K WEALTH / บทความ / Market Update / ประเด็นร้อน : จับตา 2 กองทุน K-CHINA รับข่าวดีจีนหนุนภาคอสังหา K-VIETNAM กลับเข้าเป็นสมาชิก WFE ของเวียดนาม
30 พฤศจิกายน 2565
2 นาที

ประเด็นร้อน : จับตา 2 กองทุน K-CHINA รับข่าวดีจีนหนุนภาคอสังหา K-VIETNAM กลับเข้าเป็นสมาชิก WFE ของเวียดนาม


​​


• กองทุน K-VIETNAM บวก จากตลาดหุ้นเวียดนาม กลับมามีรายชื่อเป็นสมาชิกสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ แนะนำถือต่อหรือลงทุนเพิ่ม แต่ไม่ควรเกิน 5%-10%ของเงินลงทุนส่วนของหุ้น


• กองทุนหลักของ K-CHINA K-CHX และ K-CCTV บวก จากการที่จีนผ่อนผันให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีช่องทางระดมทุน และสัญญาณที่สะท้อนความตั้งใจทยอยเปิดประเทศ แนะนำถือต่อหรือลงทุนเพิ่มได้



• กองทุน K-GINCOME-A(A) ทางเลือกการลงทุน ที่มีการแบ่งสัดส่วนและกระจายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก ช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนสินทรัพย์หรือหุ้นที่กระจุกตัวเพียงบางประเทศ




I: หุ้นเวียดนาม เช่น กองทุน K-VIETNAM


28 พ.ย. และ 29 พ.ย. 65 กองทุน K-VIETNAM ปรับตัวขึ้น +3.20% และ +2.47%เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ รวมถึงกองทุน K-VIETNAM-SSF +2.91% และ 2.23% KVIETNAMRMF +3.05% และ 2.23% เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ โดยกองทุนทั้ง 3 นี้ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นประเทศเวียดนาม ซึ่งในวันดังกล่าวดัชนีตลาดหุ้นเวีดนามก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน เช่น VN Index +3.52% และ +2.63% เทียบกับวันก่อนหน้า ตามลำดับ


สาเหตุที่ ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวขึ้น


ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ย. มีข่าวว่าตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ของเวียดนาม ถูกถอดออกจากการเป็นสมาชิกสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ หรือ World Federation of Exchanges (WFE) โดยตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ มีการชี้แจงว่า อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างใหม่ โดยจะควบรวมตลาดหลักทรัพย์ฮานอย (Hanoi Stock Exchange: HNX) และตลาดหลักทรัพย์นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Stock Exchange: HOSE) เข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับมาตรฐานตลาด ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานะการเป็นสมาชิกของตลาดหุ้นเวียดนาม รวมไปถึงมีหลาย บลจ. ชะลอการออกกองทุนหุ้นเวียดนามเพื่อรอความชัดเจนจากสถานการณ์ดังกล่าว เช่นกัน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดบนเว็บไซต์ World Federation of Exchanges (https://www.world-exchanges.org/membership-events#member-list) ได้พบรายชื่อ Hochiminh Stock Exchange (VNX) อยู่ในรายชื่อสมาชิกสหพันธ์ฯ แล้ว จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามกลับมาปรับตัวบวกในวันดังกล่าว


มุมมองการลงทุน


เศรษฐกิจประเทศเวียดนามยังคงเติบโตได้ดีจากเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ที่ยังคงเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลเดือน ต.ค. มียอดลงทุนสูงถึง 1.77 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับรายได้ของประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น ระบบการเงินและค่าเงินของประเทศที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ตลอดจนการที่สหรัฐฯ ประกาศไม่ดำเนินมาตรการทางภาษีกับประเทศเวียดนามอีก เป็นปัจจัยบวกต่อภาคการส่งออกของเวียดนาม

กองทุน K-VIETNAM เน้นการลงทุนรายหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวและมีการประเมินมูลค่า (Valuation) อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การเงิน และสินค้าอุปโภคบริโภค ที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากความกังวลความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาเงินเฟ้อ เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ตลอดจนการสอบสวนจากภาครัฐฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และธนาคารพาณิชย์ได้ผ่านพ้นไป


II: หุ้นจีน เช่น K-CHINA K-CHX K-CCTV


29 พ.ย. 65 กองทุนหลักของ K-CHINA (JPM China) ปรับตัวขึ้น +5.61%เทียบกับวันก่อนหน้า กองทุนหลักของ K-CHX (CSOP FTSE China A50) ปรับตัวขึ้น +3.84% รวมถึงกองทุน Schroder ISF China และ UBS China A Opportunity ซึ่งเป็นกองทุนต่างประเทศที่กองทุน K-CCTV ลงทุนอยู่ 50.43% และ 46.61% ตามลำดับ (ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 65) ปรับตัวขึ้นปรับตัวขึ้น +4.09% และ +4.80%เทียบกับวันก่อนหน้าตามลำดับ โดยกองทุนทั้ง 3 นี้ เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นประเทศจีน ซึ่งในวันดังกล่าวดัชนีตลาดหุ้นจีนก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน เช่น ดัชนี CSI 300 ของจีน +3.09% และดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง +5.24%เทียบกับวันก่อนหน้า

รวมถึงกองทุน MS INVF Asia Opportunity ที่เน้นลงทุนในหุ้นภูมิภาคเอเชีย (ลงทุนหุ้นประเทศจีนเป็นสัดส่วนสูงที่สุด) โดยเป็นกองทุนต่างประเทศที่กองทุน K-ASIACV ลงทุนอยู่ 21.75% (ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 65) มีการปรับตัวขึ้น +3.15%เทียบกับวันก่อนหน้า ตามตลาดหุ้นจีนเช่นกัน 

โดยการการปรับตัวขึ้นของกองทุนต่างประเทศดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้ราคากองทุน K-CHINA K-CHX K-CCTV และ K-ASIACV ณ 29 พ.ย. 65 (ประกาศคืน 30 พ.ย. 65) ปรับตัวขึ้นตาม


สาเหตุที่ ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น


ตลาดหุ้นจีนปรับตัว หลังทางการจีนระบุว่าจะยกเลิก กฎที่ห้ามบริษัทระดมทุนโดยการขายหุ้น ทำให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) มีช่องทางระดมทุนเพื่อนำเงินมาชำระหนี้และใช้ในการควบรวมกิจการได้มากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนถึงการทยอยผ่อนคลายภาคอสังหาริมทรัพย์จีน

อีกทั้ง ยังมีสัญญาณสะท้อนความตั้งใจของจีนที่จะทยอยเปิดประเทศ โดยมีรายงานจากสำนักข่าว xinhua ว่า บุคคลที่มีความเสี่ยงต่ำในการติดเชื้อ COVID-19 ไม่จำเป็นต้องตรวจ PCR อีกต่อไป ประกอบกับการประกาศว่าจะส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเปิดประเทศ ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Reopening อย่างโรงแรม และสายการบิน ปรับตัวเพิ่มขึ้น


มุมมองการลงทุน


แม้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนระดับประเทศอาจไม่โดดเด่น แต่หลายธุรกิจมีโอกาสการเติบโตที่น่าสนใจจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดการเติบโตของผู้พัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ รวมถึงการพัฒนาพลังงานทดแทน และการลดคาร์บอน นอกจากนั้นหุ้นกลุ่มอินเตอร์เน็ตมีความน่าสนใจสูงหลังราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามากก่อนหน้านี้ สวนทางแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่ทำได้ดีขึ้น


III: กองทุนอื่น 


กองทุน K-FIXEDPRO กองทุนตราสารหนี้ ที่มีสัดส่วนลงทุนตราสารหนี้ไทย 53.7%ของมูลค่ากองทุน (ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 65) โดย ณ 25 พ.ย. 65 ราคากองทุนปรับตัวขึ้น +0.29% อย่างไรก็ตาม ตราสารหนี้ไทยอาจได้รับผลกระทบจากการประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีประชุมวันที่ 30 พ.ย. จึงอาจส่งผลให้กองทุน K-FIXEDPRO มีความผันผวนได้ในระยะสั้น สำหรับผู้ที่ลงทุนอยู่ แม้มีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนแต่ยังสามารถถือลงทุนต่อได้ โดยควรถือลงทุนอย่างน้อย 2 ปี เพื่อรอให้มูลค่ากองทุนทยอยปรับตัวขึ้น จากดอกเบี้ยและเงินต้นที่กองทุนทยอยได้รับจากตราสารหนี้ที่ลงทุนไป


คำแนะนำการลงทุน


ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นเวียดนามอยู่ (เช่น K-VIETNAM K-VIETNAM-SSF และ KVIETNAMRMF) แนะนำถือลงทุนต่อ ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่มและรับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยลงทุนเพิ่มได้ แต่ควรเป็นเงินที่สามารถลงทุนระยะยาว และควรมีสัดส่วนเงินลงทุนไม่เกิน 5%-10% ของเงินลงทุนในส่วนของหุ้น เนื่องจากตลาดหุ้นเวียดนามมีความผันผวนกว่าตลาดหุ้นทั่วไป

ผู้ที่ถือกองทุนหุ้นจีนอยู่ (เช่น K-CHINA K-CHX K-CCTV K-CHINA-SSF และ KCHINARMF) แนะนำถือลงทุนต่อ ส่วนผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่มและรับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยลงทุนเพิ่มได้ แต่ควรเป็นเงินที่สามารถลงทุนระยะยาว

สำหรับผู้ที่กังวลกับความผันผวน แต่ยังคงรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้หรือต้องการรับผลตอบแทนระยะยาว แนะนำลงทุนกองทุนผสม เช่น กองทุน K-GINCOME-A(A) ที่มีการแบ่งสัดส่วนและกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก  ช่วยลดความผันผวนและความเสี่ยงจากการลงทุนสินทรัพย์หรือหุ้นที่กระจุกตัวเพียงบางประเทศ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset, KBank Private Banking, Finnomena, กรุงเทพธุรกิจ, RYT9

Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”



บทความโดย K WEALTH TRAINER ราชันย์ ตันติจินดา CFP®
KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!