- ESG Bond คือหุ้นกู้ที่ผลตอบแทนและความเสี่ยงใกล้เคียงกับหุ้นกู้ทั่วไป แต่มีวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อใช้ในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ ESG หรือการเติบโตอย่างยั่งยืนเท่านั้น
- ESG Bond ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากมูลค่าการออกหุ้นกู้ประเภทนี้ที่โตถึงเกือบ 8 เท่า เมื่อเทียบกับในอดีตเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
- การลงทุน ESG Bond ทางตรงอาจทำได้ยาก แต่สามารถลงทุนทางอ้อมผ่านกองทุนรวม เช่น K-ESGSI-A K-FIXEDPLUS-A ที่ซื้อขายได้ทุกวันทำการ ไม่ต้องถือยาวตามอายุหุ้นกู้ หรือกองทุน K-ESGBF-ThaiESG K-ESGSI-ThaiESG ที่สามารถนำเงินลงทุนไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
ในยุคที่การลงทุนไม่ได้มองแค่ผลตอบแทน แต่ยังต้องคำนึงถึงความยั่งยืน หลายคนอาจสงสัยว่า ESG คืออะไร และทางเลือกการลงทุน “ESG Bond" มีอะไรบ้าง มาหาคำตอบไปกับ K WEALTH กัน
ESG Bond คืออะไร?
ESG เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งย่อมาจาก
- E: Environment สิ่งแวดล้อม เช่น เน้นใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ทั้งในกระบวนการผลิต และการทำงานต่างๆ
- S: Social สังคม เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานให้เกิดเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพพนักงานและชุมชนรอบข้าง
- G: Governance ธรรมาภิบาล เช่น สร้างระบบกำกับดูแลกิจการ การดำเนินงานที่โปร่งใส และมีการดูแลผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย
ESG Bond หรือ “ตราสารหนี้ยั่งยืน" เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการ ลงทุนตราสารหนี้ พร้อมสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่ม Green Bond ที่เน้นการใช้เงินทุนเพื่อโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่ง ESG Bond ก็คือตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ ที่มีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ย และมีข้อมูลชี้วัดระดับความเสี่ยงอย่างอันดับความน่าเชื่อถือหรือความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้เหมือนกับหุ้นกู้เอกชนทั่วไป จะเหมือนหุ้นกู้ที่ผู้ลงทุนเคยลงทุนกันอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่ต่างกันที่วัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน โดย
- Bond หรือหุ้นกู้ทั่วไป สามารถเสนอขายเพื่อนำเงินไปใช้ในเรื่องใดๆ ของกิจการก็ได้ เช่น ปิดหนี้เดิม เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือขยายกิจการ เป็นต้น
- ESG Bond หรือตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน การเสนอขายต้องมีวัตถุประสงค์การระดมเพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตอย่างยั่งยืน การพัฒนาสิ่งแวดล้อม สังคม และการมีบรรษัทภิบาลที่ดี เท่านั้น ซึ่ง ThaiBMA หรือสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ได้แบ่ง ESG Bond ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
- ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond)
- ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม (Social Bond)
- ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond)
- ตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond)
ESG Bond กับความนิยมที่เพิ่มขึ้น
จากข้อมูลการออก ESG Bond ที่มีการลงทะเบียนไว้กับ ThaiBMA พบว่ามูลค่าการออกหุ้นกู้ใหม่ 23,000 ล้านบาท ในปี 2562 (ค.ศ. 2019) ได้มีการเพิ่มขึ้นสูงสุดจนเป็นปีละ 214,092 ล้านบาทในปี 2565 (ค.ศ. 2022) และแม้หลังจากนั้นจะมีการออก ESG Bond ลดลงบ้าง แต่ก็ยังมีการออกที่สูงถึง 182,404 ล้านบาท ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2568 (ค.ศ. 2025) หรือคิดเป็นเกือบ 8 เท่า ของการออก ESG Bond ในปี 2562
หากพิจารณามูลค่า ESG Bond ที่คงเหลือในตลาด ก็พบว่ามีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 23,000 ล้านบาท ในปี 2562 (ค.ศ. 2019) เป็น 959,159 ล้านบาท ณ วันที่ 1 ธ.ค. 2568 (ค.ศ. 2025) สะท้อนถึงความนิยมในการถือลงทุน ESG Bond ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งอาจมาจากการลงทุนทางตรง คือ ผู้ลงทุนจองซื้อ ESG Bond ผ่านผู้จัดจำหน่าย เช่น ธนาคาร แอปพลิเคชัน ฯลฯ หรือจากการลงทุนทางอ้อม คือ ผู้ลงทุนซื้อกองทุนรวมทั้งที่เป็นกองทุนรวมทั่วไป หรือกองทุนลดหย่อนภาษี

ที่มา: ThaiBMA ณ 1 ธ.ค. 68
สำหรับความน่าเชื่อถือหรือ Credit Rating ของหุ้นกู้ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ผู้ลงทุนมักใช้ตัดสินใจลงทุน พบว่าจาก ESG Bond จำนวน 162 รุ่น มีจำนวนมากถึง 109 รุ่น และมีมูลค่าคิดเป็น 90%ของมูลค่า ESG Bond ทั้งหมด ที่ออกโดยกระทรวงการคลังหรือรัฐวิสาหกิจ หรือเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A ขึ้นไป ซึ่งถือว่ามีอันดับความน่าเชื่อถือสูง มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ ดังนั้นหากผู้ลงทุนเลือกลงทุน ESG Bond ไม่ว่าจะลงทุนหุ้นกู้ทางตรงหรือลงทุนผ่านกองทุนรวม ก็มักเป็น ESG Bond คุณภาพดี มี Credit Rating สูง

ที่มา: ThaiBMA ณ 1 ธ.ค. 68
หากพิจารณาอายุคงเหลือของ ESG Bond แล้ว พบว่ามูลค่าของหุ้นกู้ส่วนใหญ่ จะมีอายุคงเหลือ 10 ปีขึ้นไป ดังนั้นการลงทุน ESG Bond จึงมักเป็นการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนผ่านกองทุนรวม

ที่มา: ThaiBMA ณ 1 ธ.ค. 68
โดยผู้ออก ESG Bond หลายองค์กร เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป เช่น
- BEM บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ ปัจจุบันมี ESG Bond ในตลาด 19 รุ่น
- GH Bank ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ปัจจุบันมี ESG Bond ในตลาด 17 รุ่น
- BTS บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ปัจจุบันมี ESG Bond ในตลาด 13 รุ่น
ทางเลือกการลงทุน ESG Bond
การลงทุนใน ESG Bond มีทางเลือก ที่ไม่ได้ต่างจากหุ้นกู้ทั่วไป นั่นคือ “การลงทุน ESG Bond โดยตรง" ด้วยการรอประกาศจองซื้อผ่านผู้จัดจำหน่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูล ESG Bond จำนวน 162 รุ่น มีเพียง 12 รุ่นเท่านั้น ที่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ (PO) โดย 2 ที่ผ่านมา เปิดจองเพียง 3 รุ่นเท่านั้น ได้แก่ ปี 2568 จำนวน 1 รุ่น และปี 2567 จำนวน 2 รุ่น

ที่มา: ThaiBMAณ1ธ.ค.68
การลงทุน ESG Bond ผ่าน “กองทุนรวม" ซึ่งแบ่งได้เป็น (1) กองทุน Thai ESG
- เนื่องจาก ESG Bond ส่วนใหญ่ มีอายุคงเหลือ 5 ปีขึ้นไป การลงทุนผ่านกองทุน Thai ESG ตราสารหนี้ ถือเป็นทางเลือกที่นอกจากมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว ยังสามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
- โดยในแต่ละปีสามารถลงทุนกองทุน Thai ESG ได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยหน่วยลงทุนหรือเงินที่ลงทุนแต่ละครั้ง ต้องถือไว้อย่างน้อย 5 ปีเต็ม ปัจจุบัน K WEALTH มี 2 ทางเลือกกองทุนตราสารหนี้ Thai ESG มาแนะนำ
กองทุน K-ESGBF-ThaiESG (กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ ESG ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน)
- มีความเสี่ยงกองทุนระดับ 4 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล คาดว่าจะมีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ที่ลงทุนประมาณ 3-7 ปี มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
- เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการเห็นมูลค่าเงินลงทุนผันผวนมากนัก (คาดว่าผันผวนน้อยกว่า K-ESGSI-ThaiESG) และมั่นใจใน ESG Bond ที่เป็นหุ้นกู้เอกชน
- กองทุน K-ESGSI-ThaiESG (กองทุนเปิดเค ตราสารภาครัฐ ESG ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน)
มีความเสี่ยงกองทุนระดับ 3 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล มีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ที่ลงทุน 10 ปี 2.16 เดือน (ณ 31 ต.ค. 68) มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
เหมาะกับผู้ที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐเป็นหลัก หรือผู้ที่ยังมีความกังวลในการลงทุนหุ้นกู้เอกชน
หรือ (2) กองทุนตราสารหนี้ทั่วไป ที่ไม่มีข้อผูกมัดเรื่องระยะเวลาการลงทุน สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ โดยหลังการขายคืน รอประมาณ 2 วันทำการ ก็จะได้รับเงินค่าขายคืน เช่น
กองทุน K-ESGSI-A (กองทุนเปิดเค ตราสารภาครัฐ ESG ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป)
มีความเสี่ยงกองทุนระดับ 3 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล มีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ที่ลงทุน 10 ปี 2.16 เดือน (ณ 31 ต.ค. 68) มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
มีนโยบายการลงทุนใกล้เคียงกับ K-ESGSI-ThaiESG แต่ไม่ใช่กองทุนลดหย่อนภาษี จึงเหมาะกับผู้ที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐเป็นหลัก หรือผู้ที่ยังมีความกังวลในการลงทุนหุ้นกู้เอกชน โดยไม่ต้องการลดหย่อนภาษี หรืออาจมีความจำเป็นต้องใช้เงินระหว่างการลงทุน
- กองทุน K-FIXEDPLUS-A (กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ พลัส ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป)
มีความเสี่ยงกองทุนระดับ 4 เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ มีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ที่ลงทุน 2 ปี 10.32 เดือน (ณ 31 ต.ค. 68) ซึ่งสั้นกว่า K-ESGSI-A ความผันผวนของราคาจึงมักต่ำกว่าด้วย มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
แม้นโยบายเน้นลงทุนตราสารหนี้ทั่วไป ไม่ได้เน้น ESG Bond เป็นหลัก แต่ก็เป็นกองทุนที่ได้รับ ESG Risk Rating ที่ Score ระดับ 4 (จาก 5 ระดับ) จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุน ESG Bond ได้
เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการลดหย่อนภาษี หรืออาจมีความจำเป็นต้องใช้เงินระหว่างการลงทุน
การลงทุน ESG Bond ไม่เพียงเป็นการเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนด้วยผลตอบแทนและลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน Thai ESG แต่ยังเป็นการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนโลกไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว ด้วยการสร้างผลตอบแทนควบคู่กับการสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม หากต้องการให้เงินเติบโตอย่างมั่นคง พร้อมร่วมสร้างอนาคตที่ดีให้กับโลกใบนี้ ESG Bond คือคำตอบที่สำหรับคุณ