19 มีนาคม 2564 3 นาที

ใครจะไปเชื่อว่า พฤติกรรม “ช็อปกระจาย” ของสาวจีนกลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญ ที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจจีนโตสวนทางกับทั่วโลกท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 และขึ้นแท่นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธ แถมยังส่งต่อโอกาสรวยมาสู่นักลงทุนไทยด้วย

ตลอดปีที่ผ่านมา ในขณะที่ตลาดของหรูในอเมริกาเหนือและยุโรปหดตัวราว 50%-75% ตลาดสินค้า Luxury Brand ในจีนกลับขยายตัวได้เกือบ 50% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ1 โดยมีผู้หญิงจีนยุคใหม่วัย 20-40 ปีทุ่มเปย์ให้ไม่อั้น พวกเธอเป็นผู้บริโภคที่ทรงอิทธิพลจนแบรนด์ดังทั้งหลายล้วนจับตาและให้สมญาว่า “Little Sisters”

ด้วยพื้นฐานการศึกษาที่ดีมีฐานะทางสังคมและหน้าที่การงานที่สูงขึ้น แถมรายได้ก็อู้ฟู่ เมื่อโควิดพ่นพิษและเป็นอุปสรรคขัดขวางการบินไปท่องเที่ยวใช้เงินคืนกำไรให้ชีวิต ก็เหลือแต่การช็อปแบรนด์ดังนี่แหละที่เป็นวิธีสลายความเซ็ง จนบรรดานักการตลาดคาดว่าตลาดสินค้าแบรนด์เนม ระดับไฮเอนด์ในจีนจะยังคงทะยานต่อไป และในปี 2567 กำลังซื้อจากจีนประเทศเดียวจะมีสัดส่วนสูงถึง 65% ของกำลังซื้อสินค้าหรูจากทั่วโลก2

สาวจีนช็อปกระจาย แล้วทำไมสาวไทยถึงได้โอกาสรวย???

อย่างที่บอกไปแล้วว่าพลังช็อปของสาวจีนมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนซึ่งพึ่งพาการบริโภค ภายในประเทศเป็นหลัก แม้จีนจะมีประชากรชายมากกว่าหญิง แต่สัดส่วนการซื้อสินค้า 3 ใน 4 ของการบริโภคในประเทศทั้งหมดกลับมาจากผู้หญิง


พวกเธอกลายเป็นผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อภาคธุรกิจอย่างมหาศาลและได้สร้างวงล้อเศรษฐกิจใหม่ที่อิงกับการจับจ่ายใช้สอยของหญิงชาวจีนหรือ “Sheconomy”

ขึ้นมาได้อย่างน่าจับตา แม้กระทั่งสินค้าที่เคยมีผู้ชายเป็นลูกค้ารายใหญ่ก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยกำลังซื้อของกลุ่ม Little Sisters ซึ่งไม่ใช่แค่ Luxury Brand เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงตลาดสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สินค้าปลอดภาษี เวชสำอาง รวมถึงอีคอมเมิร์ซ วิดีโอสตรีมมิง และเกมออนไลน์ ทั้ง Alibaba และ JD.com ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ รวมถึงแอปพลิเคชันวิดีโอสตรีมมิงชื่อดังของจีนอย่าง Bilibili และ Vipshop ต่างก็มีผู้ใช้งานหลักเป็นกลุ่ม Little Sisters ในขณะที่ Tencent และ NetEast ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ ซึ่งเดิมทีมีลูกค้าหลักเป็นผู้ชาย เริ่มมีสัดส่วนผู้ใช้บริการที่เป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้นอย่างน่าจับตา กล่าวกันว่ายอดการจับจ่ายต่อปีของผู้หญิงจีนจะเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 3.3 ล้านล้านหยวน เป็น 8.6 ล้านล้านหยวนได้ภายในปี 25653

ในขณะที่สาวจีนยังคงช็อปกระจายอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดละ และ IMF ก็คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจจีนจะเติบโตกว่า 8% แซงหน้าเศรษฐกิจทั้งโลกที่โตได้เพียง 5.5% ลองคิดกันเล่นๆ ว่าหากบรรดาสาวไทยสายช็อปมาเหนือเมฆด้วยการเข้าไปลงทุนในหุ้นจีนเพื่อรอคว้าโอกาสทำกำไรจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่ยังคงแข็งแกร่งด้วยการเดินหน้าบรรลุแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ แถมยังมีแรงซื้อมหาศาลของเหล่า Little Sisters เป็นแรงหนุน.... สายช็อปไทยที่เข้าไปลงทุนเหล่านั้นจะมีโอกาสได้รับผลตอบเเทนมาช็อปแบรนด์เนมต่ออีกขนาดไหน

หากสนใจลงทุนในหุ้นจีนและพร้อมสำหรับการลงทุนระยะยาว แต่ยังไม่เชี่ยวชาญเรื่องการลงทุน หรือไม่มีเวลาติดตามสภาวะตลาดมากนัก การลงทุนในกองทุนหุ้นจีนก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

เพราะเลือกลงทุนกองทุนเดียวก็มีโอกาส
รับผลตอบแทนจากหุ้นจีนที่ได้ประโยชน์จาก
พลังช็อปของสาวจีนตั้งหลายตัว

คราวนี้ เชิญสาวจีนช็อปกันไป...เอาให้สาแก่ใจ ยิ่งช็อปเท่าไหร่ เศรษฐกิจและหุ้นจีนที่ได้ประโยชน์ จาก Sheconomy ก็ยิ่งมีโอกาสโตมากขึ้นเท่านั้น ส่วนหญิงไทยสายช็อปที่ไม่ได้เปย์ให้เฉพาะ สินค้าแบรนด์หรู แต่แอบผันตัวไปเป็นนักลงทุนด้วยก็คงได้เบิกบานใจ เพราะพลอยได้โอกาส รับผลกำไรจากหุ้นจีนไปต่อยอด wish list ใหม่ให้ตัวเองด้วย

ข้อมูลอ้างอิง

  1. STYLE’s Inside Luxury column South China Morning Post, www.scmp.com
  2. China Luxury Report, https://www.mckinsey.com
  3. HSBC, Mar 2020
บทความโดย บลจ.กสิกรไทย
แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สำรวจว่าคุณ
เป็นนักลงทุนแบบไหน
คลิก

ให้เราแนะนำตัวเลือกการลงทุนที่เหมาะกับคุณ

ดูเพิ่มเติม