Display mode (Doesn't show in master page preview)
Turn on more accessible mode
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Turn off Animations

จับตาเศรษฐกิจีนปี 2023 ส่งสัญญาณบวก เพิ่มโอกาสทำกำไรนักลงทุน

จับตาเศรษฐกิจีนปี 2023 ส่งสัญญาณบวก เพิ่มโอกาสทำกำไรนักลงทุน

    • ​ไตรมาสแรกของปี 66 เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มสดใส จากการผ่อนคลายนโยบาย และ มีโอกาสเปิดประเทศ
    • มีโอกาสที่จะทำกำไรจากการลงทุนได้ค่อนข้างดี จากการลดลงของราคาตลาดหุ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    • ยังต้องจับตาประเด็นของตลาดโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และ ยุโรปที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และ กระทบเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง


ก้าวเข้าสู่เดือนแรกของปี 2023 อย่างเดือนมกราคม ซึ่งในปีนี้เรียกได้ว่าเป็นเดือนของวันปีใหม่เลยทีเดียวเพราะ นอกจากจะมีวันปีใหม่สากลแล้ว ในปลายเดือนยังเป็นวันตรุษจีน หรือ วันขึ้นปีใหม่จีนอีกด้วย ทำให้มีการเฉลิมฉลองของชาวจีนจากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว นอกจากนี้ตลาดการลงทุนในจีนเองก็มีสัญญาณความสดใส ด้วยการเริ่มเห็นภาพความชัดเจนของการฟื้นตัว ตามปัจจัยหนุนของภาครัฐราวกับจะร่วมฉลองไปพร้อม ๆ กัน




นโยบายผลักดัน ปัจจัยความได้เปรียบกระตุ้นเศรษฐกิจจีน 

ในช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้ผลักดันแนวคิด “ความรุ่งเรืองร่วมกัน” หรือ Common Prosperity เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของประชากรในประเทศ รวมถึงพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ด้วยการออกนโยบายควบคุมต่าง ๆ เช่น 
    • ด้านการศึกษา ที่เข้ามาควบคุมโรงเรียนกวดวิชา
    • การกำหนดบริษัทเทคโนโลยีของจีน
    • นโยบายในการคุมเข้มโครงการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อลดความร้อนแรง และ การเกร็งกำไร
    • นโยบายโควิดเป็นศูนย์

อย่างไรก็ตามนโยบายเหล่านี้ ช่วยให้เศรษฐกิจจีนสามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ในขณะเดียวกันทางโลกตะวันตกก็มีความตึงตัวจากการขึ้นดอกเบี้ยและอาจนำไปสู่ความกังวลเศรษฐกิจถดถอย ยิ่งทำให้จีนเป็นทางเลือกที่ดีทางเลือกหนึ่งที่เงินทุนจะไหลเข้าและสามารถกระตุ้นระบบเศรษฐกิจระหว่างประเทศ :ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะพาจีนมุ่งไปสู่เส้นชัยแห่งการฟื้นตัวและมั่นคงได้ในที่สุด



เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรก แนวโน้มสดใสต้อนรับตรุษจีน

ตรุษจีนในปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาบริโภคจับจ่ายใช้สอยของประชาชนชาวจีน จากสัญญาณต่าง ๆ ที่ภาครัฐไม่ว่าจะเป็น
    • การผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์
    • การผ่อนคลายนโยบายการเงิน เช่น การลดอัตราดอกเบี้ย และ การอัดฉีดสภาพคล่องเข้าตลาดสินเชื้อ
    • การส่งสัญญาณเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ

ซึ่งส่งผลต่อไปยังตลาดหุ้นจีนที่มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกันปริมาณสินเชื่อในระบบยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น เป็นการสะท้อนถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และ ถือเป็นตัวชี้วัดต่อดัชนี CSI 300 (A-Shares) ที่จะปรับตัวขึ้นในเวลาต่อมา

ตลาดหุ้นจีน โอกาสเติบโตที่นักล​งทุนทั่วโลกต่างสนใจ

แม้การเติบโตของเศรษฐกิจจีน จะไม่ได้โดดเด่นเหมือนในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่จากที่ช่วงก่อนหน้านี้ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลง ประกอบกันแนวโน้มการเติบโตของรายได้ และ เศรษฐกิจที่มีท่าทีฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนเป็นที่สนใจจากบรรดานักลงทุนทั่วโลกเป็นอย่างมาก ซึ่งหากพูดถึงตลาดหุ้นจีนแล้วนั้น จะประกอบด้วย 3 กลุ่มใหญ่ คือ



หุ้นจีนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของจีนแผ่นดินใหญ่ หรือ ที่นักลงทุนรู้จักกัน คือ A-Share ซึ่งจะมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และ เซิ่นเจิ้น ซื้อขายด้วยสกุลเงินหยวนเป็นหลัก
(* หากมีการซื้อขายด้วยสกุลเงินต่างประเทศ จะเรียกว่า B-Share)



หุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) จะประกอบด้วย 3 ประเภท คือ
    • H-Share : หุ้นของธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
    • Red-Chips : เป็นบริษัทที่มีกิจการ หรือ ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในจีน แต่จัดตั้งบริษัทนอกประเทศจีน และ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง อีกทั้งยังมีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้น
    • P-Chips : เป็นกลุ่ทบริษัทที่มีลักษณะเหมือน Red-Chips แต่จะไม่มีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้น



หุ้นที่จดทะเบียนซื้อขายนอกประเทศจีน หรือ ประเทศอื่นนอกเหนือจากนี้ หุ้นกลุ่มนี้ คือ 
    • China ADRs เป็นบริษัทในประเทศจีนที่จดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นเทคโนโลยีของจีน
    • N-Share: จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค (Nasdaq)
    • S-Chips: จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์
    • L-Share: จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน



การลงทุนยังความผันผวน แม้แนวโน้มหุ้นจีนจะดีขึ้น

สำหรับในปี 2023 แม้หุ้นจีนมีโอกาสที่จะไปได้สวยจากนโยบายทางการของจีน แต่ยังมีประเด็นทางเศรษฐกิจที่จะต้องติดตาม เช่น แนวโน้มเศรษฐกิจของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และ ยุโรป ที่มีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย และ สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นวงกว้าง

ดังนั้นนักลงทุนที่รับความผันผวนได้น้อย อาจเลือกลงทุนในกองทุนผสมที่มีสัดส่วนการลงทุนทั้งหุ้น และ ตราสารหนี้ให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ โดยอาจเลือกกองทุนที่มีน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากแนวโน้มฟื้นตัวของจีนได้นั่นเอง

บทความโดย
K-Expert นิติ สนิวาล 
ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า

กองทุนแนะนำที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง
แนะนำทยอยสะสมกองทุนผสม
กองทุนผสมสร้างผลตอบแทนระยะยาวและกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset) ทั้งในและต่างประเทศ โดยลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ และหรือเงินฝาก

K-PLAN 2
ลงทุนในจีนผ่านกองทุน K-CHX 1.99%*
​อ่านรายละเอียดกองทุน
​ซื้อกองทุนผ่าน KPLUS




K-PLAN 3
ลงทุนในจีนผ่านกองทุน K-CHX 3.94%*
​อ่านรายละเอียดกองทุ
​ซื้อกองทุนผ่าน KPLUS

​​


*ข้อมูลรายงานสถานะการลงทุนรายเดือน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2565

สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง
แนะนำทยอยสะสมกองทุนหุ้นจีน

ปัจจัยพื้นฐานของจีนยังดีในระยะยาวและภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศจีนให้กลับมาเติบโต

K-CHINA
อ่านรายละเอียดกองทุน


กองทุน
​ซื้อกองทุนผ่าน KPLUS
​K-CHINA-A(A)

​K-CHINA-A(D)

​K-CHINA-SSF

​KCHINARMF



K-CHX
​อ่านรายละเอียดกองทุ
​ซื้อกองทุนผ่าน KPLUS




K-CCTV
​อ่านรายละเอียดกองทุ
​ซื้อกองทุนผ่าน KPLUS




ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”


กลับ