K WEALTH / บทความ / Product Review / ทำความรู้จักกับตราสารหนี้ ก่อนเก็บเข้าพอร์ต
20 มีนาคม 2567
2 นาที

ทำความรู้จักกับตราสารหนี้ ก่อนเก็บเข้าพอร์ต


​​​​​​​​​​​​​​“

• เงินเฟ้อที่ชะลอตัว คาดหนุน Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง แนะนำทยอยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวเพื่อรับอัตราผลตอบแทนที่อยู่ระดับสูงในรอบ 10 ปี


• แนะนำให้มีการกระจายการลงทุนทั้งตราสารหนี้ที่มีอายุระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของการลงทุน




K WEALTH มองดอกเบี้ยในปีนี้เป็นขาลง จากทิศทางเงินเฟ้อทั่วโลกชะลอตัว ขณะที่ธนาคารกลางหลักประเทศต่างๆเริ่มส่งสัญญาณที่จะลดดอกเบี้ยลง ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นต่างรับข่าวปรับตัวขึ้นมาทำ New high อยู่ในระดับที่แพงในหลายตลาด เช่น สหรัฐฯ และ ญี่ปุ่น ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน จึงมีความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นจะถูกขายทำกำไร หากสถานการณ์เงินเฟ้อกลับมาเร่งตัวขึ้นในภายหลัง



เงินเฟ้อเดือน ก.พ. ที่ออกมาสูงกว่าคาดกดดันตลาดหุ้น ส่วนตราสารหนี้มีความผันผวนน้อยกว่า

​ล่าสุดวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 1.6% เทียบรายปี ในเดือน ก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ม.ค. ออกมาขยายตัว +3.1% เทียบรายปี มากกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน ซึ่งทั้งสองตัวสะท้อนทิศทางเงินเฟ้อที่อาจชะลอลงช้ากว่าที่ตลาดคาด ส่งผลต่อการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ว่าอาจเลื่อนออกไปอีก ทำให้มีแรงเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงออกมา โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อทิศทางดอกเบี้ย เช่น กลุ่ม Technology และ Communication Services ร่วงกว่า -2% หลังตัวเลขเงินเฟ้อ (PPI) ออกมาได้เพียง 2 วัน


อีกทั้งปัจจุบันการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นต่อจากนี้ยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ ในทางกลับกัน Fed อาจมีท่าทีที่ Hawkish ขึ้น ตามตัวเลขเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

ส่วน Bond yield ปรับตัวขึ้นแตะ 4.3% สะท้อนตลาดรับข่าวว่า Fed จะลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาดไปแล้ว มองว่ายังมีโอกาสปรับขึ้นอีกนิดหน่อย ส่งผลให้ราคาตราสารหนี้ยังมีความผันผวนอยู่บ้าง เช่น K-GB ปรับลงเพียง -0.17%,K-FIXEDPLUS ปรับลง -0.08% หากเทียบกับการปรับตัวลงของตลาดหุ้นจะเห็นได้ชัดว่ามีความผันผวนน้อยกว่ามาก


นั่นเพราะว่าตราสารหนี้มีจุดเด่นตรงที่จัดว่าเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ มีนโยบายการลงทุนที่ปลอดภัยกว่า ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เฉลี่ยที่ 2-5% สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไปที่ให้ดอกเบี้ยประมาณ 0.25 - 0.5% จึงเป็นสาเหตุที่เราควรมีการลงทุนในตราสารหนี้ติดไว้ในพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยงหรือหลบภัยจากสภาวะตลาดการเงินที่ผันผวนจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ

ตราสารหนี้มีให้เลือกตั้งมากมายทั้งระยะสั้น กลาง ยาว แล้วจะเลือกลงทุนแบบใดดีล่ะ?​​

คาด Fed จะปรับลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง แนะเก็บตราสารหนี้ระยะยาวรับอัตราผลตอบแทนที่อยู่ระดับสูงในรอบ 10 ปี

​Bond yield ปัจจุบันอยู่ระดับ 4.3% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงในรอบ 10 ปี อาจปรับเพิ่่มขึ้นอีกเล็กน้อยแต่คาดว่าอยู่ในกรอบ 4.5% ในระยะสั้้น จากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มีแผนเตรียมออกพันธบัตรระยะยาวเพิ่่มขึ้้นและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด


แม้ Fed จะไม่รีบลดดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แต่คาดว่าความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและผลกระทบจากดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงทำให้คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯอาจถูกปรับลงเพิ่มเติม เป็นปัจจัยหนุนให้ Fed ปรับลดดอกเบี้ยในครึ่งปีหลัง


การทยอยลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวช่วงนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมเพื่อรับประโยชน์จากระดับ Bond yield ที่สูงและแนวโน้มดอกเบี้ยที่อาจปรับตัวลงซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นจะได้ประโยชน์จากมูลค่าราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวขึ้นด้วย และในช่วงที่ผ่านมามีเม็ดเงินลงทุนเข้าตลาดตราสารหนี้โลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่าง กองทุน K-GB-A(D) มีการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวที่มีคุณภาพดีทั่วโลก (Investment grade) ซึ่งได้อานิสงส์จากการส่งสัญญาณหยุดขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ผลตอบแทนกองทุนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น 5.62% สูงกว่าดัชนีชี้วัด และมีความผันผวนน้อยกว่ากองทุนตราสารหนี้ประเภทเดียวกัน




​(ข้อมูล KAsset ณ วันที่ 31 ม.ค. 67)


อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตราสารหนี้ควรกระจายการลงทุนทั้งตราสารหนี้ที่มีอายุระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของการลงทุน


• ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SF,K-SFPLUS ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 1.78% ต่อปี สูงกว่าเงินฝาก มีสภาพคล่องสูง ความผันผวนต่ำมาก สามารถใช้เป็นเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินหรือเหมาะแก่การพักเงินเพื่อรอลงทุนกองทุนแนะนำอื่นที่สนใจเข้าลงทุน 


• ลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง เช่น K-FIXED , K-FIXEDPLUS ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 2.16% ต่อปี สูงกว่าการลงทุนใน กองทุน Term Fund เหมาะแก่การลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงและยังเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งยังมีสภาพคล่องสูง หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินก็สามารถขายคืนก่อนได้


• ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว เช่น K-GB , K-GDBOND ผลตอบแทนกองทุนในช่วง 3 เดือน อยู่ประมาณ 5-6% (ขณะที่ผลตอบแทน 1 ปี อยู่ที่ -0.5% จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีที่ผ่านมา) เพื่อรับประโยชน์จากผลตอบแทนที่สูงขึ้น อีกทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงจะยังได้รับผลตอบแทนจาก capital gain ที่เพิ่มอีกด้วย


​ทั้งนี้ กองทุนรวมตราสารหนี้ที่บริหารโดย บลจ.กสิกรไทย ได้รับการยอมรับว่ามีการบริหารงานที่ยอดเยี่ยม ล่าสุดได้รับรางวัล Most Prominent Fund House in Bond Market จากงาน ThaiBMA Best Bond Awards 2023 จัดโดยสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ครองแชมป์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ตอกย้ำในประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการลงทุนได้เป็นอย่างดี



คำเตือน : ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน


​ ​​
บทความโดย K WEALTH Trainer กานต์พิชชา แดงพิบูลย์สกุล
KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ