K WEALTH / วิดีโอ / Wealth Management / โค้งสุดท้ายปี 65! เช็คลิสต์ลดหย่อนภาษี พร้อมโอกาสได้ผลตอบแทน
24 พฤศจิกายน 2565
นาที

โค้งสุดท้ายปี 65! เช็คลิสต์ลดหย่อนภาษี พร้อมโอกาสได้ผลตอบแทน


​​​

เราจะพาทุกคนไปสู่เส้นชัยของการลดหย่อนภาษี โดยมาเริ่มกันก่อนเลยว่า

โค้งสุดท้ายของการลดหย่อนภาษี มีค่าลดหย่อนอะไรที่อัพเดทบ้าง 


1. ประกันสังคม จากเดิมที่ลดหย่อนสูงสุด 9,000 บาท เหลือแค่ 6,300 
เพราะว่ามันมีการปรับลดในระหว่างปี แต่ว่าจริงๆมุมนึงเราก็ถูกตัดเงินน้อยลง ซึ่งก็เป็นข้อดี แต่ถ้าในมุมภาษีเรียกว่าเอามาลดหย่อนได้น้อยกว่าที่ควรได้

2. ช้อปดีมีคืน เป็นสิทธิ์ที่ใช้ในตอนต้นปี หลายคนอาจจะสงสัยว่าใช้ตอนไหนยังไงนะ ย้ำอีกทีนะครับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคมจนถึง 15 กุมภาพันธ์ 2565 ดังนั้นตอนนี้ไม่มีสิทธิ์ใช้แล้ว อันนี้แพลนอะไรไม่ได้แล้ว ใช่ 2 ตัวนี้แพลนอะไรไม่ได้แล้ว

3. การแจ้งให้ความยินยอมแก่ทาง บลจ.เพื่อส่งข้อมูลการซื้อกองทุน SSF RMF ให้กับทางสรรพากร
ถ้าไม่แจ้งจะทำให้เราไม่สามารถนำเงิน SSF RMF ในปี 2565 ไปลดหย่อนภาษีได้ และเราต้องแจ้งภายใน 31 ธันวาคม 2565 

3 สิ่งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่รู้ไว้แล้วก็ไปปฏิบัติตามอาจจะแพลนอะไร หรือทำอะไรเพิ่มเติมไม่ได้แล้ว แต่ยังมีส่วนเพิ่มในฐานะที่โค้งสุดท้ายเดือนนี้ อยากจะทำอะไรเพื่อประหยัดภาษีให้ได้เงินคืนภาษีกลับมาเยอะๆ ประกัน และออมและลงทุนยังถือเป็นเรื่องที่ยังจำเป็นอยู่ 

1. ประกันชีวิตลดหย่อนสูงสุด 100,000 บาท 


ในนี้รวมอะไรบ้าง มีประกันชีวิต กับประกันสุขภาพครับแต่ว่าทั้ง 2 ตัวก็จะมีเงื่อนไขแยกย่อยไปอีก แปลว่าประกันชีวิตจัดเต็มหนึ่งแสนก็จบไป แต่ถ้าไม่สามารถจัดเต็มหนึ่งแสนได้อาจจะเอาประกันสุขภาพมาบวกได้อีก 25,000 บาท

2. ออม และลงทุน SSF RMF 500,000 บาท


รวมกัน 500,000 บาทแต่ไม่ใช่แค่ SSF กับ RMF ครับ ต้องรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข, กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ และประกันบำนาญด้วย ทั้งหมดนี้ ห้าแสนบาท แปลว่าถ้าซื้อแล้ว หรือรวมกันแล้วเกิน ห้าแสนเรียกว่าซื้อเกิน ใช้เต็มที่ก็แค่ห้าแสนอยู่ดี เอาสองตัวหลักๆ 

SSF เนี่ยเวลาซื้อ ซื้อได้เพียง 30% ของรายได้ทั้งปี ไม่เกิน 200,000 บาท

RMF 30% ของรายได้ทั้งปีเหมือนกันไม่เกิน 500,000 บาท 

2 ตัวนี้ที่ทำไมเราต้องพูดคำว่า 30 รวมกันแล้วไม่เกินเท่าไหร่เพราะเวลาเราซื้อย้ำเลย พยายามอย่าลงทุนเกินสิทธิ์ ลงทุนเกินสิทธิ์ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณลงทุนเกินสิทธิ์ แน่นอนคุณลดหย่อนได้เท่าที่สิทธิ์ที่คุณมี แต่สิ่งสำคัญลำดับที่ 2 ส่วนที่คุณลงทุนไว้เกินสิทธิ์ เนี่ยเวลาคุณขายคืนกำไรจากการขายต้องเอามาเสียภาษี คือเราคงไม่มีใครลงทุนแล้วแบบภาวนาอยากขาดทุนเนอะ แต่เอาเป็นว่า อีกสิบปีอายุ 55 ส่วนลงทุนส่วนเกินนั้นเกิดกำไรขึ้นมาก็จะมีภาระที่จะคิดเรื่องภาษีต่อนั่นเอง

สำหรับการลงทุนใน SSF หรือ RMF  ในช่วงเวลานี้ที่ตลาดอาจจะดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ผันผวนขึ้นแรง ลงแรง แนะนำการลงทุนใน SSF หรือ RMF  สามารถเลือกลงทุน ในการลงทุนความเสี่ยงต่ำๆได้ การลงทุนในกองทุนรวมตราหนี้มีทั้งหมดมีทุก บลจ. ด้วยไม่ต้องกังวล 

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งเวลาเราจะวางแผนภาษี มันหมายถึงการที่เรา พยายามที่จะดูว่าการถูกหัก ณ ที่จ่าย ไปแล้วมันมากเกินไปหรือไม่ แล้ววางแผนเพื่อดึงเงินที่ไม่จำเป็นกลับคืนมาให้เรา
พอพูดถึงหัก ณ ที่จ่าย ก็คือหลายคน เข้าใจผิดครับว่าถูกหักภาษีให้จ่ายไปแล้วเนี่ยแปลว่าจบแล้ว ไม่ต้องยื่นภาษีชซึ่งจริงๆไม่ใช่ ถูกหักภาษีไว้เนี่ยแปลว่าคุณมีหน้าที่ต้องเอามายื่นภาษีให้ถูกต้อง แล้วก็เอาภาษีหัก ณ ที่จ่ายมา ใช้ในการคำนวณภาษี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มีภาษีหัก ณ ที่จ่ายบางประเภทที่เรียกว่า final tax อธิบายง่าย ๆ คือ เรามีสิทธิเลือกว่าจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้วจบไม่ต้องเอามารวมคำนวนภาษี หรือจะเอามารวมคำนวณภาษีก็ได้

final tax ที่เราเจอกันบ่อย จะมีอยู่สองตัวครับ 

1. คือดอกเบี้ย ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ 15% เลือกได้ว่าจะจบหรือว่าเอามาคำนวณภาษี

2. เงินปันผล ถูกหัก ณ  ที่จ่ายไว้10% ก็เลือกได้เหมือนกันว่าจะจบหรือว่าเอามารวมคำนวณภาษีสิ่งสำคัญคือเลือกให้เหมาะแล้วทำให้เราประหยัดภาษีสูงสุดอันนี้คือสิ่งสำคัญกว่า
เรื่องนี่ได้ใช้อีกทีคือตอนทำเรื่องยื่นภาษีในปีหน้า 


สุดท้าย 3 เทคนิคดีๆเอาไว้ใช้ในการที่ประหยัดภาษี บน SSF RMF 


1. เราควรที่จะใช้บัตรเครดิตในการซื้อกองทุนกลุ่มนี้ เพราะจะช่วยทำให้เราไม่ต้องเสียเงินสดอย่างน้อย 45 วันหรือ 50 วัน มีระยะเวลายืดไปใช่ครับ เวลาลงทุนประหยัดภาษีมันมักจะเป็นเงินก้อนครับใครที่รู้ว่าจะได้โบนัสต้นปีแน่ๆอยู่แล้วใช้บัตรเครดิตรูดไปก่อนก็จะทำให้เราสามารถเปลี่ยนภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

2. ตลาดผันผวนช่วงนี้ ลงทุนให้ตรงกับระดับความเสี่ยงของเราไปเลยตั้งแต่แรก และอยู่กับมันไปยาวๆ แต่ใครก็ตามที่มีเวลาในการติดตามตลาดตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราลงทุนในช่วงนี้ลงทุนความเสี่ยงต่ำๆก่อนได้ ลงกอง KSFRMF KSFSSF ได้เลย ช่วงไตรมาสหนี่ง ช่วงกลางปีหน้ามาดูว่าถ้าตลาด มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นค่อย Switching ก็ได้

3. สำหรับใครก็ตามที่ลงทุนประหยัดภาษีมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราอาจจะมีกองทุน LTF ที่ครบกำหนดอยู่ก็ได้ เอาเงินครบกำหนดก้อนนั้นกลับมารอลงทุนต่อในปีนี้ ก็จะทำให้เราไม่ต้องใช้เงินใหม่ในการลงทุน

อีกเรื่องคือเรื่องของเป้าหมายการเงินของตัวเอง อันนี่สำคัญมากๆเลยต้องรู้ว่าตัวเองจะลงทุนไปเพื่ออะไรอย่างน้อยเครื่องมือทางภาษีเนี่ยมันเป็นตัวช่วยที่ทำให้เรากำกับเวลาเป้าหมายการเงินได้ อย่าง RMF เรารู้เลยว่า 55 ต้องใช้เงินกับอะไรเพื่อเกษียณ หรือถ้ามีเรื่องอื่นแล้ว RMF  พาไปสู่เป้าหมายได้ก็ใช้ได้

SSF ก็ 10 ปีข้างหน้า ระยะยาวมีอะไรอยากทำหรือมีอะไรอยากใช้ก็ใช้ SSF ในการตอบโจทย์ได้ เหมือนกัน วางเป้าไว้ว่าอยากได้เงิน 10 ล้าน SSF ใน 10 ปี พาไปถึง 10 ล้าน ได้ก็จัดไป 

ทั้งนี้ทุกอย่างมันต้องมีการปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงตลอด แผนการเงินเป้าหมายการเงินก็เช่นเดียวกัน หลายคนเจอเรื่องเจอวิกฤต หรือว่าเจอโอกาสทุกอย่างมันปรับเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงได้ก็อย่าลืมทบทวนเป้าหมายการเงินของเราด้วย 

เรียบเรียงเนื้อหา: K WEALTH TRAINER สุนิติ ถนัดวณิชย์ CFP®



วิดีโอโดย K WEALTH TRAINER วีระพล บดีรัฐ

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ

​กองทุนลดหย่อนภาษี SSF RMF​

ดูเพิ่มเติม