เส้นเลือดหัวใจตีบเกิดจากอะไร? รู้เท่าทันอาการโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก่อนสายเกินแก้ เส้นเลือดหัวใจตีบเกิดจากอะไร? รู้เท่าทันอาการโรคหลอดเลือดหัวใจตีบก่อนสายเกินแก้

หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคร้ายอันตรายถึงชีวิต

อัตราการเสียชีวิตของคนไทยจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มสูงขึ้นทุกปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มวัย ยิ่งการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันท่ามกลางปัจจัยเสี่ยง อาจทำให้เราละเลยการดูแลสุขภาพตนเอง นำมาซึ่งความเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบมากขึ้น ดังนั้นเราจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้เอาไว้ เพื่อสังเกตอาการตัวเองเบื้องต้น รวมทั้งวางแผนดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเกิดจากอะไร?

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease)

เส้นเลือดหัวใจตีบเกิดจากอะไร? อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจแคบลงหรืออุดตัน เนื่องจากมีการสะสมของคอเลสเตอรอลและสารต่าง ๆ ภายในหลอดเลือด จนเกิดคราบไขมันเกาะบริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ ทำให้ปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด เป็นผลทำให้ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและตายเฉียบพลันหรือหัวใจวาย ซึ่งอาจร้ายแรงถึงชีวิตได้

อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ เป็นยังไง? เพราะผู้ป่วยบางรายก็ไม่แสดงอาการชัดเจน เราจึงรวบรวมสัญญาเตือนที่บ่งบอกว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยหากมีอาการดังต่อไปนี้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยทันที

  1. เจ็บแน่นหน้าอกตรงกลาง บางครั้งอาจปวดร้าวลามไปถึงไหล่ซ้ายและแขนซ้าย
  2. แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก
  3. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  4. บางรายอาจมีอาการใจสั่น เหงื่อออกร่วมด้วย
  5. วูบ หมดสติ หัวใจหยุดเต้น

ผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

  • ผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้หญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วนหรือน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน
  • ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำและขาดการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ผู้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูง
  • ผู้ที่มีภาวะเครียด หรืออยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดเป็นประจำ
  • ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่บ่อย
  • ผู้ที่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

อย่างไรก็ตาม โรคหลอดเลือดหัวใจตีบไม่ได้พบเฉพาะกลุ่มชายหญิงวัยกลางคนไปจนถึงวัยทองเท่านั้น ด้วยปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายประการ ทั้งการแข่งขันสูง ความเครียด สูบบุหรี่จัดตั้งแต่อายุน้อย หรือพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้สามารถพบภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบในอายุ 30-35 ปี มากขึ้น

วิธีดูแลป้องกันไม่ให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

สามารถลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังต่อไปนี้

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารเค็มหรือหวานจัด
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
  • หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบทางการแพทย์

เส้นเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ รักษายังไง?

ใครที่สงสัยว่าเส้นเลือดหัวใจตีบ รักษายังไง? การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบทางการแพทย์นั้น สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

  1. การรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่หลอดเลือดหัวใจตีบตันบางส่วน ยังไม่จำเป็นต้องทำหัตถการ
  2. การขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนหรือบอลลูนหัวใจ (Balloon Angioplasty) และใส่ขดลวด (Stent) เข้าไป เป็นการทำหัตถการโดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่หลอดเลือดหัวใจตีบตันมาก
  3. การผ่าตัดทำบายพาสหัวใจ (Coronary Artery Bypass Grafting) เพื่อทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เลือดผ่านส่วนที่ตีบหรือตันได้ดีขึ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำบอลลูนหัวใจได้

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบมีความร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต หากปล่อยทิ้งไว้และไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ดังนั้นหมั่นสังเกตอาการตนเองและคนในครอบครัวอยู่เสมอ ถ้าพบว่ามีอาการเข้าข่ายโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางทันที นอกจากนี้ยังสามารถลดความเสี่ยงของโรคด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยงเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายและหัวใจ

ขึ้นชื่อว่าโรคร้ายแรง ย่อมมีค่ารักษาพยาบาลสูง ซึ่งค่ารักษาพยาบาลจะแตกต่างไปตามวิธีการรักษา และระดับความรุนแรงของโรค อย่างเช่นการรักษาด้วยการทำบอลลูนหัวใจ หรือการทำบายพาสหัวใจ ค่ารักษาจะเริ่มต้นตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไปเลยทีเดียว จะดีกว่าไหมหากเราเตรียมรับมือกับค่ารักษาพยาบาลโรคหลอดเลือดหัวใจตีบด้วยการทำประกันโรคร้ายแรง ตัวช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาล ให้คุณได้รับการรักษาอย่างเต็มที่เมื่อตรวจเจอ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

ประกันแบบไหนที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ

เริ่มค้นหา

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

back to top