3. การฟื้นฟูการท่องเที่ยว ภาคการท่องเที่ยวเป็นภาคเศรษฐกิจสำคัญที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด รัฐบาลมุ่งเน้นการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เช่น การลดข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศ การอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่า เช่น กลุ่มชาวต่างชาติผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ กลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกล และคาดว่าจะมีการผลักดันมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น สถานบันเทิงครบวงจร
4. นโยบายการกระตุ้นการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม รัฐบาลยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การสนับสนุนภาคธุรกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ เศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งจะเพิ่มโอกาสความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว
5. ความเชื่อมั่นของนักลงทุน การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน นโยบายต่างๆ เช่น การกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนภาครัฐ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการส่งเสริมเทคโนโลยี ล้วนมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ตลาดหุ้นอาจตอบสนองแตกต่างกันไปตามลักษณะของแต่ละภาคธุรกิจ
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ความสำเร็จของรัฐบาลในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางการเมืองของไทยที่ยังคงมีอยู่ ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดหุ้น
นอกเหนือจากปัจจัยทางการเมืองแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้น เช่น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ความท้าทายภายในประเทศที่ยังคงไม่แน่นอน รวมถึงความสามารถของรัฐบาลในการจัดการหนี้สาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
แนวโน้มของหุ้นไทยในอนาคต

การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีผลให้ตลาดหุ้นไทยเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น นักลงทุนอาจเริ่มเห็นทิศทางการลงทุนชัดเจนขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังคงต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมสำคัญอย่างท่องเที่ยวและการส่งออก
โอกาสสำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมักจะมาจากภาคธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ เช่น ธุรกิจค้าปลีกที่ได้รับผลดีจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้นจากการแจกเงินดิจิตอล และธุรกิจการก่อสร้างที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
ในขณะเดียวกัน ความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง ความล่าช้าในการดำเนินนโยบาย และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวนในระยะสั้น
คำแนะนำการลงทุนในหุ้นไทย
สำหรับนักลงทุนที่มีการถือครองกองทุนหุ้นไทยอยู่แล้ว แนะนำให้ ถือครองต่อไปได้ และรอดูสถานการณ์ เนื่องจากยังคงมีความผันผวนในตลาดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ การดำเนินนโยบายของรัฐบาลใหม่ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพิ่มเติมในหุ้นไทย แนะนำให้พิจารณา กองทุนลดหย่อนภาษี เช่น กองทุน Thai ESG ที่เน้นการลงทุนในหุ้น ESG (Environmental, Social, and Governance) เนื่องจากไม่เพียงแต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ยังเป็นการลงทุนในธุรกิจที่ยั่งยืนและมีการบริหารจัดการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนอย่างยั่งยืนในอนาคต
นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยงและติดตามข่าวสารและการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน
วรสุดา ใช้เทียมวงศ์ CFP
ผลิตภัณฑ์แนะนำที่เกี่ยวข้อง
| อ่านรายละเอียดกองทุน
| ซื้อกองทุนผ่าน K PLUS
|
K-ESGSI-ThaiESG
| 
| 
|
K-TNZ-ThaiESG
| 
|
|
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ตลาดหุ้นไทยยังเปิดให้บริการอยู่ แถมราคายังถูก อัพไซส์ก็มี คลิก
- หุ้นไทยสดใส ขานรับกองทุนวายุภักษ์พร้อม ครม.ชุดใหม่ คลิก