร้าน Japanese Culinary Traditional ระดับตำนานย่านโอซาก้า เปิดร้านตั้งแต่ปี 1977 เสิร์ฟอาหารสไตล์ Kaiseki Cuisine หรือ คอร์สอาหารญี่ปุ่นที่ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ซึ่งที่ Kashiwaya นั้น นอกจากการทำอาหารที่ประณีตบรรจงตามแบบฉบับครัวชั้นสูงของญี่ปุ่นซึ่งให้ความสำคัญทั้งรสชาติ กลิ่นและความสวยงามแล้ว ทางร้านได้รับรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกจากการทำงานร่วมกับสถาบันวิจัยทางทะเลในการพัฒนาคุณภาพของปลาที่มาจากการเพาะเลี้ยงปลา และการสร้างเครือข่ายในกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อรักษาและสืบทอดวัฒนธรรมการบริโภคผักแบบนานิวะ (Naniwa) ของโอซาก้า


* ซ้ายไปขวา
    • Emulsified Salt - Boiled Hamaguri Soup – ซุปหอยฮามากุริที่ปรุงด้วยความร้อนต่ำเพื่อดึงรสชาติของทะเลออกมาจนน้ำซุปเป็นสีขาวเหมือนนม
    • Ise - Lobster Deep Fried Bean Curd – ล็อบสเตอร์อิเสะที่จุ่มในน้ำมันร้อนแล้วนำไปแช่น้ำแข็งเติมรสชาติด้วยน้ำมันงาทำให้มีรสและเนื้อสัมผัสหวานลึกซึ้งกว่าการลวกธรรมดา
    • Seasonal Medley – รวมมิตรของอร่อยตามฤดูกาล เช่น หอยเป๋าฮื้อ ซูชิปลาแมคเคอเรล กุ้งตุ๋น เต้าหู้งา ข้าวหุงถั่วแดง ฯลฯ

​*** ทางร้านจะเสิร์ฟอาหารตามฤดูกาล ดังนั้นจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมนูได้ ราคาคอร์สอาหารของร้านอยู่ที่ประมาณ 50,600 เยน (ประมาณ 12,370 บาท)

** ขอบคุณภาพจาก KASHIWAYA 



Mountain and Sea House – Taipei | Taiwan
Address : 94, Section 2 Ren’ai Rd. Zhongzheng District Taipei
Open : เปิดบริการทุกวัน เวลา 12.00 – 14.30 และ 18.00 – 22.00 น.
Map : Google Map | Tel : +886 2-2351-3345
*รางวัล 1 ดาวมิชลิน ร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม
*รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก 

        Mountain and Sea House ร้านอาหารจีนสไตล์ไต้หวันแบบดั้งเดิมที่ให้กลิ่นอายของวัฒนธรรมไต้หวันยุค 1930’s ทั้งบรรยากาศภายในร้านและเมนูอาหาร โดยอาหารไต้หวันนั้นจะเปรียบเสมือนกับหม้อรวมวัฒนธรรมต่าง ๆ  ทั้งจากคนพื้นเมืองไต้หวัน จีนฮกเกี้ยน จีนกวางตุ้ง วัฒนธรรมดัตช์ และวัฒนธรรมญี่ปุ่น เข้าด้วยกัน เกิดเป็น Taiwanese Cuisine ที่มีรูปแบบเฉพาะ 

        นอกเหนือไปจากเรื่องของเทคนิคการทำอาหารสไตล์ครัวไต้หวันแล้ว ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบโดยใช้คอนเซ็ปต์ Farm-To-Table โดยวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ จะมาจากกลุ่มผู้ผลิตรายย่อยจากท้องถิ่น เนื้อไก่เนื้อหมูมาจากฟาร์มออร์แกนิคที่เลี้ยงสัตว์สายพันธุ์ท้องถิ่นแบบปล่อย ผักสดตามฤดูกาล เพราะหลักการของร้านนั้นเชื่อว่าการสืบทอดวัฒนธรรมอาหารไต้หวันจะต้องมาจากวัตถุดิบจากท้องถิ่น


* จากซ้ายไปขวา
    • Taipingting Rose Prawn (太平町玫瑰蝦) เมนูที่ตั้งใจทำออกมาให้เหมือนกับตาของนกฟีนิกซ์จีน ไข่ปลากระบอกห่อด้วยไข่แดงเค็มและกุ้งห่อด้วยสาหร่าย ฟองเต้าหู้ก่อนนำไปทอด
    • Deboned Chicken Braised in Pork Tripe (肚包雞) ไก่เลาะกระดูกตุ๋นในกระเพาะหมูที่ต้องใช้เวลาทำกว่า 6 ชั่วโมง
    • The Scallop and Crysanthemum Soup (干貝菊花湯) ซุปหอยเชลล์กับดอกเก๊กฮวย ใช้ความพิถีพิถันในการตุ๋นหอยเชลล์และเห็ดมัตสึตาเกะห่อในไข่ตุ๋นเป็นซุป เวลาเสิร์ฟจะผ่าไข่ออกมาเป็นกลีบให้ดูเหมือนดอกเบญจมาศ

The Explorer’s Pick สำหรับท่านที่รวมกลุ่มกันมาเป็นหมู่คณะตั้งแต่ 8 ท่านขึ้นไป ขอแนะนำแพ็กเกจแบบโต๊ะจีน 十大經典菜色 เซ็ตอาหารค่ำสำหรับ 8 ท่าน เสิร์ฟ 10 เมนู โดยมี เซ็ต Rui (瑞 經典八人合菜) สำหรับ 8 ท่าน ราคา 20,800 ดอลล่าร์ไต้หวัน (ประมาณ 23,500 บาท) และเซ็ต Xiang (祥 經典八人合菜)  26,800 ดอลล่าร์ไต้หวัน (ประมาณ 30,274 บาท)
*รายการอาหารอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนเมนูไปตามวัตถุดิบตามฤดูกาล 

Reservation : inline.app/booking
** ขอบคุณภาพจาก Mountain and Sea House 



A Flower Blossom On The Rice – Seoul | South Korea
Address : 3-6 Insadong 16-gil Jongno-gu Seoul South-Korea
Open : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 – 15.00 และ 17.30 – 21.00 น.
Map : Google Map | Tel : +822-732-0276
Instagram : flowerrice_official | Website : www.goodbab.co.kr
*รางวัลบิบ กูร์มองต์  ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยา
*รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก 

        A Flower Blossom On The Rice เป็นร้านอาหารเกาหลีที่ตั้งอยู่ในย่านอินซาดงซึ่งไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวผ่านไปมาเท่าไร แต่ร้านค่อนข้างมีชื่อเสียงโด่งดังในสื่อต่าง ๆ จากการรูปแบบการนำเสนออาหารเพื่อสุขภาพในสไตล์เกาหลีที่ทันสมัย โดยวัตถุดิบหลักอย่างพืชผักต่าง ๆ เป็นผลิตผลแบบออร์แกนิคที่ส่งตรงจากฟาร์มที่ได้รับการรับรองด้านเกษตรอินทรีย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น ซึ่งในทางหนึ่งคือเป็นการสนับสนุนเกษตรกรรมท้องถิ่นให้แพร่หลายในวงกว้าง 


*จากซ้ายไปขวา
    • Yookgaejung ซุปเผ็ดเกาหลีแบบมังสวิรัติ ทางร้านใช้ผักและเห็ดออร์แกนิคต้มกับสมุนไพร 8 ชนิด เผ็ดร้อน หอมน้ำมันพริก
    • เมนูขึ้นชื่อของร้าน Bojagi Bibimbub ข้าวยำเกาหลีที่ห่อไข่ ไอเดียจากศิลปะการห่อของสไตล์เกาหลี Bojagi ภายในเป็นข้าวกับผัดผัก 5 ชนิด เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงอย่างซุปฟักทอง สลัดเต้าหู้ และ ผักดอง
    • Jeon หรือแพนเค้กเกาหลีแบบต่าง ๆ ที่วัตถุดิบเป็นผักและเนื้อสัตว์ออร์แกนิคทั้งหมด

​The Explorer’s Pick เมนูหลักที่โด่งดังที่สุดของร้าน Bojagi Bibimbub เสิร์ฟเฉพาะมื้อกลางวัน ราคาต่อเซ็ตอาหารอยู่ที่ 20,000 วอน (ประมาณ 544 บาท)  

** ขอบคุณภาพจาก A Flower Blossom On The Rice 



Taian Table – Shanghai / China
Address : 101 - 102 Building No. 1 Garden Office, No. 161, Lane 465, Zhenning Road, Shanghai, China
Open : เปิดบริการวันอังคาร - วันเสาร์ เวลา 18.00 – 23.00 ปิดวันอาทิตย์ - วันจันทร์
Facebook : Taian Table | Website : sh.taian-table.cn
*รางวัล 3 ดาวมิชลิน สุดยอดร้านอาหารที่ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง
*รางวัลดาวมิชลินรักษ์โลก 

        Taian Table ร้านอาหารแนว innovative ที่นักชิมแดนมังกรมักไปเยี่ยมเยือนเพื่อชิมอาหารโดยการได้นั่งดูเหล่าเชฟโชว์ฝีมือการทำอาหารสุดสร้างสรรค์ตรงหน้าในครัวแบบเปิดกลางร้าน สร้างความรู้สึกสนุกและตื่นตาตื่นใจไปกับความอร่อยของอาหารตั้งแต่การปรุง โดยอาหารจะเป็นคอร์สหลัก 8 เมนู + 2 ถึง 4 เมนูเพิ่มเติมจากคอร์ส ‘Classics’ และ ‘Specials’ 

        ในส่วนของการจัดการธุรกิจที่ทำให้ได้รับรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกนั้น Taian Table ได้ซื้อหาวัตถุดิบต่าง ๆ จากแหล่งผลิตที่มีนโยบายการจัดการแบบยั่งยืน กระตุ้นให้คู่ค้าลดจำนวนการใช้บรรจุภัณฑ์ รวมทั้งมีนโยบายในการทำงานช่วยลดการใช้พลาสติก การทิ้งอาหาร และการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น รวมไปถึงแนวคิดในการรีไซเคิล


*จากซ้ายไปขวา
    • Wild Patagonian Toothfish เมนูปลาหิมะกับโชริโซ่ และ ซอสบุยยาเบส
    • Foie Gras เมนูฟัวกราส์กับบ๊วย ถั่วเบลูก้าเลนทิล และ เครื่องเทศแบบฝรั่งเศส
    • Hokkaido Scallop เมนูหอยสแกลลอปจากฮอกไกโดกับเฮเซลนัทมิโซะ และ คาเวียร์โอเซตรา

​*** 8 Course Menu + 2 Dishes ราคา 2,588 หยวน (ประมาณ 12,589 บาท) / 8 Course Menu + 4 Dishes ราคา 2,888 หยวน (ประมาณ 14,048 บาท)  

** ขอบคุณภาพจาก Taian Table 

        และสำหรับหลายท่านที่เป็นชาว Café Hopping ชอบการนั่งชิล กับบรรยากาศผ่อนคลายในคาเฟ่ The Explorer ขอแนะนำคาเฟ่แนวคิด Eco-Friendly ในกรุงเทพฯ ให้คนรักคาเฟ่ที่มีหัวใจสีเขียวได้ไปเยี่ยมเยือน ลองใช้บริการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจรักษ์โลก



Veggiology – Bangkok
Address : 8 สุขุมวิท 41 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
Open : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น.
Map : Google Map | Tel : 083-9369398
Facebook : VEGGIOLOGY | Website : www.veggiology.com

        หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับแบรนด์ Veggiology น้ำผักผลไม้สกัดเย็นที่โด่งดังในกลุ่มคนรักสุขภาพ และวางขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ที่หน้าร้านย่านสุขุมวิท 41 ได้ทำเป็น Organic Café & Juice Bar ไว้นำเสนออาหารวีแกนและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ปรุงกันแบบสด ๆ ตามออเดอร์ ภายในร้าน ตกแต่งสไตล์ Mid-Century ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย นอกจากอาหารและเครื่องดื่ม ก็ยังจำหน่ายสินค้าออร์แกนิคหลายอย่าง เช่น เมล็ดธัญพืช หรือสิ่งอุปโภคต่าง ๆ ที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ 

        ทุกเมนูภายในร้าน จะถูกทำขึ้นอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน วัตถุดิบจะต้องเป็นแบบออร์แกนิคและเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายตามหลักการเยียวยาร่างกายด้วยวิถีธรรมชาติอย่างแท้จริง 


* จากซ้ายไปขวา
    • น้ำผักผลไม้สกัดเย็นขนาด 500 ml (250 บาท)
    • Juice Flight น้ำผักผลไม้สกัดเย็นคัดเฉพาะสูตรขายดี 10 รสชาติ (290บาท)
    • Blessing Blue สมูทตี้โบวล์ที่มีส่วนผสมของสาหร่าย Blue Spirulina, Red Apple, Organic Banana, Organic Flaxseed Oil, Organic Coconut Water และ Organic White Chia Seed แล้วท็อปด้วยมะพร้าว บลูเบอร์รี และ ธัญพืชนานาชนิด (260 บาท)



Broccoli Revolution – Bangkok
Address : 889 ถ. สุขุมวิท คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ
Open : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น.
Map : Google Map | Tel : 095-2519799

        Broccoli Revolution อยู่ในกลุ่มร้านอาหารกลุ่มแรก ๆ ของกรุงเทพฯ ที่ให้ความสนใจกับเทรนด์อาหารที่ทำจาก Plant-Based โดยตามชื่อของร้านก็แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความพยายามในการปฏิวัติมื้ออาหารที่บริโภคกันโดยทั่วไปให้เป็นมื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพและดีต่อโลกของเรามากขึ้น



        สาขาสุขุมวิท 49 ซึ่งเป็นสาขาแรก รีโนเวทจากธนาคารเก่า ออกแบบตกแต่งใหม่ให้เป็นร้านอาหารที่เน้นความเรียบง่าย ความเท่ ดิบ ของงานออกแบบสไตล์อินดัสเทรียล แต่ซอฟต์บรรยากาศลงและเพิ่มความสดชื่นด้วยเฟิร์นประดับตามมุมต่าง ๆ ของร้าน เสิร์ฟเมนูอาหารมังสวิรัติและวีแกนแนวฟิวชันที่ทำขึ้นจากวัตถุดิบออร์แกนิคที่ดีต่อสุขภาพ


*จากซ้ายไปขวา
    • Shogun Platter ซูชิแบบ Plant-Based ไม่เหมือนใคร (280บาท)
    • Cold-Press Juice น้ำผักผลไม้สกัดเย็นที่มีให้เลือกกว่า 18 เมนู (120 บาท)
    • Broccoli Quinoa Charcoal Burger เบอร์เกอร์ที่ทำจากบร็อคโคลี่บดรวมกับควินัวปั้นก้อน ท็อปด้วยซัลซ่ามะม่วง (290 บาท)
    • Brain Power เครื่องดื่มบำรุงสมองจากมัทฉะ สาหร่ายสไปรูลินาและนมอัลมอนด์ (200 บาท)
** ขอบคุณภาพจาก Broccoli Revolution



Green Light Café and Bar – Koh Samui
Address : 3/28 หมู่ 1 หมู่บ้านชาวประมง บ่อผุด เกาะสมุย
Open : เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8:00 - 21:00 น.
Map : Google Map | Tel : 081-1216955

        Green Light Café and Bar เป็นร้านอาหารมังสวิรัติและวีแกนชื่อดังในเกาะสมุย เสิร์ฟเมนูอาหารเพื่อสุขภาพและ Gluten-Free ซึ่งวัตถุดิบออร์แกนิคในการทำอาหารมาจากเกษตรกรภายในท้องถิ่นรวมทั้งในส่วนที่ร้านปลูกเอง

        บรรยากาศภายในคาเฟ่เป็นไปอย่างสบาย เรียบง่าย เป็นเสมือนคอมมูนิตี้ที่ทั้งคนในพื้นที่เกาะสมุยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถแบ่งปันและสนทนาแนวความคิดต่าง ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาชุมชนได้ โดยในการบริหาร Green Light Café เองนั้น ก็มุ่งเป้าหมายไปที่การรับผิดชอบต่อสังคมพอเพียง และการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 


*จากซ้ายไปขวา
    • Falafel Maze Platter เมนูสุขภาพที่เสิร์ฟฟาลาเฟลอบ ฮัมมูสแบบโฮมเมด บีทรูทย่างกับเฟนเนลสเปรด มะกอกเขียว และผักสด (288 บาท)
    • Quinoa & Veggies Bowl ควินัวแดงเสิร์ฟพร้อฟักทองและซูกินีอบ เห็ดชิตาเกะและเห็ดกระดุมย่างกับโรสแมรี่กับกระเทียม (384 บาท)
    • Banan Pancake & Fruits แพนเค้กกล้วยหอมแบบกลูเตนฟรีเสิร์ฟพร้อมผลไม้สด (288 บาท)
** ขอบคุณภาพจาก Green Light Café and Bar



Nature Talks – Chiang Mai
Address : 82/1 ดอนตัน, ตำบล เหมืองแก้ว อำเภอแม่ริม เชียงใหม่
Open : เปิดบริการวันอังคาร - วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9:00 - 16:30 น.
Map : Google Map | Tel : 086-3340017
Facebook : NatureTalk

        Nature Talks คาเฟ่บ้านดินแถบแม่ริม เชียงใหม่ที่เด่นสะดุดตาจากงานออกแบบอาคารและปรับภูมิสถานให้ดูราวกับเป็นบ้านไร่ในชนบทยุโรป เป็นทั้งคาเฟ่ สตูดิโอเครื่องปั้นดินเผา และให้บริการที่พักขนาด 2 ห้องนอน



        อาคารบ้านดิน 3 ชั้นนี้ใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นดินขาว ไม้ไผ่สำหรับขึ้นโครง จะมีเพียงบางส่วนที่ใช้เหล็กเพื่อช่วยในงานโครงสร้างที่แข็งแรง และงานหินในส่วนของครัว สร้างเส้นทางภายในบ้านให้อากาศถ่ายเท ช่องตรงกลางบ้านเปิดระบายความร้อนขึ้นข้างบน และความชื้นจากดินยังช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นกว่าภายนอก เป็นอาคารปลูกสร้างที่ทำขึ้นโดยมีความตั้งใจให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 


*จากซ้ายไปขวา
    • Shitake Mushroom Stem Steak Burger สเต็กเบอร์เกอร์ขาเห็ดหอม (130 บาท) หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์
    • Ice Americano Coconut Flower Syrup กาแฟอเมริกาโนในน้ำช่อดอกมะพร้าว (90 บาท)
    • Coco Banana Balckmint Smooties โกโก้ กล้วย มิ้นต์ดำปั่น วัตถุดิบเป็นออร์แกนิคทั้งหมด (90 บาท)
** ขอบคุณภาพจาก Nature Talk  

        และทั้งหมดนี้คือการค้นพบรสชาติของความอร่อยแบบรักษ์โลก การบริโภคที่พยายามตอบโจทย์และรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ The Explorer นำมาเสนอในเดือนกรกฎาคมนี้ค่ะ

 

กลับ