เลือกคู่ค้าใหม่อย่างไร? ให้ไปด้วยกันรอด
“มองตาก็รู้ใจ” คำคำนี้อาจใช้ได้กับคู่ค้าเก่าที่เคยทำธุรกิจร่วมกันมาเป็นเวลานาน แต่ถ้าต้องมองหาคู่ค้าใหม่ การมองแค่ตาอาจใช้ไม่ได้ผล เพราะถ้าอยากได้ “คู่ค้า” ที่จะพากันรอดในยุค COVID-19 แบบนี้ ต้องมองให้ลึกไปกว่านั้น
ไม่ใช่แค่คุณเลือกเขา แต่เขาก็เลือกคุณได้เช่นกัน เพราะต่างฝ่ายต่างก็ต้องการคู่ค้าที่ใช่ด้วยกันทั้งนั้น และถ้าอยากทำให้คู่ค้ามั่นใจและเชื่อมั่นที่จะเป็นพาร์ตเนอร์จับมือเดินไปด้วยกัน คุณต้องเตรียมธุรกิจให้พร้อมใน 3 ด้านนี้
- มาตรฐานต้องมี
ด่านแรกของการสร้างความเชื่อมั่น ทำได้ด้วยการสร้างมาตรฐานให้ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น GMP/HACCP/ISO/เครื่องหมายอาหารและยา (อย.) หรือเครื่องหมายมาตรฐานอาหารฮาลาล (Halal) ฯลฯ เหล่านี้คือมาตรฐานที่ช่วยการันตีคุณภาพ ทั้งในด้านความสะอาด ปลอดภัย
รวมถึงการถูกต้องตามกฎหมายนั่นเอง
- เป็น(ธุรกิจ)คนดี รักษ์โลก
จากผลสำรวจของ PwC ที่บอกไว้ว่า ผู้บริโภคชาวไทยเกือบ 80% เลือกซื้อสินค้าและบริการจากบริษัทที่ทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เป็นการสะท้อนได้ว่า คนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้น
เจ้าของธุรกิจสามารถใช้เรื่องนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าได้ ด้วยการแสดงออกให้เห็นว่า ธุรกิจคุณคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและใส่ใจสังคม เช่น สินค้าต้องมีฉลากสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า “ฉลากเขียว” เพื่อรับรองความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของธุรกิจ
ซึ่งแต่ละประเทศก็มีฉลากสิ่งแวดล้อมต่างกันไป เช่น EU Flower ของยุโรป Green Seal ของอเมริกา Eco Mark ของญี่ปุ่น เป็นต้น
- ฐานะการเงินต้องแกร่ง
ความแข็งแกร่งด้านการเงิน ถือเป็นจุดที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าได้อย่างมาก ยิ่งปัจจุบันการตรวจสอบงบการเงินสามารถทำได้ง่ายๆ แค่ไม่กี่คลิกก็สามารถรู้ถึงสถานะการเงินของคู่ค้าได้แล้ว ฉะนั้น การทำงบการเงินที่ถูกต้อง ชัดเจน และโปร่งใส
จะช่วยสร้างความมั่นใจกับคู่ค้าได้ รวมถึงการชำระเงินต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคู่ค้า เจ้าของธุรกิจสามารถใช้ตัวช่วยอย่าง หนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee : LG) ที่ออกโดยธนาคารเพื่อรับรองว่า ธุรกิจของคุณจะทำการจ่ายเงินให้กับคู่ค้าอย่างแน่นอน
ซึ่งหากมีการผิดสัญญา ธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบแทน จะยิ่งสร้างความมั่นใจในการทำธุรกิจมากขึ้นไปอีก
จับทิศทางเศรษฐกิจไทย-โลก รู้ก่อน! เดินหน้าขยายคู่ค้าใหม่
เมื่อโลกของการค้ายังอยู่บนความไม่แน่นอนจาก COVID-19 และปัจจัยอื่นๆ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเป็นคู่ค้ากับใคร จำเป็นต้องรู้ทิศทางทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกด้วย เพราะจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2564 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 0.2% ส่วนปี 2565 จะฟื้นตัวที่ 3.7% จากความครอบคลุมของประชากรที่จะได้รับวัคซีนเกินกว่า 70% ทำให้ลดความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ลง และการดำเนินธุรกิจไม่หยุดชะงัก
รวมถึงยังมีแรงหนุนการส่งออกที่เติบโต ซึ่งคาดว่าทั้งปีนี้ตัวเลขส่งออกน่าจะสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ 12.4% โดยการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยยังขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะ สหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น และ CLMV
ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจโลก จากข้อมูล IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกปี 2564 จะเติบโตที่ระดับ 5.9% และประเมินว่าปี 2565 จะขยายตัวที่ 4.9% พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วจะขยายตัวเฉลี่ยที่ระดับ 5.2% ในปีนี้ ส่วนประเทศกำลังพัฒนาจะมีอัตราการเติบโตที่
3%