Display mode (Doesn't show in master page preview)
Turn on more accessible mode
Skip Ribbon Commands
Skip to main content
Turn off Animations

คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 64 อาจขยายตัว ร้อยละ 2.5 และ เศรษฐกิจโลกยังคงฟื้นตัวภายใต้ความเลี่ยง

คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 64 อาจขยายตัว ร้อยละ 2.5 และ เศรษฐกิจโลกยังคงฟื้นตัวภายใต้ความเลี่ยง

​​​​​​​จิรดา ภักดิ์วิไลเกียรติ (นักวิจัย) 

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด


        วัคซีน COVID-19 กลายเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของโลก ซึ่งในปัจจุบันการแจกจ่ายวัคซีนในต่างประเทศเริ่มมีความคืบหน้ามากขึ้น โดยได้มีการแจกจ่ายไปแล้วถึง 78 ประเทศ นอกจากนี้บริษัทอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาวัคซีน ทั้ง Novavax และ Johnson&Johnson เริ่มทดลองในมนุษย์แล้วออกมามีประสิทธิผลค่อนข้างดี หากสำเร็จจะช่วยให้กำลังการผลิตวัคซีนเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามในปัจจุบันเชื้อไวรัสได้เริ่มมีการกลายพันธุ์และมีการแพร่กระจายของสายพันธ์ใหม่มากขึ้น ส่งผลต่อการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในระยะข้างหน้า จึงต้องติดตามต่อว่าวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะสามารถป้องกันการกลายพันธุ์ของไวรัสได้หรือไม่ หรืออาจต้องใช้จำนวนโดสที่เพิ่มขึ้น

สหรัฐฯ เร่งออกนโยบาย แ​ละ กระจายวัคซีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด พร้อม ๆ กับมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ในสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ได้มีการใช้คำสั่ง Executive order ในหลากหลายด้าน รวมถึงมีแผนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่วงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น ร้อยละ 9.0 ของ GDP พร้อมทั้งการเริ่มโครงการ 100 Days Masking Challenge กระตุ้นการสวมหน้ากากอนามัยอย่างต่อเนื่อง เว้นระยะห่างเพื่อลดอัตราการติดเชื้อ 
       ล่าสุดประชากรสหรัฐฯ ได้รับวัคซีนในอัตราที่เร็วขึ้น โดยปัจจุบันมีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบ  2 โดสแล้วเป็นจำนวนร้อยละ 4.7 ของจำนวนประชากรทั้งหมด (ข้อมูลจาก Bloomberg Vaccine Tracker) โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ เริ่มปรับลดลง ขณะที่สหภาพยุโรป (European Union) มีประชากรที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วคิดเป็นร้อยละ 1.7 (ข้อมูลจาก Bloomberg Vaccine Tracker) โดยล่าสุดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเริ่มมีสัญญาณลดลง แม้จะเห็นความคืบหน้าในเรื่องของวัคซีนแล้ว แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะจนกว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ที่จะช่วยหยุดยั้งการระบาดจะสามารถเกิดขึ้นเมื่อประชากรจำนวนราวร้อยละ 40 ถึง 60 ได้รับวัคซีน 

คาดการณ์ปี 64 เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจปรับตัวขึ้นได้ถึง ร้อยละ 5.1 จากมาตรการกระตุ้น และ แผนการกระจายวัคซีน

        ในปี 64 เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นแรงจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาลทรัมป์ โดยล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ที่ร้อยละ 5.1 (จากร้อยละ 3.1) ในการประมาณการครั้งก่อน นอกจากนี้แผนการกระจายวัคซีนที่ทำให้ได้ระยะเวลารวดเร็วขึ้นจะยิ่งสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่เศรษฐกิจในยูโรโซนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.2 
        อย่างไรก็ตาม เส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้ายังมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของของ COVID-19 ที่มีการกลายพันธ์ และ แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถป้องกันได้ ซึ่งทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐและธนาคารกลางของแต่ละประเทศจึงยังคงมีความจำเป็นต่อเนื่อง

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยปี 63 ดีกว่าที่คาด และ ปี 64 คาดการณ์ขยายตัวร้อย​ละ 2.6

        ด้านเศรษฐกิจในประเทศ เศรษฐกิจไทยในปี 2563 หดตัวที่ร้อยละ 6.1 ซึ่งหดตัวน้อยกว่าที่คาด ได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นหลัก ในปี 2564 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวได้ที่ร้อยละ 2.6 (กรอบประมาณการที่ ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 4.5) โดยมีสมมติฐานว่าแผนการแจกจ่ายวัคซีนเป็นไปตามคาดการณ์ส่งผลให้สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ในไตรมาส 4 ปี 64 
        การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่จะส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยใช้เวลามากขึ้น  ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังมีความเสี่ยงที่จะปิดกิจการเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะเพิ่มความเปราะบางให้กับตลาดแรงงาน อย่างไรก็ตาม มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูของภาครัฐมีส่วนช่วยประคองภาวะการครองชีพของครัวเรือน และยังมีความจำเป็นอย่างต่อเนื่องจนกว่าวัคซีนจะเข้ามามีบทบาทให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาถึงปลายปีนี้เป็นอย่างน้อย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้​น

แม้ว่าเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง นโยบายการเงินทั่วโลกยังมีแนวโน้มผ่อนคลาย อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับเดิมตลอดทั้งปี แต่ในระยะข้างหน้าอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ไทยมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากที่อัตราผลตอบแทนของตลาดพันธบัตรในสหรัฐฯ ระยะกลางถึงยาวอาจมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และ ปริมาณพันธบัตรรัฐบาลไทยที่จะออกมาเพิ่มขึ้นเพื่อระดมทุนสำหรับมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ 
        โดยธนาคารกสิกรไทยมีมุมมองว่า ในปี 64 ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ร้อยละ 1.4 (จากร้อยละ 0.94 ในปี 63) และ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยจะอยู่ที่ร้อยละ 1.5 (จากร้อยละ 1.28 ในปี 63) ดังนั้นต้นทุนการระดมทุนในระยะกลางถึงยาวดังกล่าว หรือ ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้น การบริหารต้นทุนทางการเงินจึงเป็นอีกโจทย์สำคัญสำหรับภาคธุรกิจในปีนี้




กลับ