จากสงครามการค้าสู่สงครามค่าเงิน ทางการไทยควรเตรียมรับมือ

ECONOMIC HORIZON3 ก.ย. 62

ในวันที่ 5 ส.ค. 2562 ทางการจีนปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่ากว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์ฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี หลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติมเมื่อ 1 ส.ค. 2562 แสดงสัญญาณความพร้อมที่จะตอบโต้สงครามการค้าด้วยการลดค่าเงิน ซึ่งทางการจีนอาจใช้มาตรการลดค่าเงินเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ และ เพื่อบรรเทาผลลบที่เกิดกับเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ดี ทางการจีนน่าจะไม่ปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่ามากจนเกินไป เพราะจะส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน และ บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
หลังทางการจีนปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่า ทางการสหรัฐฯ จึงจัดให้จีนเป็นประเทศที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายบิดเบือนค่าเงิน (Currency Manipulator) เป็นการเปิดช่องให้สามารถขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนได้เพิ่มขึ้น หลังจากนี้ สหรัฐฯ และ จีนคงหยิบมาตรการต่าง ๆ ออกมาตอบโต้กันเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกอ่อนแรงลง และ มีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะข้างหน้า
ผลกระทบต่อไทย เงินบาทมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวอย่างผันผวนมากขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้าไทยจะยิ่งชะลอตัวมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะงักงันในระยะข้างหน้า ดังนั้น ทางการไทยจำเป็นต้องเร่งพิจารณามาตรการเฉพาะหน้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้ส่งออกที่เกิดขึ้นเพื่อมิให้ผลกระทบลุกลามไปถึงการจ้างงาน และ กำลังซื้อของครัวเรือน โดยเฉพาะมาตรการทางการคลัง เช่น การผ่อนปรนภาระภาษีต่าง ๆ ให้แก่ธุรกิจส่งออก ที่ยังพอมีช่องว่างให้สามารถทำได้

พิมพ์

กลับ