ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลลบต่อหุ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงแย่ที่สุดในรอบ 18 เดือน โดยรับ Sentiment ทั้งจากข่าว NVIDIA ยักษ์ใหญ่วงการชิปถูกตรวจสอบ และตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว ทำให้นักลงทุนติดตามตัวเลขตลาดแรงงาน เดือน ส.ค. ที่เปิดเผยไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลกดดัน Sentiment ตลาดหุ้น และกดดันให้หุ้นในทุกอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง และรวมไปถึงกองทุน K-GHEALTH(UH) ที่ปรับตัวลดลง 3.1% ในวันที่ 5 ก.ย. โดยปัจจัยหลักมาจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 1.15% แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นในช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาซึ่งตลาดหุ้นเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย หุ้นในกลุ่ม Healthcare ปรับตัวลดลงน้อยกว่ากลุ่มอื่น
โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 160,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวลงจาก 4.3% มาที่ 4.2% เมื่อประกอบกับตัวเลขตำแหน่งงานเปิดใหม่ เดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้น 7.67 ล้านตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 8.09 ล้านตำแหน่ง จากภาพรวมทั้งหมดส่งให้นักลงทุนกังวลว่าตลาดแรงงานได้มาแตะจุดสูงสุดไปแล้ว และเริ่มเข้าสู่แนวโน้มชะลอตัว กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
มุมมองการลงทุนในปัจจุบัน
ตัวเลขตลาดแรงงานประกอบกับทิศทางดัชนี PMI เริ่มสะท้อนชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว อีกทั้งมูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่สูงโดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี และความกังวลฟองสบู่ในการลงทุน AI ส่งผลให้ K WEALTH จึงเห็นโอกาสสำหรับการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา เช่น หุ้นในกลุ่ม Healthcare และ Infrastructure
สำหรับกองทุนแนะนำ ที่ทาง K WEALTH มีดังนี้
• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GHEALTH* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนในบริษัท Healthcare ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Defensive เช่น Pharmaceutical, Healthcare Services และกลุ่ม Growth เช่น MedTech, Biotechnology
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-VIETNAM* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ลงทุนหุ้นเวียดนามที่รับประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ เช่น บริโภคภายใน การเงิน อุตสาหกรรม
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GINFRA* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ซึ่งลงในบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก เช่น ท่อก๊าซ โรงไฟฟ้า สนามบิน
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-HIT-A(A)* (ระดับความเสี่ยง 6 จาก 8 ระดับ) ซึ่งลงในหุ้น Megatrends สำคัญตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก
o แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-GOLD** (ระดับความเสี่ยง 8 จาก 8 ระดับ) เพื่อรับกับความผันผวนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น หรือกังวลกับความเสี่ยงในการลงทุน
o หากรับความเสี่ยงได้บ้าง หรือเป็นเงินลงทุนที่ถือได้อย่างน้อย 1 ปี ขอแนะนำกองทุนตราสารหนี้ ได้แก่
กองทุน K-FIXED-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศ
กองทุน K-FIXEDPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ในกรณีที่ต้องการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนต่างประเทศหรือรับความเสี่ยงจากการลงทุนต่างประเทศได้
• หากรับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือต้องการหลีกเลี่ยงทางเลือกที่มีความผันผวน หรือต้องการพักเงินสั้นๆ เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง แนะนำ
o กองทุน K-SF-A** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน
o กองทุน K-SFPLUS** (ระดับความเสี่ยง 4 จาก 8 ระดับ) เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bloomberg
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”
*กองทุน K-GHEALTH, K-VIETNAM, K-HIT-A(A) และ K-GINFRA มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
**กองทุน K-FIXED-A, K-FIXEDPLUS, K-SF-A, K-SFPLUS และ K-GOLD มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด