"
จีนคลายล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ เปิดให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติตั้งแต่ 1 มิ.ย. 65 หลังปิดเมืองนานกว่า 2 เดือน โดยระหว่างวันที่ 30-31 พ.ค. ดัชนี CSI 300 ของจีนปรับตัวขึ้นรวม +2.2% และ Hang Seng China Enterprise Index ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น +4.7%
"
กองทุนที่ได้รับผลดี จากตลาดที่ปรับตัวขึ้น
กองทุนที่มีการลงทุนหุ้นจีนหลายกองทุน ราคา ณ 31 พ.ค. ปรับตัวขึ้นเทียบกับ 27 พ.ค. เช่น
1) กองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นจีนเป็นหลัก
• K-CHINA ที่เน้นลงทุนหุ้นที่ตั้งอยู่หรือดำเนินกิจการในจีน ราคาปรับตัวขึ้นราว +6%• K-CCTV ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีน A-shares โดยควบคุมความผันผวนของราคากองทุน ราคาปรับตัวขึ้น +3.34
2) กองทุนที่ลงทุนบางส่วนในหุ้นจีน
• K-ASIAX ที่เน้นลงทุนตามดัชนีที่อ้างอิงราคาหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนในจีน 34.33% (อ้างอิง fund fact ณ 31 มี.ค. 65) ราคาปรับตัวขึ้น +1.60
• K-ATECH ที่เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนในจีน 35.7% (อ้างอิง fund fact ณ 31 มี.ค. 65) ราคาปรับตัวขึ้น +4.42%
สาเหตุที่ หุ้นจีนและหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น
1) เซี่ยงไฮ้ คลายล็อกดาวน์
ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 65 ภาคธุรกิจต่างๆ สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ หลังถูกล็อกดาวน์กว่า 2 เดือน ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนตอบรับในเชิงบวก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ก่อนหน้านี้เผชิญกับแรงเทขายอย่างหนัก
2) เซี่ยงไฮ้ ออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ
ซึ่งมีผลถึงสิ้นปี 2565 โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภค, ลดภาระของภาคเอกชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจในเซี่ยงไฮ้ เช่น การลดหย่อนภาษีและค่าธรรมเนียมให้กับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์, เร่งอนุมัติโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์และสนับสนุนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ๆ, เพิ่มโควต้าการซื้อรถยนต์, ลดหย่อนภาษีการซื้อรถยนต์ และอุดหนุนผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า, สนับสนุนการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และสนับสนุนบริษัทต่างชาติให้เขามาตั้งสำนักงานใหญ่และศูนย์วิจัยในเซี่ยงไฮ้
ปัจจัยที่ยังต้องติดตาม
หากจีนยังคงใช้นโยบาย Zero-COVID อยู่ ก็ยังคงมีความเสี่ยง กรณีเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ขึ้นมาอีก ซึ่งอาจส่งผลให้ภาครัฐออกมาตการควบคุมด้วยการปิดเมืองได้
มุมมองการลงทุน
การคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ แม้ช่วยลดปัญหาด้านการผลิตและส่งมอบสินค้า ลดแรงกดดันด้านต้นทุนและความล่าช้าในการผลิต ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี แต่ในระยะสั้นคาดว่าตลาดหุ้นจีนยังคงผันผวนจากสถานการณ์โควิด-19 อยู่
คำแนะนำการลงทุน กองทุน K-CHINA K-CCTV K-ASIAX และ K-ATECH
-
ผู้ที่ถือกองทุนเหล่านี้อยู่ สามารถถือลงทุนต่อได้ เพราะยังคงมีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว
-
ผู้ที่สนใจลงทุนเพิ่ม แนะนำแบ่งเงินบางส่วนมาทยอยลงทุนเพิ่มได้
-
สำหรับผู้ที่กังวลหรือยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ในจีน แนะนำให้รอดูโดยพักเงินในกองทุน K-SF หรือ K-CASH ก่อน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : KAsset
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน"