ดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวขึ้นทะลุ 35,000 จุด ครั้งแรกในรอบ 34 ปี
ดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทะลุระดับ 35,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 1990 หรือในรอบเกือบ 34 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อน ผลประกอบการ Fast Retailing เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Uniqlo ที่ดีกว่าคาด และการปรับเกณฑ์การลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีของรัฐบาล
1) เงินเยนอ่อนค่า หนุนหุ้นกลุ่มส่งออก
ค่าเงินเยนอ่อนค่าทะลุระดับ 145 เยนต่อดอลลาร์ หลังค่าจ้างแย่กว่าคาด ทำให้ความหวังของนักลงทุนที่ BoJ จะปรับนโยบายการเงินตึงตัวลดลงไป อีกทั้งเงินเยนที่อ่อนค่ายังส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
2) ผลประกอบการ Fast Retailing เจ้าของ Uniqlo ดีกว่าคาด
นักลงทุนตอบรับผลประกอบการ Fast Retailing เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Uniqlo ไตรมาส 1 ซึ่ง Operating Income หรือรายได้หลังหักต้นทุนสินค้าและการบริหาร อยู่ที่ 147,000 ล้านเยน เพิ่มขึ้นถึง 25% (YoY) และดีกว่าคาดที่ 135,880 ล้านเยน ทำให้มีกำไรสุทธิ 107,800 ล้านเยน จากที่กว่าคาดไว้ 96,090 ล้านเยน โดยรับแรงหนุนจากตลาดเสื้อผ้าต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศจีนที่เติบโตแรงกว่าที่คาดไว้
3) รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเกณฑ์การลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี
เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุน โดยรัฐบาลญี่ปุ่นปรับเกณฑ์การลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีผ่านโปรแกรม Nippon Individual Saving Account program (NISA) เป็นบัญชีเพื่อการลงทุนที่หากใครเปิดตามเกณฑ์ก็จะได้ยกเว้นภาษี Capital gain และปันผล ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนรายย่อยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
มุมมองการลงทุน
K WEALTH มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น ที่รับแรงหนุนจากการบริโภคภายในแข็งแกร่ง ภาคส่งออกเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และยังรับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อน นอกจากนี้การที่ BoJ ยังดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
คำแนะนำการลงทุนกองทุนรวมหุ้นญี่ปุ่น
• การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นญี่ปุ่น เช่น กองทุน K-JPX-A(A) และ K-JP-A(D) มีมุมมอง Slightly Positive โดยมีคำแนะนำ ดังนี้
o นักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นญี่ปุ่น หรือมีแต่สัดส่วนน้อยกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำทยอยสะสมและถือลงทุนต่อได้
o นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนหุ้นญี่ปุ่น และมีสัดส่วนมากกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำให้ทยอยขายบางส่วนเพื่อลดสัดส่วนให้ต่ำกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมากว่า 4%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปรับตัวลงกว่า 4% เมื่อวันจันทร์ที่ 8 ม.ค. หลังซาอุฯ ประกาศลดราคาน้ำมันครั้งใหญ่ และกลุ่มประเทศ OPEC ปรับเพิ่มกำลังการผลิต ส่งให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอ และภาวะน้ำมันล้นตลาด อย่างไรก็ตามวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้น 2% รับข่าวความกังวลจากการที่สหรัฐฯ เปิดการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
ส่งผลให้ล่าสุดราคากองทุน Invesco DB Oil Fund (กองทุนหลักของ K-OIL) ณ วันที่ 11 ม.ค. 67 ปรับตัวขึ้น 1.15%เทียบกับวันทำการก่อนหน้า จนราคากองทุน Invesco DB Oil Fund กลับมาต่ำกว่าวันที่ 8 ม.ค. เพียงเล็กน้อย (ประมาณ 1.2%) ส่งผลให้ราคา NAV กองทุน K-OIL ณ 11 ม.ค. ที่คาดว่าจะประกาศคืนวันที่ 12 ม.ค. จะมีการปรับตัวในทิศทางเดียวกับราคากองทุนหลักเช่นกัน
มุมมองการลงทุน
K WEALTH มีมุมมองเป็นกลางต่อการลงทุนกองทุนรวมน้ำมัน โดยมองว่าอุปสงค์และอุปทานน้ำมันโลกอยู่ในระดับสมดุล สะท้อนผ่านราคาน้ำมันที่เคลื่อนไหวในกรอบ 70-80 ดอลลาร์ต่อบารเรล ซึ่งอาจมีการปรับตัวขึ้นด้วยข่าวความกังวลในตะวันออกกลาง แต่มองว่าเป็นปัจจัยหนุนราคาในระยะสั้น
คำแนะนำการลงทุนกองทุนรวมน้ำมัน
• การลงทุนในกองทุนรวมน้ำมัน เช่น กองทุน K-OIL มีมุมมอง Neutral โดยมีคำแนะนำ ดังนี้
o นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนรวมน้ำมัน และมีสัดส่วนมากกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำให้ทยอยขายบางส่วนเพื่อลดสัดส่วนให้ต่ำกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด
o นักลงทุนที่มีการลงทุนในกองทุนรวมน้ำมัน และมีสัดส่วนน้อยกว่า 30% ของเงินลงทุนทั้งหมด แนะนำถือลงทุนต่อ หรือทยอยขายเพื่อหาโอกาสลงทุนที่น่าสนใจในกองทุนแนะนำอื่น เช่น K-HIT, K-JPX-A(A), K-GINCOME-A(A)
o นักลงทุนที่ยังไม่มีการลงทุนในกองทุนรวมน้ำมัน แนะนำรอจังหวะเข้าลงทุน หาโอกาสลงทุนที่น่าสนใจในกองทุนแนะนำอื่น เช่น K-HIT, K-JPX-A(A), K-GINCOME-A(A)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Investing, CNBC, Bloomberg
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”