19 มีนาคม 2564 4 นาที

เมื่อโควิดยังอยู่ในชีวิตของคนทั่วโลกที่เริ่มปรับโหมดการใช้ชีวิตยุค Social Distancing นี่คือ 5 วิธีใช้ชีวิตให้ Spark Joy ในวันที่เรายังหาคำตอบไม่ได้ว่า โควิดจะอยู่ในชีวิตเรา อีกนานแค่ไหน

#1 Tidying Up

ตอนนี้ส่วนใหญ่เริ่มปรับมาใช้ชีวิตแบบทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from Home กันแล้ว และ น่าจะกลายเป็นกิจวัตรประจำปี 2021 บริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งในโลกได้ประกาศว่าจะให้พนักงาน ทำงานที่บ้านต่อไป เช่น Facebook และ Twitter หลายคนถือโอกาสเริ่มจัดระเบียบทำบ้านให้ เป็น Home Office เหมาะทั้งใช้ชีวิตและทำงาน เพราะวิถีชีวิตแบบนี้อาจวนเวียนอยู่กับเราไปอีก หลายปี


มาริเอะ คนโด (Marie Kondo) เจ้าของซีรีย์ Tidying Up With Marie Kondo บน Netflix และได้ชื่อว่าเป็น Tidying-Expert บอกว่า “เป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย และเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้ใช้เวลากับบ้าน กับพื้นที่ของเราอย่างรู้คุณค่า และได้จัดระเบียบข้าวของต่างๆ เช่นกัน”

มาริเอะ บอกว่า การจัดบ้าน ไม่ใช่ถามว่า “จะทิ้งอะไร” แต่เป็น “จะเก็บอะไรไว้” หรือที่เรียกว่า ‘Spark Joy’ คือ เวลาที่เราหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมา แล้วของสิ่งนั้นยังทำปฏิกิริยาอะไรกับหัวใจ เราอยู่หรือเปล่า หรือมีเยื่อใยที่ไม่อยากทิ้งมันไปอยู่ไหม แก่นสำคัญของการจัดบ้าน นอกจากจะ เป็นระเบียบแล้ว ยังทำให้เราได้อยู่ท่ามกลางของที่ชอบ และคำถามที่เป็นกุญแจสำคัญของการ จัดบ้านคือ เราอยากมีชีวิตอยู่ท่ามกลางของแบบไหน

ส่วนเคล็ดลับการทำงานที่บ้านคือ การจัดวางสิ่งต่างๆ ในที่ที่ช่วยให้เราแยกสถานที่ทำงาน (Workspace) กับสถานที่ส่วนตัว (Personal Place) ออกจากกันได้แนะนำให้นั่งทำงานบนพื้น ที่แข็งๆ เช่น โต๊ะทำงาน หรือโต๊ะทานข้าวแต่ถ้าเป็นบ้านที่พื้นที่จำกัดและไม่ได้แยกพื้นที่เป็น สัดส่วน เมื่อเลิกงานแล้วให้เก็บอุปกรณ์ทำงานทั้งหมดลงในกล่อง แล้วหากิจกรรมง่ายๆ ทำคลายเครียด เพื่อทำให้บรรยากาศบ้านกลับมาเป็นพื้นที่สบายๆ อีกครั้ง

#2 Shopstreaming

ถึงแม้ต้องเลี่ยงอยู่ในที่แออัดและรักษาระยะห่างระหว่างกัน แต่ดิจิทัลเทคโนโลยีในยุคนี้ก็ทำให้ การช้อปปิ้งจบได้ง่ายๆ ในคลิ๊กเดียว หลายคนสนุกกับการกดคอนเฟิร์มรัวๆ กลายเป็น Thing to Do ประจำวันให้บรรเทาใจกัน แถมมีบริการครบทุกรูปแบบทั้ง Call & Shop, Drive Thru, Chat & Shop, Click & Collectจ่ายเงินกันง่ายๆ ด้วยโมบายแบงกิ้งที่กดไม่กี่ครั้งก็ปิดดีล รอรับของส่งถึงหน้าบ้าน

ในขณะที่ฟากของคนขายบนช่องทางโซเชียล มีเดีย ก็มีความสนุกๆ เพลินตาเพลินใจ อย่างที่จีน มีแม่ค้าออนไลน์ชื่อ Huang Wei หรืออีกชื่อว่า Viya ได้ฉายาว่าเป็น The World’s Live Stream Queen ที่ Live ขายทุกสิ่งอย่างตั้งแต่เครื่องสำอางไปจนถึงกระดิ่ง หรือแม้กระทั่งรถ กับบ้าน Viya เลือกใช้สารพัดเครื่องมือกับวิธีการที่ถูกจริตชาวโซเชียลขายจนกลายเป็นแม่ค้า ออนไลน์ที่ทรงพลังมากที่สุดของจีน ทำสถิติคนดูกว่า 37 ล้านคน กวาดยอดขายได้กว่า60,000 ล้านดอลลาร์ รายได้ที่เธอทำมากกว่ารายได้ของภาพยนตร์ Game of Thrones เสียอีก

#3 Cooking Craft

การได้อยู่กับบ้านเป็นเวลาค้นพบสกิลใหม่ๆ ได้เหมือนกัน หลายคนเริ่มหันมาฝึกทำอาหาร เข้า ครัวกันมากขึ้น โลกโซเชียลพากันแชร์เมนูอาหารทำเองง่ายๆ ให้ตามไปเก็บไอเดีย ถ้าจะให้ง่าย ไปกว่านั้น ก็สั่ง Meal Kits เป็น DIY แพคเครื่องปรุง พร้อมสูตรให้ให้ทำเองแต่อร่อยเหมือน นั่งกินที่ร้าน หรือจะซื้อแบบทำสำเร็จมาแล้วก็ได้โดยเฉพาะพวกกาแฟ ชานมไข่มุก ถ้าอยากบิ้วด์ อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในร้านจริงๆ หลายร้านก็ไอเดียบรรเจิด ขายอาหารพร้อมอุปกรณ์การกิน เช่น หม้อสุกี้ หม้อชาบู หรือเตาปิ้งย่าง เรียกว่า อยากกินแบบไหน มีทุกรูปแบบพร้อมเสิร์ฟให้ ได้อิ่มหนำสำราญกันถ้วนๆ

#4 Staycation

Staycation เป็นคำที่่่นักแสดงตลกชาวแคนาดาชื่อ เบรนต์ บัตต์ (Brent Butt) เป็นคนคิดขึ้น มา เขาพูดคำนี้ในรายการโทรทัศน์ชื่อ Corner Gas ตั้งแต่ปี 2005 ใครจะคิดว่าผ่านมาอีก 16 ปี คำนี้กลับมาฮิตขึ้นเทรนด์อีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ จึงเกิด “Staycation” ซึ่งก็คือการใช้วันลาพักร้อนเหมือนเวลาเที่ยวต่างประเทศแต่เป็นการเดิน ทางและเข้าพักในพื้นที่ใกล้ๆ บ้าน หรือจังหวัดใกล้ๆ ที่เราไม่มักจะไม่เข้าไปชมหรือเข้าร่วม กิจกรรม ทั้งๆ ที่ยังมีอะไรที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่อีกเยอะมาก

Forbes แนะนำว่า เราสามารถ ‘ตั้งเป้า’ ไว้ก่อนได้ ว่าเราจะสำรวจพื้นที่ในท้องถิ่นของเราอย่างไร เช่น จะสำรวจในเชิงศิลปะ ธรรมชาติ หรือประวัติศาสตร์ แล้วลองใช้ ‘สายตา’ แบบนั้นในการ มอง จะทำให้เราได้ข้อมูลใหม่ๆในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น เที่ยวชมวัดบน เกาะรัตนโกสินทร์ ก็เข้าพักโรงแรมหรือโฮสเทลละแวกนั้น แล้วออกเดินสำรวจลัดเลาะซอกซอย ในที่ที่เราไม่เคยมีเวลาเข้าไป Staycation ยังเป็นตัวช่วยเยียวยาสภาพเศรษฐกิจได้ เพราะทำให้ เงินไหลเวียนในชุมชน แล้วต่อให้เราใช้เงินมากกว่าภาวะปกติในชีวิตยังไงก็ไม่มากกว่าการไปเที่ยว ต่างประเทศ

#5 MoneyMatters

บทเรียนจากโควิดที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ยิ่งรู้ว่าเงินทองเป็นสิ่งสำคัญทุกคนได้รับผลกระทบ กันทั้งนั้น แม้กระทั่งเจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่น และเป็นบรรณาธิการบริหารด้านเนื้อหาของสำนัก พิมพ์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง แอนนา วินทัวร์ (Anna Wintour) ยังถูกลดเงินเดือน 20% จากเหตุการณ์นี้

เห็นได้ชัดๆ ว่า คนที่รอดจากปีที่แล้วมาได้ (บ้าง) คือ
คนที่พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง และไม่ได้มีหนี้มากเกินกำลัง

เหมือนกับคำแนะนำที่เราคุ้นตาคุ้นหู้กันว่า ควรมีเก็บสำรองไว้ใช้จ่ายเวลาจำเป็นอย่างน้อย 6 เดือนของรายจ่ายในแต่ละเดือน และจ่ายหนี้ไม่เกิน 40% ของรายได้ ถ้าจะให้ดี ควรจัดสรรเงิน มาลงทุนในแบบที่เสี่ยงไม่มาก เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้หรือประกันแบบสะสมทรัยพ์ เพื่อ เป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิต เนื่องจากการลงทุนประเภทนี้มีโอกาสสูญเสียเงินลงทุนค่อน ข้างต่ำ นอกจากนี้ ถ้าเป็นไปได้ การมีรายได้จากทางอื่นนอกจากเงินเดือน ก็จะช่วยให้พร้อมรับ มือกับความไม่แน่นอนได้

ข้อมูลอ้างอิง

แชร์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สำรวจว่าคุณ
เป็นนักลงทุนแบบไหน
คลิก

ให้เราแนะนำตัวเลือกการลงทุนที่เหมาะกับคุณ

ดูเพิ่มเติม