Sign In

KBank Private Banking
02-8888811

Non-Capital Market Solutions

หุ้นนอกตลาด…ขุมทรัพย์ระยะยาว

03 มิถุนายน 2565

​​​​​​ ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนและปรับตัวลงจากหลายปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เล็กๆ อย่างการรวมตัวกันของนักเก็งกำไรที่เข้ามาปั่นราคาหุ้นรายตัว ไปจนถึงเหตุการณ์ใหญ่ๆ อย่างการเปลี่ยนทิศของนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้หุ้นโลก (MSCI All Country World Index) จากที่เคยฟื้นตัวได้ดีในปี 2020-2021 กลับให้ผลตอบแทนที่น่าผิดหวังในปีนี้ เพราะดัชนีร่วงมาสู่ระดับใกล้เคียงกับช่วงต้นปี 2021 นั่นหมายถึง นักลงทุนแทบไม่ได้ผลตอบแทนในช่วงเวลาเกือบหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาเลย

ดัชนีหุ้นโลก (MSCI All Country World Index)

ต้นปี 2021 ถึงปัจจุบัน


ในช่วงสั้นๆ นี้ แนวโน้มตลาดหุ้นจะยังไม่สดใส แม้นักลงทุนจะกระจายความเสี่ยงไปในหุ้นทั่วโลก ก็ยังคงหนีไม่พ้นความผันผวนที่เกิดจากการเก็งกำไรตามเหตุการณ์รายวัน มากไปกว่านั้น ราคาสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้น ยังถูกกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการถอนสภาพคล่องของธนาคารกลาง ดังนั้น การแบ่งเงินลงทุนไปในสินทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์จึงเป็นหนทางหลีกหนีความผันผวนของวัฎจักรเศรษฐกิจนี้ได้

ในบทความฉบับที่แล้ว (ตีพิมพ์วันที่ 19 พฤษภาคม 2022) ได้กล่าวถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด (Private Real Estate) วันนี้จะขอให้ข้อมูลสินทรัพย์นอกตลาดอีกประเภทหนึ่ง นั่นก็คือ หุ้นนอกตลาด หรือ Private Equity ที่นอกจากจะเหมาะกับภาวะตลาดขณะนี้แล้ว ยังมีจุดเด่นอีกหลายข้อ ได้แก่

หุ้นนอกตลาดเป็นส่วนเติมเต็มพอร์ตการลงทุนชิ้นสำคัญ ที่เปิดให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนที่มักยังไม่มีในตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้นของบริษัทเกิดใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตสูง แม้ยังไม่สร้างรายได้ หรือมีรายได้แล้วแต่ยังไม่มีกำไรมาก ทำให้ยังเป็นหุ้นนอกตลาด แต่ทีมผู้จัดการกองทุนได้วิเคราะห์และเห็นถึงความแตกต่างในนวัตกรรมของสินค้าหรือบริการ เปรียบเสมือนเป็นเพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียระไน นักลงทุนในหุ้นนอกตลาดจะได้โอกาสลงทุนตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของกิจการ ในราคาที่ไม่สูงมาก และหากบริษัทเติบโตได้ดีตามคาด นักลงทุนก็สามารถขายทำกำไรในอนาคต ผ่านการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือขายต่อให้นักลงทุนรายอื่น

ดังนั้น การลงทุนในหุ้นในตลาดเพียงอย่างเดียวจะทำให้พลาดโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ จากข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี หุ้นนอกตลาดให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง +19.8% ต่อปี (อ้างอิงจาก Cambridge Associates Benchmark) ขณะที่ดัชนีหุ้นโลกให้ผลตอบแทน +9.7% ต่อปี

การกำหนดราคามีระยะเวลาแน่นอน เช่น ทุกไตรมาส และแม้ราคาตลาดของบริษัทลักษณะเดียวกัน (Peer Comparison) จะมีผลต่อการประเมินมูลค่าหุ้นนอกตลาดบ้างแต่เป็นส่วนน้อย ส่วนสำคัญ คือปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง เช่น กระแสเงินสดและความสามารถในการสร้างกำไร เพราะฉะนั้นการใช้ทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้ความสามารถในการเฟ้นหาธุรกิจที่มีศักยภาพ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริหาร เพื่อเข้าไปแนะนำการพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจ หรือปรับโครงสร้างการเงิน จึงมีความสำคัญยิ่ง นอกจากนั้น ควรเลือกกองทุนที่มีการแบ่งปันผลกำไรที่เหมาะสมระหว่างบริษัทจัดการกองทุนและนักลงทุน เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนมีแรงจูงใจในการสร้างผลตอบแทนที่ดี

ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ดอกเบี้ยขาขึ้น และเงินเฟ้อสูง เช่นปัจจุบัน ทำให้โอกาสลงทุนในหุ้นนอกตลาดมีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะบางบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่องระยะสั้น จากยอดขายไม่ขยายตัว ต้นทุนสูงขึ้น และกำไรลดลง ทำให้มีความต้องการหาพันธมิตรหรือเพิ่มทุน นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่กองทุนหุ้นนอกตลาดจะเข้าลงทุนในบริษัทคุณภาพดีในราคาที่ต่ำลง เพื่อเพิ่มโอก​าสสร้างกำไรได้ในอนาคต

อย่างไรก็ดี สิ่งที่แลกมากับการเติบโตของเงินลงทุนระยะยาว ก็คือสภาพคล่อง การลงทุนในหุ้นนอกตลาดต้องอาศัยเวลาเฟ้นหาบริษัทคุณภาพ พัฒนาต่อยอด และหาช่องทางขายหุ้นทำกำไรอย่างเหมาะสม นักลงทุนจึงควรมีระยะเวลาลงทุนราว  7-ปี แต่นับว่าคุ้มค่าเพื่อแลกกับขุมทรัพย์ชิ้นนี้


แนะนำหน้าที่เกี่ยวข้อง

อสังหาริมทรัพย์...หลุมหลบภัยในยุคดอกเบี้ยขึ้น

แนะนำหน้าที่เกี่ยวข้อง

FED ขึ้นดอกเบี้ยแรง ยังซื้อหุ้นได้ไหม