K WEALTH / บทความ / Market Update / ประเด็นร้อน: หุ้นเทคจีนเริ่มสดใส จากกำไรที่ฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นภาครัฐ
30 มีนาคม 2566
2 นาที

ประเด็นร้อน: หุ้นเทคจีนเริ่มสดใส จากกำไรที่ฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นภาครัฐ


​​​

"


• ด้านหุ้นเทคโนโลยีในจีนเริ่มเห็นสัญญาณที่เริ่มดีขึ้นในหลายมุม ล่าสุด Alibaba ออกมาประกาศกลยุทธ์ปรับโครงสร้างของบริษัทโดยจะแยกออกเป็น 6 บริษัทย่อย ที่มีทีมผู้บริหารของตัวเองซึ่งจะทำให้การบริหารทางด้านการเงินและการขยายธุรกิจทำได้ง่ายขึ้นรวมถึงสามารถนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต


• ​เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2566 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.75%


"​





หุ้นเทคโนโลยีจีน เริ่มเห็นสัญญาณดี


หุ้นเทคโนโลยีในจีนที่เคยโดนกดดันจากหลายปัจจัยมาเป็นเวลากว่า 2 ปี ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาควบคุมจากภาครัฐ นโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่กดดันภาคการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการที่สหรัฐฯ ตรวจสอบและจะถอดหุ้นเทคโนโลยีจีนออกจากตลาด แต่ในช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณที่เริ่มดีขึ้นในหลายมุม

เริ่มจากมีภาพแจ็ค หม่าผู้ก่อตั้ง Alibaba บริษัท E-commerce กลับไปประเทศจีนอีกครั้งหลัง สัปดาห์ต่อมา Alibaba ออกมาประกาศกลยุทธ์ปรับโครงสร้างของบริษัทโดยจะแยกออกเป็น 6 บริษัทย่อย ที่มีทีมผู้บริหารของตัวเองซึ่งจะทำให้การบริหารทางด้านการเงินและการขยายธุรกิจทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต

การปรับโครงสร้างในครั้งนี้มีโอกาสทำให้การเติบโตของกำไรมีแนวโน้มสดใสขึ้นในอนาคต รวมถึงสะท้อนให้เห็นว่าทางการจีนเริ่มผ่อนคลายการควบคุมการทำธุรกิจของบริษัทเทคโนโลยีในจีนและมีความเป็นไปได้ว่าจะใช้บริษัทเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการทำให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังจากผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์

ในแง่ของผลการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีในจีนก็เริ่มกลับมาสดใส โดยได้อานิสงส์จากการผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์รวมถึงนโยบายทางการเงินและการคลังของจีนที่ยังผ่อนคลาย เริ่มที่ Tencent บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ รายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 4 ออกมาที่ 144,950 ล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อย ซึ่งกลุ่มธุรกิจโฆษณาปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนกลับมาเติบโต 15% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการเติบโตครั้งแรกตั้งแต่ช่วงกลางปี 2021 ต่อด้วยบริษัท Meituan ผู้ให้บริการ super app ชั้นนำในจีน รายงานรายได้ออกมาที่ 60,130 ล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 57,880 ล้านหยวน โดย CEO ของ Meituan ได้ออกมากล่าวถึงแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทที่จะสดใสขึ้นในปีนี้จากการที่ภาคท่องเที่ยวและบริการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่จึงเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ดีสำหรับการลงทุนกองทุนหุ้นจีน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี



กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มองเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่อง 


ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2566 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.75% โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและบริโภคภาคเอกชน ส่วนการส่งออกมีสัญญาณฟื้นตัวจากที่หดตัวในช่วงก่อนหน้า โดยคาดว่าจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี

ด้านสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน จากแนวโน้มเงินเฟ้อและปัญหาสถาบันการเงินในประเทศเศรษฐกิจหลัก สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) มีแนวโน้มเริ่มกลับสู่กรอบเป้าหมายในช่วงกลางปีนี้ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมการเปลี่ยนแปลงราคาอาหารและพลังงาน (Core CPI) ยังทรงตัวในระดับสูงและมีความเสี่ยงสูงจากการส่งผ่านต้นทุนและแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัวที่ 3.6% ส่วนปี 2567 จะขยายตัว 3.8% จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบทุกสัญชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ปี 2566 คาดไว้ที่ 2.9% ส่วนปี 2567 คาดไว้ที่ 2.4% ตามแรงกดดันจากค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันที่คลี่คลาย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ปี 2566 คาดไว้ที่ 2.4% และปี 2567 คาดไว้ที่ 2.0%


ตลาดตอบรับผลประชุม กนง.


ตลาดหุ้นไทยตอบรับในเชิงบวก โดยตลาดหุ้นไทยอย่างดัชนี SET เปิดตลาดช่วงบ่ายยังคงซื้อขายในแดนบวกต่อเนื่องจากช่วงเช้า และปิดตลาดที่ระดับ 1,610.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.22%จากวันก่อนหน้า

ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าทันทีที่มีการเปิดเผยผลการประชุม จากระดับ 34.25 บาทต่อดอลลาร์ สู่ระดับ 34.17 บาทต่อดอลลาร์ ณ วันที่ 29 มี.ค. 2566 เวลา 14.55 น. สะท้อนการตอบรับข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย

ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ส่งสัญญาณการรับข่าวการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อายุ 10 ปี ทรงตัวที่ระดับ 2.34% เท่ากับวันก่อนหน้า (29 มี.ค. 2566)


มุมมองการลงทุน


• ตราสารหนี้ >> แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลาย ลดแรงกดดันการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม กนง. ยังไม่ส่งสัญญาณหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลางจะได้ประโยชน์ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น

• หุ้นไทย >> เศรษฐกิจไทยยังเติบโตต่อได้ในปีนี้ โดยมีภาคการท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนหลักที่จะช่วยผลักดันตัวเลข GDP โดยภาคการส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งจะเป็นอีกภาคส่วนที่กลับมาช่วยหนุนเศรษฐกิจไทย

• หุ้นจีน >> เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดเมือง ขณะที่ไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อทำให้ใช้นโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายได้ อีกทั้งระดับราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและมีการเติบโตที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามดูตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่แม้แรงกดดันลดลงจากช่วงปีก่อน แต่อาจกดดันการบริโภคภายในประเทศอยู่


คำแนะนำการลงทุน


• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจปี 2566 ที่อาจชะลอตัว แนะนำพิจารณาลงทุนหุ้น Healthcare ผ่านกองทุน K-GHEALTH ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีรายได้และกำไรสม่ำเสมอ ทนทานต่อสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว

• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุนรวมผสม ผ่านกองทุน K-PLAN2 และ K-PLAN3 ที่มีสัดส่วนการลงทุนสินทรัพย์ในประเทศไทยเป็นหลัก

• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุนหุ้นไทย เช่น K-STAR และกองทุนหุ้นจีน เช่น K-CHINA ที่ได้รับอานิสงส์จากการลดมาตรการควบคุมโควิดของประเทศจีน ที่หนุนการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในทั้งประเทศจีนและไทย อีกทั้งได้รับประโยชน์จากหุ้นเทคโนโลยีจีนที่มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัว

• ผู้ถือกองทุนตราสารหนี้ แนะนำถือลงทุนตามระยะเวลาที่แนะนำเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนและลดความเสี่ยงที่จะขาดทุน เช่น กองทุน K-CBOND-A และ K-PLAN1 แนะนำถือลงทุน 1 ปีขึ้นไป และกองทุน K-FIXED และ K-FIXEDPLUS แนะนำถือลงทุน 1.5 ปีขึ้นไป

• สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้นและกองทุน แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF ซึ่งเหมาะกับการพักเงิน 3 เดือนขึ้นไป เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
ธนาคารแห่งประเทศไทย

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”



บทความโดย K WEALTH TRAINER วีรพล บางแวก

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ

KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!