“
• ICO (Initial Coin Offering) คือ การระดมทุนที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยเพื่อให้บริษัทที่ต้องการเงินทุนเสนอขายโทเคนให้แก่ผู้ลงทุนทั่วโลกที่สนใจลงทุนในโครงการ โดยนำคริปโทเคอร์เรนซีมาแลกกับโทเคนที่บริษัทออก
• ICO Portal คือ ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ซึ่งได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. มีหน้าที่กลั่นกรอง ICO ที่จะเสนอขายต่อผู้ลงทุนและเป็นช่องทางการเสนอขาย ICO
• ก่อนเริ่มต้นลงทุนควรเช็กเงื่อนไขหรือคุณสมบัติของผู้ลงทุน เช็กข้อมูล ICO และผู้ประกอบธุรกิจ ICO Portal ที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. ที่เว็บไซต์ www.sec.or.th/digitalasset รวมถึงศึกษาและทำความเข้าใจ Whitepaper ซึ่งเป็นเอกสารประกอบการเสนอขายให้ดีเพื่อให้เข้าใจรายละเอียดโครงการ และสิทธิที่ผู้ลงทุนจะได้รับ
“
หากใครได้ติดตามข่าวคราวในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลคงจะเคยได้ยินข่าวบริษัท Kubix ซึ่งเป็นบริษัท ICO Portal ในกลุ่ม KBTG และในเครือ KBANK เป็นธนาคารแห่งแรกในไทยที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. อย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า ICO และ ICO Portal คืออะไร หากสนใจลงทุนต้องเตรียมตัวอย่างไร ลองมาทำความรู้จัก ICO และ ICO Portal ให้มากขึ้นจากบทความนี้กัน
รู้จัก ICO / ICO Portal
กระบวนการ ICO (Initial Coin Offering) คือ การระดมทุนรูปแบบหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยเพื่อให้บริษัทที่ต้องการเงินทุนเสนอขายโทเคนให้แก่ผู้ลงทุนทั่วโลกที่สนใจลงทุนในโครงการ ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเข้าร่วมได้โดยนำคริปโทเคอร์เรนซีมาแลกกับโทเคนที่บริษัทออก ซึ่งมีการกำหนดสิทธิ เงื่อนไขหรือข้อตกลงต่างๆ ไว้ในสัญญาอัจฉริยะ (smart contract) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน
ความแตกต่างระหว่างผู้ลงทุน ICO กับผู้ถือหุ้น IPO คือ ผู้ลงทุนใน ICO จะได้รับโทเคนซึ่งมีสิทธิตามที่ระบุไว้ในเอกสารประกอบการเสนอขายเท่านั้น เช่น ได้รับส่วนแบ่งรายได้หรือกำไรจากโครงการ โดยอาจไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัท ไม่มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ หรือไม่มีสิทธิในทรัพย์สินของบริษัทเมื่อเลิกกิจการหรือล้มละลายเหมือนกับผู้ถือหุ้น IPO
ส่วน ICO Portal คือ ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล หรือเรียกว่า “ผู้กลั่นกรอง” ซึ่งได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. โดยมีหน้าที่หลัก 2 ด้านด้วยกันคือ
1. กลั่นกรอง ICO ที่จะเสนอขายต่อผู้ลงทุน เพื่อลดโอกาสเกิดการหลอกหลวง โดยจะศึกษาข้อมูลบริษัทผู้ออกโทเคนและข้อมูลการเสนอขายโทเคน คัดกรองโครงการ สอบทานแผนธุรกิจ กลั่นกรองความถูกต้องชัดเจนและครบถ้วนของข้อมูลในเอกสารประกอบการเสนอขาย ตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะว่าสอดคล้องกับ Whitepaper หรือไม่ และยังมีหน้าที่ชี้แจงต่อ ก.ล.ต. และผู้ลงทุน ในกรณีที่ผู้ออกโทเคนไม่ดำเนินการตามข้อมูลที่แสดงไว้ ใช้เงินไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการระดมทุน หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการอนุญาตหลังแบบแสดงรายการข้อมูลมีผลบังคับใช้อีกด้วย
2. เป็นช่องทางการเสนอขาย ICO โดยจะทำความรู้จักกับตัวตนของผู้ลงทุนและพิจารณาถึงความเหมาะสมในการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อย ดูแลไม่ให้ลงทุนเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และมีหน้าที่เก็บรักษาทรัพย์สินของผู้ลงทุนไว้
ขั้นตอนการเสนอขาย ICO
การเสนอขาย ICO มี 4 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่ 1. ผู้ระดมทุนจัดทำ Whitepaper เพื่อให้ ICO Portal พิจารณากลั่นกรองโทเคนที่จะเสนอขาย ทั้งในเรื่องของคุณสมบัติหรือโครงการของผู้ออก ลักษณะและประเภทของโทเคนที่จะเสนอขาย เพื่อให้สอดคล้องตรงกับสัญญาอัจฉริยะ
2. ผู้ระดมทุนยื่นขออนุญาตเสนอขายและเปิดเผยข้อมูลต่อ ก.ล.ต. โดยมีข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้ออกโทเคน รายละเอียดแผนธุรกิจ สิทธิในโทเคนเพื่อการลงทุน และข้อมูลการเสนอขาย
3. ก.ล.ต.พิจารณาคุณสมบัติ งบการเงิน ระบบงานในการดำเนินธุรกิจ และการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ
4. ผู้ลงทุนซื้อโทเคนผ่าน ICO Portal ได้เมื่อ ก.ล.ต. อนุญาตให้เสนอขาย
ขอยกตัวอย่างการระดมทุนผ่าน ICO ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคือ กรณีของโรงแรม The St. Regis Aspen Resort ในรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ที่สามารถระดมทุนโดยการออกโทเคน Aspen Coin ซึ่งอ้างอิงจากทรัพย์สินของรีสอร์ทได้สำเร็จ รวมมูลค่ากว่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผู้ถือโทเคนจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากกิจการของรีสอร์ท รวมถึงส่วนลดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการเข้าพักนั่นเอง
คุณสมบัติของผู้ลงทุน ICO
ผู้ที่สามารถลงทุนใน ICO ได้มี 4 ประเภท ได้แก่ 1. ผู้ลงทุนสถาบัน เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิต กองทุนรวม
2. ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ เช่น บุคคลธรรมดาที่มีสินทรัพย์สุทธิตั้งแต่ 70 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์ตั้งแต่ 25 ล้านบาทขึ้นไป
3. นิติบุคคลร่วมลงทุนหรือกิจการเงินร่วมทุน
4. ผู้ลงทุนอื่นๆ เช่น ผู้ลงทุนรายย่อยซึ่งสามารถลงทุนได้รายละไม่เกิน 300,000 บาทต่อโครงการ
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนลงทุน
หากใครสนใจอยากเริ่มต้นลงทุนใน ICO สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนลงทุน ได้แก่ - เช็กเงื่อนไขหรือคุณสมบัติของผู้ลงทุนก่อนว่าเราสามารถลงทุน ICO ได้หรือไม่ และลงทุนได้ไม่เกินเท่าไหร่ต่อโครงการ
- เช็กข้อมูล ICO และผู้ประกอบธุรกิจ ICO Portal ที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. ได้ที่เว็บไซต์ www.sec.or.th/digitalasset เพื่อความมั่นใจ
- ศึกษาและทำความเข้าใจ Whitepaper ซึ่งเป็นเอกสารประกอบการเสนอขายให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้เข้าใจรายละเอียดโครงการ และสิทธิต่างๆ ที่ผู้ลงทุนจะได้รับ
แม้ ICO จะเป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุนของบริษัทที่ต้องการเงินทุนและเป็นโอกาสใหม่ในการลงทุนของนักลงทุน ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงหากโครงการประสบความสำเร็จ แต่ควรลงทุนอย่างเข้าใจและระมัดระวัง อาจเริ่มต้นจากเงินลงทุนจำนวนน้อยก่อน ค่อยๆ เรียนรู้และศึกษากันไป เพราะผลตอบแทนที่สูงย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงมากด้วยเช่นกัน ทั้งความ ผันผวนด้านราคา อัตราแลกเปลี่ยน สภาพคล่องที่ต่ำ การซื้อขายเปลี่ยนมือจึงทำได้ยาก และไม่รับประกันความสำเร็จหรือผลตอบแทนใดๆ ผู้ลงทุนจึงต้องรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและรับโอกาสขาดทุนได้ด้วยนั่นเอง
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ก.ล.ต., Longtunman, Money Buffalo, กรุงเทพธุรกิจ