แวะพักเงินที่ไหนดี ระหว่างรอจัดตั้งรัฐบาล

พักเงินในตราสารหนี้คุณภาพดี ช่วยเพิ่มผลตอบแทนระหว่างรอจัดตั้งรัฐบาล

• บลจ. กสิกรไทย คาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะทำให้ทิศทางนโยบายมีความชัดเจนมากขึ้นซึ่งจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้น ส่วนตราสารหนี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว จากการที่เงินเฟ้อเริ่มปรับตัวลดลงและโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ตราสารหนี้มีความน่าสนใจมากขึ้น


• แวะพักเงินเพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนในหุ้นไทย ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก e-Savings ตราสารหนี้คุณภาพดีอย่างกองทุน K-MONEY, K-PLAN1, K-FIXEDPLUS-A รวมถึงทยอยลงทุนกองทุนผสมอย่าง K-PLAN2, K-PLAN3 เพื่อเพิ่มผลตอบแทนระหว่างรอจัดตั้งรัฐบาล




ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองยังมีความไม่แน่นอน หลายคนกำลังรอจัดตั้งรัฐบาลเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และช่วยเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สำหรับนักลงทุนที่มีเงินก้อนช่วงนี้ควรแวะพักเงินไว้ที่ไหนก่อนดี ระหว่างรอจัดตั้งรัฐบาล บทความนี้มีคำตอบ



สถานการณ์การลงทุนปัจจุบัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยสนับสนุนในระยะสั้นจากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่อาจมีผลกระทบต่อตลาดทุนและกำไรของบริษัทจดทะเบียน โดยคาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะทำให้ทิศทางนโยบายมีความชัดเจนมากขึ้นซึ่งจะเป็นผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นได้ โดยยังมีมุมมองว่า SET Index จะปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1,650 จุดได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่จะฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยว


ในส่วนของตราสารหนี้ จากสถานการณ์ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นนั้น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย มองว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว จากการที่เงินเฟ้อเริ่มปรับตัวลดลง ประกอบกับโอกาสในการเกิดเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะส่งผลดีต่อตราสารหนี้ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยให้มีความน่าสนใจมากขึ้น



ทางเลือกพักเงินของคนมีเงินก้อน


จากมุมมองของหุ้นไทยและตราสารหนี้ ในระหว่างรอจัดตั้งรัฐบาลที่ตลาดมีความผันผวนสูง คนที่มีเงินก้อนช่วงนี้มีทางเลือกในการพักเงินหรือลงทุนตามสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นดังนี้


1. รอผลโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ค. นี้ แล้วค่อยเข้าลงทุนช่วงปลายเดือน ก.ค.


แนะนำพักเงินไว้ในบัญชีเงินฝาก e-Savings ได้ดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการพักเงินไว้ในเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปที่ได้ดอกเบี้ย 0.30% ต่อปี ถึง 5 เท่า หรือจะพักไว้ในตราสารหนี้ระยะสั้น อย่างกองทุน K-MONEY ที่เหมาะกับการพักเงิน 2-4 สัปดาห์ ซึ่งมีสภาพคล่องสูง การขายคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนสามารถทำได้ในเวลาสั้นๆ โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ของกองทุน K-MONEY ณ วันที่ 7 ก.ค. 66 อยู่ที่ 0.61% ต่อปี


2. รอนโยบายของรัฐบาลใหม่ แล้วค่อยเข้าลงทุน


แนะนำพักเงินไว้ในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว โดยเน้นกลุ่มพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้คุณภาพดี เช่น กองทุน K-PLAN1, K-FIXEDPLUS-A เนื่องจากดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งจะช่วยล็อกผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

ทั้งนี้ กองทุน K-MONEY, K-PLAN1 และ K-FIXEDPLUS-A มีผลการดำเนินงานดังนี้




3. รอการเมืองให้นิ่งก่อน ดูว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นหรือไม่ แล้วค่อยเข้าลงทุนช่วงไตรมาส 1 ของปี 67


แนะนำลงทุนในกองทุนผสม เช่น กองทุน K-PLAN2, K-PLAN3 ซึ่งมีผู้จัดการกองทุนคอยปรับสัดส่วนการลงทุนให้และยังช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความไม่แน่นอนสูง โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี ณ วันที่ 7 ก.ค. 66 อยู่ที่ 2.39% ต่อปี และ 3.38% ต่อปี ตามลำดับ

สำหรับการลงทุนในกองทุนผสมควรทยอยลงทุน 4-5 ครั้ง เช่น ตั้งใจจะลงทุนกองทุนผสม 200,000 บาท ให้ทยอยลงทุน 4-5 ครั้ง ครั้งละ 40,000-50,000 บาท เนื่องจากอยู่ในช่วงจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวน และคาดเดาทิศทางได้ยาก


หากนักลงทุนเห็นด้วยหรือชอบทางเลือกพักเงินข้อไหนมากที่สุดจะทุ่มพักเงินในข้อนั้นไปทั้ง 100% ของเงินลงทุนเลยก็ได้ แต่ถ้ายังเลือกไม่ถูกว่าจะพักเงินไว้ที่ไหนดี แนะนำให้แบ่งเงินออกเป็น 4 ส่วน ตามสูตร 5:2:2:1 โดยชอบทางเลือกพักเงินข้อไหนก็ให้น้ำหนักกับข้อนั้นมากหน่อย เช่น ชอบข้อ 2 พักเงินไว้ในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาวมากที่สุด ก็เลือกพักเงินในข้อ 2 สัก 50% ของเงินลงทุน ส่วนที่เหลืออีก 50% ของเงินลงทุนก็แบ่งลดหลั่นกันลงมาเป็น 20%, 20% และ 10% ตามลำดับ ลองทำตามสูตรนี้ดูก็ได้


ส่วนที่ 1 จำนวน 50% ของเงินลงทุน ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว เช่น กองทุน K-PLAN1, K-FIXEDPLUS-A เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับเงินลงทุน


ส่วนที่ 2 จำนวน 20% ของเงินลงทุน ลงทุนในกองทุนผสม เช่น กองทุน K-PLAN2, K-PLAN3 เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้สูงขึ้น


ส่วนที่ 3 จำนวน 20% ของเงินลงทุน ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น กองทุน K-MONEY เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับเงินลงทุน


ส่วนที่ 4 จำนวน 10% ของเงินลงทุน พักไว้ในบัญชีเงินฝาก e-Savings เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและได้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป โดยให้กันเงินส่วนนี้ไว้สูงสุดเท่าที่ธนาคารกำหนดรับฝากหากทำได้ เพื่อให้ได้รับดอกเบี้ยสูงเต็มจำนวน


ในระหว่างที่รอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล และรอจังหวะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง นักลงทุนยังมีทางเลือกอีกมากมายในการพักเงินที่นอกเหนือจากการถือเงินสดหรือฝากเงินไว้ในเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นนั่นเอง


Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”


ขอขอบคุณข้อมูลจาก :

• บลจ.กสิกรไทย และ Morningstar

คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH Trainer สุวิมล ยิ่งเจริญรุ่งโรจน์ CFP®
Back to top