ต้นทุนขาขึ้น ที่ธุรกิจเตรียมรับมือ
เป็นอีกเรื่องที่เจ้าของธุรกิจต้องคิดหาวิธีรับมือกับปัญหา “ต้นทุน” ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากปัจจัยราคาน้ำมันและพลังงานโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบต่างๆ และเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้ามีการปรับสูงขึ้น ซึ่งจะมีต้นทุนอะไรบ้างที่ต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด
เพื่อจะได้ปรับแผนการผลิตและการดำเนินธุรกิจได้ทัน
รู้หรือไม่?
ต้นทุนแฝง (Hidden Cost) อะไร? ที่คนนึกไม่ถึง
ต้นทุนเวลา : เพราะเวลาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยาก การรอคอย ความล่าช้า เหล่านี้คือค่าเสียโอกาสจากการปล่อยให้เวลาผ่านไป ถือเป็นต้นทุนทางธุรกิจอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ การขายสินค้าออนไลน์ การให้ลูกค้ารอนาน
โดยเฉพาะขั้นตอนชำระเงิน หากยุ่งยาก ซับซ้อน หลายขั้นตอน อาจทำให้เกิดการเสียโอกาสทางธุรกิจได้ ซึ่งปัจจุบันมีระบบการชำระเงินที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจรับเงินง่าย ลูกค้าจ่ายได้สะดวก เช่น หากใครขายผ่าน Facebook ก็มีบริการ Facebook Pay ไว้อำนวยความสะดวก
เป็นต้น ดังนั้น ในยุคที่ต้องระวังเรื่องต้นทุนอย่างมาก จะคิดถึงแต่ต้นทุนที่มองเห็นอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องระวังไปถึงต้นทุนที่ตามองไม่เห็นด้วย
ปรับแผนคุมต้นทุน แก้วิกฤตธุรกิจเจ็บหนัก
สำหรับแนวทางควบคุมต้นทุน ผู้ประกอบการสามารถทำได้ด้วยหลัก “ลด ปรับ เปลี่ยน คาดการณ์”
ลด : การลดของเสีย (Waste) เป็นอีกวิธีช่วยให้ต้นทุนลดลงได้ ซึ่งของเสียเกิดได้จากหลายส่วนด้วยกัน ตั้งแต่ ของเสียจากการจัดเก็บไม่ดี หรือเก็บไว้นานจนหมดอายุ ของเสียระหว่างกระบวนการผลิต เป็นต้น ผู้ประกอบการอาจต้องเข้มงวดในเรื่องนี้มากขึ้น
เช่น ให้มีการบันทึกรายการของเสียพร้อมระบุสาเหตุ เพื่อหาวิธีไม่ให้เกิดของเสีย หรืออาจจะลองเอาแนวคิดของการผลิตแบบทันเวลาพอดี (Just in Time) มาประยุกต์ใช้ นั่นคือ การผลิตเฉพาะสินค้าที่ลูกค้าต้องการ ภายในเวลาและปริมาณที่ลูกค้าต้องการ เพื่อช่วยคุมสต็อกไม่ให้เหลือค้างจนกลายเป็นของเสีย
ปรับ : หากสินค้าไหนมีต้นทุนวัตถุดิบสูง อาจต้องมีการปรับสูตรใหม่ หรือให้วัตถุดิบอื่นทดแทน แต่อาจทำเป็นลักษณะสินค้าพิเศษที่มีขายเฉพาะช่วงเวลา เพื่อให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่า การปรับสูตรหรือปรับวัตถุดิบจะทำให้ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพน้อยลง
เปลี่ยน : การเปลี่ยนซัพพลายเออร์เพื่อให้ได้ต้นทุนที่ดีกว่า เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยคุมต้นทุนได้ ฉะนั้นอย่าผูกขาดกับซัพพลายเออร์เพียงรายเดียว ควรมีซัพพลายเออร์หลายๆ ราย เพื่อจะทดแทนกันได้ หรือให้ข้อเสนอที่ดีกว่า
ทั้งนี้ การเลือกซัพพลายเออร์ต้องเปรียบเทียบทั้งด้านคุณภาพ ราคา รอบการจัดส่ง รวมถึงเครดิตเทอม (Credit Term) ด้วย
คาดการณ์ : การวางแผนคาดการณ์ล่วงหน้า เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องทำ เพื่อให้การบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทำได้ด้วยการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล เช่น รายการวัตถุดิบ จำนวนที่ใช้ ราคา แหล่งซื้อ เพื่อดูว่าต้นทุนแต่ละปีสูงขึ้นเฉลี่ยกี่เปอร์เซ็นต์
เพื่อใช้ในการกำหนดงบประมาณและวางแผนการซื้อได้แม่นยำมากขึ้น