อัปเดตข่าว/สถานการณ์
เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2566 ที่ผ่านมา จีนมีการจัดประชุม Politburo ซึ่งเป็นการประชุมผู้บริหารประเทศระดับสูง และมี ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นประธานการประชุม ในที่ประชุมมีการส่งสัญญาณฟื้นฟูอสังหาฯ แก้ไขปัญหาหนี้สินรัฐบาลท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
อุปสงค์ภายในประเทศ (Consumption)
เพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน กระตุ้นการใช้จ่ายกับสินค้าขนาดใหญ่ เช่น รถยนต์ สินค้า อิเล็กทรอนิกส์ และของใช้ในครัวเรือน
อสังหาริมทรัพย์ (Property)
ปรับนโยบายให้เหมาะสมพร้อมมีการใช้มาตรการเฉพาะสำหรับแต่ละเมือง
การลงทุน (Investment)
รัฐบาลมีบทบาทหลักในการลงทุน เร่งออกพันธบัตรพิเศษของรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อกระตุ้นการลงทุน ใช้นโยบายส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน
ระบบการเงิน (Financial System)
มาตรการแก้ไขความเสี่ยงจากปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่น ส่งเสริมการกำกับดูแลสถาบันการเงินขนาดเล็กถึงกลางที่มีความเสี่ยงสูง
เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy)
บูรณาการและพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตและบริการ พัฒนาเทคโนโลยี AI ให้มีความปลอดภัยและส่งเสริม Platform economy
ตลาดทุน (Capital Market)
มีแผนในการกระตุ้นตลาดทุนและฟื้นความเชื่อมั่นนักลงทุน
การท่องเที่ยว (Outbound Travel)
รัฐบาลจะเร่งเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นทันทีที่ข่าวดังกล่าวถูกเปิดเผยออกมา โดยดัชนี CSI 300 ปิดตลาดวันที่ 25/07/66 เพิ่มขึ้น 2.89% ดัชนี A50 ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 3.41% ขณะที่ดัชนี Hang Seng ปรับตัวขึ้นเช่นกันที่ 4.33%
โดยมาตรการเหล่านี้จะส่งผลเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI และอินเตอร์เน็ต หุ้นกลุ่มสายการบินและท่องเที่ยว ส่งผลบวกเล็กน้อยต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ส่วนมาตรการตลาดทุนเป็นผลบวกกับตลาดโดยรวมเล็กน้อย ขณะที่นโยบายการลงทุนส่งผลเชิงบวกเล็กน้อยต่อภาพการลงทุนและการใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนนโยบายเกี่ยวกับระบบการเงินส่งผลลบต่อกลุ่มธนาคาร
มุมมองการลงทุนต่อเศรษฐกิจจีน
KAsset มองว่าโทนของการประชุม Politburo ครั้งนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ที่เน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยังมีการพูดถึงประเด็นที่เป็นความเสี่ยงของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาคอสังหาฯ และปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่น โดยมีการพูดถึงนโยบายทั้งระยะสั้นและยาว นับเป็นการให้นโยบายที่เป็นบวกและเชิงรุกมากขึ้น
แม้จะไม่ได้เป็นมาตรการกระตุ้นขนานใหญ่ แต่บ่อยครั้งที่จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ไม่ต้องรอรอบการประชุม Politburo แต่การประชุมรอบนี้เป็นการประชุมผู้บริหารประเทศระดับสูง ซึ่งเป็นการวางนโยบายภาพใหญ่และไม่ได้มีมาตรการเฉพาะเจาะจงเป็นรูปธรรมในทันที แต่จะมีนโยบายที่เน้นการเติบโตทยอยออกมาหลังการประชุมนี้
โดยสรุปการประชุมนี้จะมีการใช้นโยบายที่เน้นการลดการก่อหนี้ เน้นการควบคุมความเสี่ยง ซึ่งเน้นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ดูแลความเสี่ยงในจุดสำคัญของประเทศ มุ่งเน้นการเติบโตและลดการว่างงานในคนหนุ่มสาว เพิ่มตำแหน่งงาน
มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นจีน
ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน โดยรับแรงหนุนจากนโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้นและมุ่งเน้นการเติบโต ประกอบกับมูลค่าที่น่าสนใจโดยอัตราส่วน P/E ของดัชนี CSI300 ซึ่งอยู่ที่ 12.44 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ 13.81 เท่า ด้านอัตราส่วน P/E ของดัชนี Hang Seng ซึ่งอยู่ที่ 9.66 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ 11.46 เท่า
คำแนะนำการลงทุน
• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ จากปัจจัยสนับสนุนด้านมูลค่าตลาดหุ้นจีนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต พร้อมการส่งสัญญาณใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการประชุมผู้บริหารประเทศระดับสูง จึงแนะนำใช้จังหวะนี้ทยอยซื้อสะสมกองทุน K-CHX และ K-CHINA-A(A)
• ผู้ที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ และต้องการลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนและรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-PLAN2 และ K-PLAN3
• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น และชอบกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศบางส่วน แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-PLAN1 ถือลงทุนอย่างน้อย 9-12 เดือน หรือ K-FIXEDPLUS แนะนำถือลงทุนอย่างน้อย 1 ปี
• สำหรับนักลงทุนที่มีความกังวลต่อความผันผวนของตลาดหุ้น และไม่สามารถรับความเสี่ยงการลงทุนต่างประเทศได้ แนะนำพิจารณาลงทุนกองทุน K-CBOND ถือลงทุนอย่างน้อย 9-12 เดือน หรือ K-FIXED ถือลงทุนอย่างน้อย 1 ปี
• สำหรับผู้ที่ยังกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้น และไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ แนะนำพักเงินในกองทุน K-SF ซึ่งเหมาะกับการลงทุน 1-3 เดือน เพื่อรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้ง หรือกองทุน K-SFPLUS เหมาะกับการลงทุน 3-6 เดือน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก KAsset
Disclaimer: “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน”