K WEALTH /
บทความ /
Product Review / ยุโรปเริ่มฟื้น พร้อมเข้าลงทุนหรือยัง
25 พฤศจิกายน 2564
3 นาที
ยุโรปเริ่มฟื้น พร้อมเข้าลงทุนหรือยัง
“
• ก่อนหน้านี้นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนในจีน สหรัฐอเมริกา และเวียดนามเนื่องจากเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยุโรปเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยยังอัดฉีดเม็ดเงินอยู่ และหุ้นยุโรปยังปรับตัวขึ้นได้ช้ากว่าหุ้นสหรัฐทำให้ดูน่าสนใจในเชิงราคา
• ทางเลือกของกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นยุโรปของ บลจ. กสิกรไทยมีกองทุน K-EUROPE, K-EUX และ K-EUSMALL ทั้งนี้ควรเลือกกองทุนตามวัตถุประสงค์การลงทุนและการตัดสินใจของตนเองเป็นหลัก และอย่าลืมที่จะติดตามสถาการณ์ข่าวสารต่างๆ รอบโลกอย่างใกล้ชิด
“
ในปีที่ผ่านมาผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศดีกว่าหุ้นไทย ประเทศที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน จะมีจีน สหรัฐอเมริกา หรือเวียดนามเป็นหลักเห็นได้จากสัดส่วนการเปิดพอร์ตการลงทุนหรือมุมมองที่เป็นบวกต่อหุ้นเทคโนโลยีและการควบคุมสถานการณ์โควิดภายในประเทศ จีนและสหรัฐอเมริกาดูจะได้เปรียบมากกว่าทำให้นักลงทุนของไทยส่วนใหญ่ให้ความสนใจ แต่ปัจจุบันประเทศต่างๆในยุโรปเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และยังคงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าในระบบเศรษฐกิจ (PEPP) ในขณะที่ธนาคารกลางของสหรัฐ เริ่มทยอยลดวงเงิน QE ลงเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจนหมดในช่วงกลางปี 2565 นอกจากนี้หุ้นยุโรปยังปรับตัวขึ้นได้ช้ากว่าหุ้นสหรัฐ (Laggard) และมีดัชนี PMI ที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของภาคผลิตและบริการ และยุโรปเองมีการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 อยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสูงถึงแม้จะมีการระบาดระลอกใหม่ ก็ยังคุมเข้มเรื่องมาตรการป้องกันต่างๆได้ดี แต่ก็อาจจะมีคนบางกลุ่มที่ไม่พอใจในมาตรการนี้จนออกมาประท้วงบ้าง ดังนั้นจึงมองได้ว่าหุ้นยุโรปยังน่าสนใจในช่วงระยะสั้นนี้
เกาะกระแสการลงทุน เพื่อตอบรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรป
จากข้อมูลจะเห็นแนวโน้มหุ้นในยุโรปที่มีความน่าสนใจมากขึ้น นักลงทุนหลายๆ ท่านคงกำลังมองหาว่าจะลงทุนในกองทุนไหนดี เพราะกองทุนของไทยที่ลงทุนในยุโรปเองก็มีมากมายหลากหลายกองทุน หรือมีปัจจัยไหนบ้างที่จะทำให้สามารถเลือกกองทุนให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการลงทุน ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ตลาดเป็นยังไง สไตล์การลงทุนของกองทุนหลักเป็นแบบไหน เป็นต้น เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจ บลจ. กสิกรไทยมี 3 ทางเลือกที่เน้นลงทุนในหุ้นยุโรป โดยสามารถดูตามตารางเปรียบเทียบด้านล่างเพื่อเลือกกองทุนได้ตรงความต้องการ
| กองทุน K-EUROPE
| กองทุน K-EUX
| กองทุน K-EUSMALL
|
สไตล์
| Active
| Passive
| Active
|
ระดับความเสี่ยงของกองทุน
| 6
| 6
| 6
|
เหมาะกับใคร
| นักลงทุนที่เห็นศักยภาพการเติบโตของหุ้นยุโรปและสามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นได้
| นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นยุโรปและยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้สูง
| นักลงทุนที่เชื่อมั่นในการเติบโตของหุ้นบริษัทขนาดเล็กในยุโรปและสามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นได้
|
นโยบายการจ่ายเงินปันผล
| มี
| ไม่มี
| ไม่มี
|
กองทุนหลัก
|
Fund Funds:
| Fund Funds:
| Fund Funds:
|
| Allianz Europe Equity Growth, Class AT-EUR
| iShares EURO STOXX 50 UCITS ETF (DE)
| Invesco Continental European Small Cap Equity Fund, C-Acc Shares(EUR)
|
รายละเอียดเพิ่มเติมของกองทุนหลัก
| เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปไม่ต่ำกว่า 75% โดยลงทุนในหุ้นกลุ่มที่คาดว่ามีอัตราการเจริญเติบโตสูง
| เป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น XETRA ซึ่งมีนโยบายให้ผลตอบแทนการลงทุนตามดัชนีหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพท์ตามราคาตลาดมากที่สุด 50 ตัวแรกในกลุ่มประเทศ Eurozone หรือดัชนี EURO STOXX 50
| เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดเล็กในตลาดยุโรป (รวมใบแสดงสำคัญสิทธิ และหลักทรัพย์แปลงสภาพโดยต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ)
|
สัดส่วนการลงทุนแยกรายประเทศของกองทุนหลัก
| 1) GERMANY 19.40%
2) DENMARK 18.00% 3) SWITZERLAND 13.60% 4) SWEDEN 13.50% 5) NETHERLANDS 11.10%
| 1) FRANCE 34.67%
2) GERMANY 27.79% 3) NETHERLANDS 17.51% 4) SPAIN 5.89% 5) ITALY 5.28%
| 1) FRANCE 16.80%
2) NETHERLANDS 16.60% 3) GERMANY 13.00% 4) ITALY 12.80% 5) SWITZERLAND 9.80%
|
ดัชนีชี้วัดกองทุน (Benchmark)
| S&P Europe LargeMidCap Growth Net Total Return
| EURO STOXX 50
| EMIX Smaller Europe ex
UK-NR
|
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี
| 30.79 % (ต่อปี)
| 29.83 % (ต่อปี)
| 48.41 % (ต่อปี)
|
Front End Fee*
Back-End Fee*
| 1.50 %
ยกเว้น
| ยกเว้น
0.15 %
| 1.50 %
ยกเว้น
|
หมายเหตุ : ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 จาก Fund Fact Sheet
นักลงทุนที่เน้นกองทุนหุ้นยุโรปของ บลจ.กสิกรไทย สามารถเลือกกองทุนได้ตามตารางเปรียบเทียบซึ่งได้บอกรายละเอียดคร่าวๆไว้ และหากนักลงทุนสนใจลงทุนในกองทุนเพราะระยะสั้นก็ดูน่าสนใจ ควรติดตามสถานการณ์ข่าวสารต่างๆอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ ประกาศต่างๆจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพราะอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจของยุโรปที่กำลังฟื้นตัวอาจสะดุดลง หรือในระยะยาวก็สามารถถือครองหน่วยลงทุนไว้ได้จากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นพื้นฐานที่กองทุนหลักไปลงทุน หรือตัวเลขประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก : KAsset, KSecurities
บทความโดย K WEALTH GURU พธพร รัตนสิโรจน์กุล