นับถอยหลังรับทรัพย์ด้วยกลยุทธ์ COUNTDOWN
ถ้าไม่อยากจบปีนี้ไปแบบเจ็บๆ เจ้าของธุรกิจคงต้องงัดเอาทุกกลเม็ดเคล็ดลับที่มีออกมาใช้เรียกทรัพย์จากลูกค้า แต่ถ้ายังไม่รู้จะใช้กลยุทธ์แบบไหน แนะนำให้ลองใช้กลยุทธ์นี้ C.O.U.N.T.D.O.W.N สูตรการขายรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าและเพิ่มยอดขายช่วงส่งท้ายปลายปีนี้
C : Creative Content
ธันวาคม เดือนสุดท้ายก่อนจบปี เรียกได้ว่าเป็นเดือนที่มีวันหยุดค่อนข้างมาก ตรงกับช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาส และเตรียมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การสร้างสรรค์คอนเทนต์ ที่ให้ความรู้สึกสนุกสนานและรื่นเริงใจ เพื่อเข้ากับบรรยากาศปลายปี
เช่น การใช้คำที่ให้ความหมายในเชิงบวก รูปภาพที่มีชีวิตชีวา ใช้สีโทนสดใส และเสียงประกอบที่รื่นหู ยกตัวอย่าง แบรนด์ Tesco ที่ปล่อยโฆษณารับคริสต์มาส โดยใช้เพลง Don’t Stop Me Now ของวง Queen มาประกอบ เพื่อสะท้อนว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สามารถหยุดผู้คนให้พบกับความสนุกสนานจากการเฉลิมฉลองในปีนี้ได้
O : Outstanding Product
การออกสินค้าที่เข้ากับเทศกาล เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เรียกเงินเข้ากระเป๋าเจ้าของธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ธีม การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ หรือปล่อยสินค้า Limited Edition เพื่อต้อนรับเทศกาลปลายปีโดยเฉพาะ ยกตัวอย่าง แบรนด์ KFC ที่สร้างความโดดเด่นให้สินค้า
ด้วยการถักเสื้อสเวตเตอร์ให้ถังไก่รับคริสต์มาส โดยมีถุงมือในตัวที่ลูกค้าสามารถสอดมือเข้าไปเพื่อโอบรอบถังได้ เรียกว่าอุ่นทั้งมือคน อุ่นทั้งไก่ในถังเลยทีเดียว
U : Urgency
การใช้เวลาเป็นตัวเร่ง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ยังคงเป็นเคล็ดลับหนึ่งที่ใช้ได้ผลดีเยี่ยม โดยเฉพาะโค้งสุดท้ายของปีแบบนี้ การจับเวลานับถอยหลัง (Countdown Timer) เพื่อบอกระยะเวลาของการเริ่มต้นขายสินค้าหรือสิ้นสุดข้อเสนอพิเศษว่า เหลือกี่วัน
กี่ชั่วโมง กี่นาที กี่วินาที จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเร่งตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งวิธีการที่ว่านี้ สามารถทำได้ ตั้งแต่การส่งอีเมลพร้อมโค้ดลับดีลสุดพิเศษที่ต้องซื้อภายในเวลาจำกัดให้กับลูกค้า หรือใช้วิธีจับเวลานับถอยหลังหน้า Check-out สำหรับสินค้าที่มีจำนวนจำกัดหรือกำลังใกล้จะหมด
N : New Consumer
ลูกค้ากลุ่มเดิม อาจไม่ได้มีพฤติกรรมการซื้อแบบเดิมอีกต่อไป ดังนั้น การรู้ทันพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปจะช่วยให้จบการขายได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่าง ปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรู เปลี่ยนพฤติกรรมจากการซื้อสินค้าในร้าน มาเป็นการชอปผ่านออนไลน์ แต่ยังคาดหวังที่จะได้รับความสะดวกสบายและความหรูหรา
เช่น ดีไซน์หน้าเว็บ/แอปฯ ที่ต้องดูดี หรือมีบริการบางอย่างที่เฉพาะบุคคล
T : Touchpoints Anywhere
ถ้าอยากขายได้มาก ได้เร็ว จะอยู่แค่ออนไลน์หรือออฟไลน์ที่ใดที่หนึ่งไม่ได้ แต่แบรนด์ต้องพาตัวเองไปอยู่ในทุกช่องทางที่ลูกค้าอยู่ ยกตัวอย่าง แบรนด์บาร์บีคิว พลาซ่า ที่สามารถแทรกซึมและทำให้ลูกค้าได้เห็นในทุกๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะผ่านการ Live ขายของ
หรือการให้พี่ก้อนกระดาษนั่งกินกับลูกค้าภายในร้าน มีการแตกไลน์ “GON Food ทัก” และล่าสุดกับการขายน้ำจิ้มบาร์บีคิวในตำนานบนช่องทางออนไลน์ตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า
D : Discount
พลังของส่วนลด ยังเป็นสิ่งดึงดูดใจลูกค้าได้ตลอดกาล ยิ่งเป็นช่วงเทศกาล ลูกค้ายิ่งอยากชอปกระหน่ำ ดังนั้น แบรนด์อาจต้องใช้เรื่องของจิตวิทยาในการตั้งราคามาช่วยกระตุ้นยอดขาย ยกตัวอย่าง การใช้ตัวเลขที่ดูลดมากกว่า เช่น ลด 500 บาท กับ ลด 50% ควรเลือกใช้อย่างแรก
แม้สุดท้ายคิดออกมาแล้วราคาจะเท่ากันก็ตาม แต่ลูกค้าเชื่อว่าการลด 500 บาท สามารถดึงดูดใจได้มากกว่า
O : Offering Free Product Sample
การมอบตัวอย่างสินค้าใหม่ หรือสินค้าที่แบรนด์อยากให้ลูกค้าได้ลองใช้เป็นของแถม เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ถ้าอยากจะให้เกิดการซื้อซ้ำจากลูกค้าในครั้งต่อไป เพราะการได้ทดลองใช้ก่อนจะยิ่งทำให้ลูกค้ามั่นใจในตัวสินค้า ยกตัวอย่าง แบรนด์
innisfree เครื่องสำอางของเกาหลีใต้ จะใช้กลยุทธ์แถมผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองใช้ฟรี เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าตามราคาที่กำหนด ซึ่งนอกจากจะถูกใจลูกค้าที่ชื่นชอบความคุ้มค่าแล้ว ยังสร้างโอกาสในการขายได้เพิ่มขึ้นด้วย
W : Word of Mouth
ขายดีเพราะการบอกต่อยังใช้ได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ยิ่งเสียงบอกต่อดังเท่าไร ยิ่งถึงหูลูกค้าเร็วมากขึ้นเท่านั้น วิธีง่ายที่สุดคือ การใช้ Real-time Marketing มาช่วยในการสร้างการบอกต่อ จับกระแสมาพูดถึง ดึงคนให้เข้าหาแบรนด์ หรือจะใช้วิธีสุดเบสิก
ให้ Influencer เป็นตัวแทนบอกต่อสินค้าหรือบริการของแบรนด์ก็ได้เช่นกัน
N : Nostalgia
การตลาดแบบคิดถึงวันวานหรือโหยหาอดีต ถือเป็นลูกเล่นเด็ด ที่จะช่วยสร้างยอดขายช่วงปลายปีนี้ได้ การหยิบเอาสิ่งที่อยู่ในความทรงจำของลูกค้า มาเล่าหรือถ่ายทอดใหม่อีกครั้ง สามารถกระตุ้นความสนใจลูกค้าได้ ยกตัวอย่าง การที่ Netflix จับมือ General Mills
ขายซีเรียลในบรรจุภัณฑ์ย้อนยุค ดึงคนสัมผัสช่วงเวลายุค 1980 ก่อน Stranger Things ซีซั่น 4 จะเริ่มฉาย กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างมาก ดังนั้น ลองหันมาดูสินค้าของคุณสามารถใส่ลูกเล่นที่ให้กลิ่นอายของอดีตได้อย่างไรบ้าง เพื่อดึงความสนใจจากลูกค้า
การจะใช้กลยุทธ์ C.O.U.N.T.D.O.W.N ให้ได้ดี เจ้าของธุรกิจต้องปรับตัวให้ไว รู้ว่าอะไรเป็นกระแส ธีมแบบไหนที่เข้ากับเทศกาล และลูกค้าต้องการอะไร เมื่อเข้าใจและลงมือทำแล้ว โอกาสเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าจะมีมากขึ้น
