Top Pick: ปี 2025 ตลาดเหวี่ยงสุดในรอบหลายปี แต่นี่คือพอร์ตที่รอดและชนะ

กดฟัง
หยุด


ปรับลดหุ้นเสี่ยงและเน้นกลุ่ม Defensive: ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง (เช่น เดือน เม.ย.) ทีม K WEALTH CIO ได้มีการปรับลดน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยง (หุ้น) และปรับกลุ่มหุ้นไปสู่กลุ่ม Defensive (เช่น Healthcare, Infrastructure) เพื่อจำกัดความเสี่ยงขาลงของพอร์ต


ทำกำไรตราสารหนี้ไทยและย้ายไปตราสารหนี้โลก: เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางไทยจะลดดอกเบี้ยได้มาก ทำให้ตราสารหนี้ไทยบวก 5% ในครึ่งปีแรก ทีม K WEALTH CIO จึงแนะนำให้นักลงทุน ขายทำกำไรตราสารหนี้ไทยที่มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยปีหน้าน้อยกว่า เพื่อโยกเงินไปลงทุนใน ตราสารหนี้โลก แทน


แนะนำลงทุนหุ้นเทคจีนที่ราคาถูก: ในช่วงเดือน ก.ค. K WEALTH CIO แนะนำให้กลับเข้าลงทุนในหุ้น Tech จีน เนื่องจากมี Valuation ที่ต่ำมาก (PE ประมาณ 10 เท่า) เมื่อเทียบกับโอกาสเติบโต และเห็นสัญญาณการผ่อนคลายมาตรการควบคุมจากรัฐบาลจีน


ลดเวียดนาม เพิ่มเทคเอเชีย: ในเดือน ก.ย. K WEALTH CIO แนะนำให้ ลดการลงทุนในเวียดนาม ลง เนื่องจากตลาดมีความผันผวนสูงจากบัญชีมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น และโยกเงินไปเข้ากลุ่ม Tech เอเชีย (ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน) ผ่าน K-ATECH ซึ่งได้ประโยชน์จากกระแส AI


K-GINFRA ได้ประโยชน์จาก Theme AI Data Center: กองทุน K-GINFRA (กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก) ยังเป็นกองแนะนำต่อเนื่อง เพราะได้รับอานิสงส์จากความต้องการพลังงานที่สูงมากของ Data Center ที่ใช้ประมวลผล AI ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ใน 10 ปีข้างหน้า


แนะนำจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite
  • Core 60% ของพอร์ต ลงทุนในกองทุนผสม K-WealthPLUS Series
  • Satellite 40% ของพอร์ต กระจายการลงทุนไปยังกองทุนแนะนำ เช่น K-CHINA, K-ATECH, K-GHEALTH, K-GINFRA


Back to top