K WEALTH /
บทความ /
Market Update / ประเด็นร้อน: หุ้นเทคโนโลยีเอเชียฟื้นตัวรับอานิสงส์เงินเฟ้อสหรัฐฯตํ่ากว่าคาดการณ์
20 พฤษภาคม 2567
2 นาที
ประเด็นร้อน: หุ้นเทคโนโลยีเอเชียฟื้นตัวรับอานิสงส์เงินเฟ้อสหรัฐฯตํ่ากว่าคาดการณ์
“
• ดัชนี CPI สหรัฐฯ เปิดเผยออกมาเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด เช่นเดียวกับตัวเลข Retail Sales ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งผลดีต่อเนื่องมายังตลาดหุ้นโดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีและตราสารหนี้เอเชีย
• K WEALTH มีมุมมองเป็น Slightly Positive ต่อการลงทุนตลาดหุ้นเอเชีย โดยกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีเอเชียซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทผลิตชิปรับประโยชน์จากคำสั่งซื้อใหม่อีกครั้ง แต่ต้องติดตามปัญหาความไม่สงบทั่วโลกและอัตราเงินเฟ้อที่ยังมีทิศทางไม่แน่นอน ซึ่งพร้อมส่งผลให้ตลาดการลงทุนกลับมาผันผวนได้อีกครั้ง
“
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี CPI สหรัฐฯ เปิดเผยออกมาเพิ่มขึ้น 0.3% (MoM) ต่ำกว่าคาดที่ 0.4% (MoM) พร้อมกับตัวเลข Retail Sales ซึ่งออกมาที่ 0.0% (MoM) ต่ำกว่าคาดที่ 0.4% (MoM) นักลงทุนจึงมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอความร้อนแรงและคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะไม่ดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวไปมากกว่านี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลง ซึ่งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้เอเชียได้รับอานิสงส์ดังกล่าวเช่นกัน
กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีและตราสารหนี้เอเชียรับผลบวกแรง
จากตัวเลขเศรษฐกิจซึ่งเปิดเผยออกมาแล้วช่วยหนุนมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนในตลาดทั้งสหรัฐฯ และเอเชีย โดยกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีและตราสารหนี้เอเชียได้รับอานิสงส์มากที่สุด ส่งผลให้ราคากองทุน ณ วันที่ 16 พ.ค. 2567 มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า ดังนี้ - K-FIXEDPRO +0.25% - JPM Pacific Tech (กองทุนหลัก K-ATECH) +3.20%
มุมมองภาพรวมตลาดหุ้นเอเชีย
K WEALTH มีมุมมองเป็น Slightly Positive ต่อการลงทุนตลาดหุ้นเอเชีย โดยกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีเอเชียซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทผลิตชิปรับประโยชน์จากคำสั่งซื้อใหม่อีกครั้ง หลังบริษัทคู่ค้าใช้เวลาช่วงปีที่แล้วลดสินค้าคงคลังที่สูงเกินระดับปกติและกลับมาทยอยเพิ่มสินค้าคงคลังอีกครั้ง ส่วนระยะสั้นได้รับผลดีจากการคลายความกังวลต่อการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามความไม่สงบในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกที่อาจส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศ รวมไปถึงความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลให้ทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้กลับมาผันผวนได้เป็นระยะในช่วงเวลาต่อจากนี้
คำแนะนำการลงทุน
ด้วยการฟื้นตัวของวัฏจักรการผลิตสินค้าเทคโนโลยีและการค้าโลก ท่ามกลางความไม่แน่นอนของทิศทางอัตราเงินเฟ้อ จึงมีคำแนะนำการลงทุนดังนี้
- สำหรับผู้ที่ถือกองทุน K-ATECH อยู่ แนะนำถือลงทุนต่อได้ โดยแนะนำให้มีสัดส่วนไม่เกิน 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยหากปัจจุบันถือกองทุนในสัดส่วนที่สูง แนะนำหาจังหวะทยอยขายบางส่วนเพื่อลดสัดส่วนลง
- สำหรับผู้ที่ถือกองทุน K-FIXEDPRO อยู่ ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ หากถือลงทุนได้ 1.5 ปีขึ้นไป แนะนำให้ถือต่อได้ แต่หากเป็นการลงทุนระยะสั้นกว่า 1.5 ปี แนะนำพิจารณาสับเปลี่ยนไปลงทุนหรือพักเงินในกองทุนตราสารหนี้ที่มี duration ต่ำกว่าแทน หากปัจจุบันมีกำไรหรือรอจังหวะที่ราคากองทุนปรับตัวขึ้นก่อนก็ได้
สำหรับผู้ที่มีเงินลงทุนต้องการลงทุนเพิ่ม
- ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงสามารถทยอยเข้าลงทุนกองทุน K-GHEALTH, K-EUROPE, K-VIETNAM, K-ASIACV
- ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง เเนะนําทยอยลงทุนกองทุนรวมผสม K-WPSPEEDUP หรือ K-WPBALANCED ซึ่งเหมาะกับการลงทุนในภาวะที่มีความไม่แน่นอนและความผันผวนสูง
- ผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำทยอยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ K-FIXEDPLUS หรือ K-SFPLUS
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Yahoo finance
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”
บทความโดย K WEALTH Trainer