ลงทุนอะไรดี เมื่อตลาดหุ้นไทยยังไม่ขยับ

ในจังหวะที่การเมืองไทยยังไม่มีความชัเจน แต่เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว นักลงทุนที่อยากหลบความผันผวน ตราสารหนี้ไทยจึงดูน่าสนใจ ในชภาวะที่หลายคนมีคำถามว่าช่วงนี้ควรลงทุนอะไรดี


ผ่านมาแล้วครึ่งทางสำหรับปี 2023 สภาพเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวจากอานิสงส์ภาคท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามทิศทางตลาดหุ้นไทยยังผันผวนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและข่าวเชิงลบของบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็กและกลาง แต่ช่วงเวลาเดียวกันนี้ยังมีอีกสินทรัพย์ซึ่งเป็นทางเลือกให้นักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความผันผวนจากตลาดหุ้นไทย นั่นคือ ตราสารหนี้ไทย


เงินเฟ้อชะลอตัว คาดดอกเบี้ยไทยไม่ขึ้นเยอะ หลังแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี


เพื่อหยุดยั้งความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้อส่งให้ ธปท. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องจนแตะระดับ 2% นับว่าสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทน (Yield) พันธบัตรไทย อายุ 2 ปี และ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 2.14% และ 2.51% (As of 24/06/2566) โดยครั้งสุดท้ายที่อยู่ระดับนี้ต้องย้อนไปถึงปี 2562

อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อของประเทศไทยลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เข้าปี 2566 จนเข้าสู่กรอบเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 2-4% โดยเดือน พ.ค. 2566 อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ประเทศไทย อยู่ที่ 0.53% (YoY) ทำให้ ธปท. ไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้อ


ตราสารหนี้ไทยน่าสนใจ หลังการขึ้นดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดสูงสุด

มองไปข้างหน้าโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อไทยจะปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงเหมือนปีก่อนเป็นไปได้น้อยมาก ด้วยผลของระดับราคาสินค้าที่สูงไปแล้วและราคาน้ำมันดิบที่ลดลง จึงอาจสรุปได้ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบนี้ใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งนักลงทุนในตลาดต่างรับรู้ข่าวดังกล่าวแล้วเช่นกัน

สภาพแวดล้อมเช่นนี้มักเป็นผลดีต่อสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ อีกทั้งตลาดตราสารหนี้ไทยมักได้รับผลกระทบจากความผันผวนในตลาดโลกน้อยแล้วด้วยยิ่งทำให้การลงทุนใน “ตราสารหนี้ไทย” มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนยิ่งขึ้น


กองทุน K-FIXEDPLUS-A คว้าโอกาสลงทุนตราสารหนี้ไทยคุณภาพดี

กองทุน K-FIXEDPLUS-A จาก KAsset เน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี กองทุนเปิดกว้างนโยบายให้สามารถกระจายการลงทุนในต่างประเทศ ปัจจุบันจาก Factsheet เดือน พ.ค. 66 กองทุนเน้นการลงทุนตราสารหนี้ Investment grade ในประเทศถึง 94% และมี 2% ลงทุนในเงินฝากประเทศกาตาร์เพื่อเพิ่มผลตอบแทน โดยมี Yield to Maturity ที่ 2.79% และ Duration ที่ 2 ปี 10.68 เดือน

การลงทุนในตราสารหนี้มีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้น เช่น เมื่อปีก่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงประมาณ 20% ด้วยผลจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ปีนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง นอกจากนี้ในช่วงภาวะดอกเบี้ยใกล้แตะจุดสูงสุด กองทุนจะได้ประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวขึ้น (Capital gain) ซึ่งจะทำให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและสั้น

ดังนั้นกองทุน K-FIXEDPLUS-A จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการหาทางเลือกการลงทุนนอกเหนือจากตลาดหุ้นไทยที่ไม่ขยับไปไหน พร้อมรับผลดีจากดอกเบี้ยที่ใกล้จุดสูงสุดของวัฏจักร



คำเตือน


ผู้เขียน

K WEALTH Trainer วีรพล บางแวก
Back to top