19/11/2561

5 คำถามทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้คำตอบ

​​       ในยุคที่ e – Commerce เติบโต ส่งผลทำให้การค้าออนไลน์กลายเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะเจ้าของธุรกิจแค่โพสต์ขายของ ตอบคำถามลูกค้า แพคสินค้า จัดส่งสินค้า ก็สามารถสร้างรายได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องพึ่งพาหน้าร้านอีกต่อไป แต่เชื่อไหมว่ายังมีเจ้าของธุรกิจออนไลน์อีกหลายคนที่ยังมีความเข้าใจผิดในเรื่องการทำธุรกิจออนไลน์กันอยู่ วันนี้ขอรวบรวม 5 คำถามสำคัญที่คนทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้คำตอบมาฝาก ความรู้ดีๆ จาก ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอแท็กซ์ อินคอเปอร์เรชั่นจำกัดที่ได้ให้ไว้ในงานสัมมนา รอบรู้เรื่องบัญชี ภาษี วางแผนสู่ SME มืออาชีพ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการขยายธุรกิจให้เติบโตในอนาคต

1. ขายของออนไลน์ต้องเสียภาษีไหม? 

       คำถามยอดฮิตนี้ เชื่อว่ามีหลายคนยังมีข้อสงสัย พูดง่ายๆ ว่าเมื่อไหร่ที่คุณรวยขึ้นจากการขายของ เมื่อนั้นคุณต้องเสียภาษี โดยมีภาษี 2 ประเภทที่คนทำธุรกิจออนไลน์ต้องทราบ

       1.1) ภาษีเงินได้ หากธุรกิจของคุณมีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล อัตราภาษีไม่เกิน 20% หรือหากเป็นบุคคลธรรมดาต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อัตราภาษีไม่เกิน 35%

       1.2) ภาษีมูลค่าเพิ่ม หากการขายของออนไลน์มีรายได้เกิน 1,800,000 บาทต่อปี ต้องมีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ของที่ขายราคาเท่าไหร่ คุณต้องบวกภาษีมูลค่าเพิ่มไปอีก 7%

2. ถ้าเลี่ยงภาษี จะโดนลงโทษไหม? 

       คนทำธุรกิจออนไลน์หลายคน มักคิดว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ต้องเสียภาษีเหมือนคนทำงานประจำ นั่นเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก เพราะหากคุณเลี่ยงที่จะไม่ชำระภาษี คุณจะโดนบทลงโทษ ดังนี้

       2.1) เงินเพิ่ม เปรียบเสมือนดอกเบี้ย ที่คิดในอัตรา 1.5% ต่อเดือน ซึ่งจะคิดค่าปรับไปเรื่อยๆ แต่ไม่เกินอัตราภาษีที่ค้าง เช่น หากค้างภาษี 10,000 บาท ในทุกเดือนคุณจะต้องเสียเงินเพิ่ม 1.5% ไปเรื่อยๆ แต่จะไม่เกิน 10,000 บาท

       2.2) เบี้ยปรับ ที่มีตั้งแต่ 1-2 เท่าของภาษี เช่น หากคุณค้างภาษี 10,000 บาท สรรพากรคิดค่าปรับ 2 เท่า จาก 10,000 ต้องบวกเพิ่มไปอีก 20,000 และยังต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตรา 1.5% ต่อเดือนรวมเข้าไปอีกด้วย

3. ธุรกิจออนไลน์ อยากเสียภาษีให้ถูกต้อง ต้องเริ่มยังไง? 

       เมื่อเห็นถึงผลเสียและค่าปรับอันแสนจะโหดร้ายกันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนต้องคิดอยากทำสิ่งที่ถูกต้อง โดยต้องเริ่มจาก

       3.1) จดทะเบียนพาณิชย์ หากคุณขายของได้วันละ 20 บาทขึ้นไป ภายในเวลา 30 วัน คุณต้องไปจดทะเบียนพาณิชย์ โดยมีค่าธรรมเนียมจดทะเบียนเพียงแค่ 50 บาท และขั้นตอนการจดทะเบียนก็ไม่ยุ่งยาก

       3.2) จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หากร้านค้าของคุณมีหน้าเว็บไซต์และระบบชำระเงินในเว็บไซต์ คุณต้องจดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า

4. ธุรกิจออนไลน์เล็กๆ ต้องมีนักบัญชีไหม? 

       หลายคนอาจสงสัยว่า แค่โพสต์ขายของใน Facebook Instagram ธุรกิจเราไปเกี่ยวข้องกับนักบัญชีตอนไหน ข้อนี้ให้คิดเสมอว่าหากคุณมีการทำบัญชีรายรับ รายจ่ายอย่างละเอียด และมียอดขายเกิน 1,800,000 บาทต่อปี ภายใน 30 วัน คุณจะโดนบังคับจดภาษีมูลค่าเพิ่ม (จด VAT) ซึ่งนักบัญชีจะเข้ามาเกี่ยวข้องในขั้นตอนการจด VAT โดยมีหลักการเลือกนักบัญชีที่ควรรู้ ดังนี้

       4.1) เลือกนักบัญชีที่เข้าใจธุรกิจที่สุด เพราะนักบัญชีที่มีความถนัดในประเภทธุรกิจที่เราทำอยู่ เขาจะช่วยแนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจเรามากที่สุด

       4.2) เลือกนักบัญชีอย่าดูแค่ราคา คนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่านักบัญชีเก่งเท่ากัน แต่จริงๆ แล้วควรเลือกคนที่เข้าใจธุรกิจเราจริงๆ เพราะการทำบัญชีคือเส้นเลือดใหญ่ ถ้านักบัญชีทำไม่ดี หากกรมสรรพากรมาตรวจจะไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย

5. ทำธุรกิจออนไลน์ จำเป็นต้องรู้กฏหมายไหม? 

       คุณต้องเกาะติดเรื่องกฎหมาย เพราะเมื่อการซื้อขายออนไลน์เป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้มีกฎกติกาต่างๆ ออกมาเพื่อดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ดังนั้น หากคุณไม่รู้เรื่องจะทำให้คุณเสียเปรียบทางธุรกิจได้ง่ายๆ

       หากคุณต้องการเติบโตในธุรกิจออนไลน์ที่ทำอยู่ อย่าลืมเช็คคำถามสำคัญ 5 ข้อดังกล่าว ว่าเข้าใจในคำตอบได้อย่างครบถ้วนหรือยัง เพื่อจะได้วางแผนธุรกิจได้อย่างสบายใจไร้กังวล และเตรียมพร้อมรองรับการขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง


สินเชื่อที่เกี่ยวข้อง : สินเชื่อและบริการยอดฮิต​

​​