Display mode (Doesn't show in master page preview)
Turn on more accessible mode
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Turn off Animations

โลกเดือด แนะกลยุทธ์สร้างโอกาสจากวิกฤต Climate Change

โลกเดือด แนะกลยุทธ์สร้างโอกาสจากวิกฤต Climate Change

​​​        โลกได้ก้าวข้ามภาวะโลกร้อนไปสู่ “ภาวะโลกเดือด” แล้ว เป็นคำกล่าวของเลขาธิการสหประชาชาติ โดยอุณหภูมิมหาสมุทรและน้ำทะเลสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมีการประเมินว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจทำให้ GDP โลกลดลงราว 4% ภายในปี 2593 หรือคิดเป็นมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจราว 13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี สำหรับไทย ปัจจุบันกำลังเผชิญซุปเปอร์เอลนีโญหรือภัยแล้งรุนแรงที่เสี่ยงจะลากยาว 3 ปี ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ไปถึงปี 2568 และคงหนีไม่พ้นภาวะโลกเดือดเช่นกัน 

4 ธุรกิจความเสี่ยงสูง รับผลกระทบปัญหาน้ำน้อย



    • ธุรกิจเกษตร รวมถึงผู้แปรรูปผลผลิตเกษตร ในพื้นที่น้ำน้อยอย่างภาคกลางและตะวันออก รวมถึงอีสานที่กักเก็บน้ำได้ยาก เสี่ยงผลผลิตเสียหาย เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ มันสำปะหลัง อ้อย โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุ โลกร้อนฉุดผลผลิตเกษตรลดลง 25%
    • ธุรกิจผลิตอาหาร หากปริมาณน้ำใช้มีจำกัด หรืออยู่ขั้นน้อยวิกฤต อาจส่งผลกระทบสูงกับการผลิตอาหารที่มีอัตราการใช้น้ำต่อหน่วยผลิตภัณฑ์มากราว 300 ล้านลบ.ม./ปี 
    • ธุรกิจผลิตภัณฑ์อโลหะ (แก้ว ปูน เซรามิก) สิ่งทอ ใช้น้ำมากในกระบวนการผลิต หากน้ำไม่พอ อาจต้องลดกำลังการผลิต เสี่ยงเจอต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น นอกจากนี้ ต้นทุนส่งออกนำเข้าสินค้าทางเรือก็อาจเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นด้วย
    • ธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล ในพื้นที่ห่างไกลระบบชลประทาน อาจต้องลดขนาดการให้บริการ นอกจากนี้ ค้าปลีกที่พึ่งพากำลังซื้อเกษตรกร อาจมียอดขายลดลง 

2 กลุ่มธุรกิจคลาย​ร้อน และยั่งยืน แนวโน้มยอดขายโต



    • ธุรกิจอุปกรณ์ทำความเย็น/ฟอกอากาศ เครื่องดื่มดับกระหาย/สุขภาพ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ยา/เวชภัณฑ์ ที่ช่วยรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนและเปลี่ยนแปลงถี่ได้ มีโอกาสสร้างรายได้ แต่ผลิตภัณฑ์นั้นก็ต้องคุ้มค่าคุ้มราคาในสายตาผู้ซื้อ
    • ธุรกิจสินค้าและบริการรักษ์โลก ซึ่งครอบคลุมแทบทุกหมวดของการใช้ชีวิตของประชาชนและการทำธุรกิจของเจ้าของธุรกิจ เช่น พลังงานหมุนเวียน รถยนต์ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ แฟชั่นรีไซเคิล การนำเศษวัสดุเหลือทิ้ง/ขยะ/น้ำเสียกลับมาสร้างมูลค่า การปลูกป่า การวัดการปล่อยคาร์บอน (Carbon footprint) ฯลฯ 

3 สิ่งที่ธุรกิจต้​องพิจารณาก่อนตัดสินใจลงทุน



    • พฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงตลอด ตามยุคดิจิทัลที่การเข้าถึงข้อมูลไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้น ผู้ประกอบการอาจต้องติดตามแนวโน้มตลาดต่อเนื่อง เพื่อให้การปรับกลยุทธ์ของธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงจุด
    • เงินทุน จากการผลิตสินค้าและบริการรักษ์โลกในช่วงเริ่มต้น มักมีต้นทุนต่อหน่วยสูง เจ้าของธุรกิจที่ยังไม่พร้อมลงทุนเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิต อาจเริ่มที่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร/พลังงานก่อน 
    • นโยบายคู่ค้า ที่อาจเปลี่ยนไปตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นซัพพลายเออร์ให้บริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องมีการรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่การผลิต 



        แน่นอนว่า การผลิตสินค้าและบริการตอบโจทย์ภาวะโลกเดือด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าและบริการรักษ์โลกที่มีโอกาสเติบโตตามกระแสยั่งยืน ต้องมีการลงทุนหรือปรับกระบวนการผลิตใหม่ แต่ก็เป็นโอกาสในการสร้างยอดขายให้เติบโตได้นาน และถ้าไม่ทำ เจ้าของธุรกิจอาจตกขบวน เพราะตลาดผู้ซื้อกลุ่มนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงมีแนวโน้มยอมจ่ายแพงขึ้นถ้าสินค้าและบริการนั้นตรงปก (ผลสำรวจศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบผู้ซื้อยอมจ่ายสินค้าและบริการรักษ์โลกในราคาที่แพงกว่าสินค้าและบริการทั่วไป 0 - 20%)


กลับ