K WEALTH /
บทความ /
Product Review / ทำไม K-HIT คือตัวเลือก เมื่ออยากลงทุนตามเทรนด์
20 กันยายน 2566
2 นาที
ทำไม K-HIT คือตัวเลือก เมื่ออยากลงทุนตามเทรนด์
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับสูง ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต อย่างไรก็ตาม การลงทุนก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจจะชะลอตัวลง นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
• กระจายความเสี่ยง
การลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทจะช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
• ลงทุนในระยะยาว
การลงทุนในระยะยาวจะช่วยลดความผันผวนของผลตอบแทน ตัวอย่างเช่น หากนักลงทุนลงทุนในหุ้นเป็นเวลา 10 ปี ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 6-10% ต่อปี ในขณะที่ ผลตอบแทนในระยะสั้นอาจมีความผันผวนสูง
• เลือกลงทุนในธุรกิจที่แข็งแกร่ง
นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความสามารถในการแข่งขัน การเติบโตของรายได้ ฐานะทางการเงินของธุรกิจที่สนใจลงทุน
• ปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
นักลงทุนควรปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนและสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสลงทุนท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อาจจะชะลอตัวลง ธีมเมกะเทรนด์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงและสามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานของผู้บริโภค เช่น แนวโน้มประชากรโลกที่มีอายุยืนยาวขึ้น ความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน บทบาทของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน รวมถึงเทคโนโลยีสุขภาพและการแพทย์ จึงมีความสำคัญเพิ่มขึ้น
กองทุน K-HIT ลงทุนตามเทรนด์โลก ตอบโจทย์นักลงทุนระยะยาว
กองทุน K-HIT ลงทุนในกองทุน Allianz Global Investors Fund – Allianz Thematica Share Class P (EUR) มีนโยบายลงทุนตาม Megatrends ที่เป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงโลกในหลายด้าน และสามารถสร้างผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในระยะเวลา 20-100 ปีข้างหน้า โดยมีธีมการลงทุนทั้งหมด 7 ธีม ได้แก่
1. ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
2. ธุรกิจพลังงานยุคใหม่ (Next Generation Energy)
3. ธุรกิจจัดการน้ำและดูแลผืนแผ่นดิน (Clean Water & Land)
4. ธุรกิจชีวิตในยุคดิจิทัล (Digital Life)
5. ธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (Health Tech)
6. เครื่องจักรอัจฉริยะ (Intelligent Machines)
7. ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (Pet Economy)
จากกลยุทธ์การลงทุนในธีมที่หลากหลายที่ช่วยกระจายความเสี่ยง ลดความผันผวนของพอร์ต และ มีการทบทวนพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มธีมใหม่ที่มีศักยภาพและน่าสนใจ (Dynamic Allocation) ส่งผลให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ติดอันดับ 5 ดาว Morningstar โดยมีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 9.87% ต่อปี และผลตอบแทนนับตั้งแต่จัดตั้งกองที่ 11.12% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กันยายน 2566) สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหากองทุนรวมตราสารทุนเพื่อลงทุนในระยะยาว กองทุน K-HIT จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
บทความโดย K WEALTH Trainer วรสุดา ใช้เทียมวงศ์