30 กันยายน 2562

SME แบ่งเค้กก้อนโต ตลาดสินค้าแม่และเด็ก

​อัตราการเกิดของประชากรไทยกำลังมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง โดยในช่วงตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2561 อัตราการเกิดของคนไทยลดลงเฉลี่ยปีละ 3.4 % อันเป็นผลจากการที่คนรุ่นใหม่เป็นโสดมากขึ้น หรือมีจำนวนบุตรต่อครัวเรือนลดลง โดยอัตราการมีบุตรต่อสตรี 1 คนอยู่ที่เฉลี่ย 1.5-1.6 คน

การเข้าสู่ตลาดสินค้าแม่และเด็กสำหรับ SME อาจไม่ง่ายนัก เนื่องจากมีผู้ประกอบการในตลาดค่อนข้างมาก ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำ รวมถึงผู้ประกอบการ SME ที่เข้าสู่ตลาดสินค้าแม่และเด็กผ่านช่องทางออนไลน์ ที่กำลังได้รับความนิยม

สินค้าที่ผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดสินค้าแม่และเด็กได้ เป็นสินค้าที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงแต่ตัวสินค้าต้องมีความแตกต่างเมื่อเทียบกับที่มีในตลาด และจับตลาดพ่อแม่ระดับรายได้ปานกลาง-สูง ที่ต้องมองด้านประโยชน์ใช้สอยมากกว่าประเด็นด้านราคา

ตลาดสินค้าแม่และเด็ก มีมูลค่าค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางตลาดออนไลน์ที่ทั้งผู้ประกอบการ SME รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ หันมาใช้ในการนำเสนอสินค้า ทำให้ตลาดเกิดการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง

ตลาดสินค้าแม่และเด็ก ไม่เน้นแข่งขันกันที่ราคา แต่เน้นไปที่คุณภาพและความปลอดภัยในการใช้เป็นสำคัญ ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ควรต้องเน้นเป็นลำดับแรกก็คือ คุณภาพมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า ซึ่งหากสามารถผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานในระดับสากล จะได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อในประเทศ ขณะเดียวกัน ก็สามารถเพิ่มช่องทางขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศได้ด้วย

ติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทวิเคราะห์ฉบับเต็ม…


ดาวน์โหลดบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม


 

สินเชื่อที่เกี่ยวข้อง : สินเชื่อและบริการยอดฮิต