Display mode (Doesn't show in master page preview)
Turn on more accessible mode
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Turn off Animations

เปิดศึกชิงบัลลังค์ผู้นำฝรั่งเศส สะเทือนยุโรป ส่อแววกระทบลงทุน และ เศรษฐกิจไทย

เปิดศึกชิงบัลลังค์ผู้นำฝรั่งเศส สะเทือนยุโรป ส่อแววกระทบลงทุน และ เศรษฐกิจไทย

​​​​  ท่ามกลางกระแสฝุ่นตลบของปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ยังมีอีกสถานการณ์ที่หลายคนต้องจับตาในเดือนเมษายนนี้ คือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่จัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี ซึ่งในปีนี้ผลสำรวจชี้ว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีคนปัจจุบันมีโอกาสชนะสูงที่สุด จากการที่พาประเทศฝรั่งเศสฟื้นตัวได้ดีกว่าระดับก่อน COVID-19 แซงหน้าประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป โดยมีผู้ท้าชิงเก้าอี้สายขวาที่มีนโยบายอนุรักษ์นิยมคนสำคัญอย่างนางมารีน เลอ เปน, นางวาเลอรี เปเครสส์, นายอีริก เซมมูร์, และ อีกหลาย ๆ คน 



มาครง ตัวเต็งชิงบัลลังค์ผู้นำเมืองน้ำหอมต่ออีกสมัย


        นายเอ็มมานูเอล มาครง แห่งพรรค The Republic On The Move – เป็นผู้นำสายกลาง มีนโยบาย เน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังวิกฤต COVID-19 โดยเหตุผลที่ทำให้นายมาครงมีคะแนนความนิยมในตัวพุ่งสูงจากชาวฝรั่งเศส นั่นก็คือ
    • มีภาพลักษณ์เป็นประธานาธิบดีที่เข้าถึงได้ง่าย
    • ใช้กลยุทธ์หาเสียงโดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย
    • มีลักษณะการทำงานอย่างถึงลูกถึงคน
    • มุ่งเน้นการลดปัญหาคนอพยพเข้าเมือง
    • พยายามเป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อสันติภาพ กรณียูนเครน – รัสเซีย

        หากนายเอ็มมานูเอล มาครงชนะการเลือกตั้ง จะส่งผลทำให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นโรปปรับตัวขึ้น เพราะ มีแนวโน้มที่จะสานต่อนโยบายต่าง ๆ พร้อมยุติสงครามยูเครน – รัสเซีย ดังนั้นค่าเงินยุโรปมีแนวโน้มแข็งค่าตามเศรษฐกิจ


หลายคู่แข่งสำคัญ ทิศทางขั้วตรงข้าม

        คู่แข่งของนายมาครง ไม่ว่าจะเป็น นางมารีน เลอ แปน แห่งพรรค Rassemblement National,  นางวาเลอรี เปเครสส์ แห่งพรรค Les Républicains หรือ นายอีริก เซมมูร์ แห่งพรรค Reconquête ที่ต่างมีความคล้ายกันในหลาย ๆ จุด ได้แก่
    • มีนโยบายสายขวาจัด
    • เน้นสร้างภาพลักษณ์ของชาวฝรั่งเศส
    • มีภาพเป็นตัวแทนของชนชั้นปกครอง
    • ชูมาตรการที่เข้มงวดเกี่ยวกับการอพยพเข้าเมือง 
    • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเน้นการลดค่าใช้จ่ายของรัฐ
        หากนางมารีน เลอ แปน หรือ ฝ่ายขวาชนะการเลือกตั้ง จะส่งผลทำให้ตลาดหุ้นผันผวนสูง และ ค่าเงินยุโรปมีแนวโน้มอ่อนค่าลง เนื่องจากฝ่ายขวามีแนวโน้มสนับสนุนการให้ฝรั่งเศสออกจากสหภาพยุโรป และ ใช้สกุลเงินของประเทศตัวเอง ดังนั้นอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของทั้งฝรั่งเศส และ ยุโรป แต่อย่างไรก็ตามการจะออกจากสหภาพยุโรปต้องใช้เวลา เพราะมีขั้นตอนที่ต้องผ่านกระบวนการเห็นชอบจากสภา

        จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า ผลกระทบหลักที่เกิดขึ้นจากผลการเลือกตั้ง คือ การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินยูโร ดังนั้นหากมองกลับมาในเศรษฐกิจของประเทศไทยคาดว่าน่าจะมี 2 ประเภทธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ 
    • ธุรกิจนำเข้า และ ส่งออกสินค้า ซึ่งกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปที่ใช้สกุลเงินยูโรนั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มคู่ค้าสำคัญทางธุรกิจของไทย
    • ธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวยุโรป เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยหลังจากการมาของ COVID-19 แทนที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงจากนโยบายภายในประเทศ


คำแนะนำการลงทุนท่ามกลางความผันผวนรอบด้าน

        ตลาดหุ้นทั่วโลกในตอนนี้มีความผันผวนหนักจากภาวะสงครามที่เกิดขึ้น รวมไปถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของฝรั่งเศส และ นโยบายที่แตกต่างกันของทั้ง 2 ฝ่ายพรรคการเมืองนี้ ทำให้คาดการณ์ว่าสินทรัพย์เสี่ยงจะมีความผันผวนที่สูงขึ้นเช่นกัน นักลงทุนจึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคำแนะนำการลงทุนในตอนนี้ คือ
    • นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย : พักเงินในกองทุนตราสารหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวน
    • นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง : เพิ่มสัดส่วนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างระมัดระวัง โดยแนะนำเป็นกองทุนผสมหุ้น ตราสารหนี้ เพื่อลดความผันผวนของพาร์ตลงทุน

K-Expert วันวิสาข์ อรุมชูตี AFPT™
ฝ่ายพัฒนาการให้คำปรึกษาลูกค้า

กองทุนแนะนำที่เกี่ยวข้อง
กองทุนเปิดเค หุ้นกู้ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป
K-CBOND-A
กองทุนตราสารหนี้ในประเทศที่เน้นลงทุนในหุ้นกู้

อ่านรายละเอียดกองทุน
ซื้อกองทุนง่าย ๆ ผ่าน KPLUS




ทำไมต้องเค หุ้นกู้ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป
    • ความท้าทายของการลงทุนในปี 2022 ท่ามกลางแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น สร้างความท้าทายต่อการเลือกลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยความผันผวนในตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศจะสูงกว่าของในประเทศ จากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชะลอความร้อนแรงของเงินเฟ้อ

เหมาะสำหรับใคร
    • ผู้​ที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
    • ผู้ลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องในการซื้อขาย ได้รับเงินค่าขายคืนภายในวันที่ T+2
    • แนะนำควรถือครองกองทุนตั้งแต่ 9 เดือนขึ้นไป เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมาย และลดโอกาสขาดทุนในระยะสั้นๆ



กลับ