โทรศัพท์พัง อยากได้ของใหม่ แต่รายจ่ายต่อเดือนเยอะ ใช้บัตรอะไรผ่อนโทรศัพท์ดี บทความนี้มีคำตอบ ระหว่างบัตรกดเงินสด VS. บัตรเครดิต บทความนี้จะมาแนะนำบัตรกดเงินสด และบัตรเครดิตว่าคืออะไร มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร เลือกบัตรอะไรดี ที่เหมาะกับการผ่อนโทรศัพท์ใหม่ รวมถึงวิธีการคำนวณหนี้ที่เหมาะสม พร้อมกับข้อควรระวังอะไรในการใช้บัตรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ!
อยากผ่อนโทรศัพท์เครื่องใหม่ต้องรู้! เปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ตอนไหนให้คุ้มค่า ไม่เสียดายเงิน โดยพิจารณาโทรศัพท์จากปัจจัยการใช้งานหลักๆ ดังนี้
โดยทั่วไปแล้วหากอยากผ่อนโทรศัพท์แบบไม่กระทบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน ผู้ผ่อนควรมีหนี้ไม่เกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อให้มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าบ้าน ค่ารถ ค่ากินอยู่ ค่าเดินทาง หรือค่ารักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน โดยมีวิธีคำนวณการผ่อนโทรศัพท์ ดังนี้
หากมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,000 บาท
ควรมีหนี้ไม่เกิน 30% ของรายได้ 30,000 X 0.3 = 9,000 บาท
ดังนั้น ผู้ที่มีเงินเดือน 30,000 บาท หากอยากผ่อนโทรศัพท์ ก็ควรเลือกผ่อนไม่เกิน 9,000 บาทต่อเดือน โดยรวมหนี้อื่นๆ แล้ว เพื่อให้มีความสามารถในการจ่ายหนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงตัวอย่างวิธีคำนวณการผ่อนโทรศัพท์แบบคร่าวๆ เท่านั้น ควรพิจารณาหนี้สินที่มีอยู่ประกอบ ร่วมกับเงินที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละเดือนด้วย แล้วปรับเพิ่มหรือลดได้ตามความเหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้นั่นเอง
บัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบทั้ง 2 ตัวเลือกจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมกับสถานะทางการเงินของคุณ โดยสามารถทำตารางเปรียบเทียบบัตรกดเงินสด VS บัตรเครดิต สำหรับใช้ในการผ่อนโทรศัพท์ได้ดังนี้
คุณสมบัติของบัตร | บัตรกดเงินสด | บัตรเครดิต |
---|---|---|
วงเงินกู้ | ชำระเงินต้นครบ ได้วงเงินคืน ไม่ต้องขออนุมัติใหม่ | ชำระเงินต้นครบ ได้วงเงินคืน ไม่ต้องขออนุมัติใหม่ |
การคิดดอกเบี้ย | ดอกเบี้ยรายวัน ลดต้น ลดดอก (นับตั้งแต่วันที่กดเงิน) | ดอกเบี้ยตามยอดที่ใช้จ่ายแต่ละเดือน และยอดคงค้าง |
ยอดชำระชำระเงินคืนขั้นต่ำ | 5% | 10% |
อัตราดอกเบี้ย | ไม่เกิน 25% ต่อปี | ไม่เกิน 16% ต่อปี |
ผ่อนชำระสินค้าได้นานสุด | สูงสุด 36 เดือน | สูงสุด 12 เดือน |
ค่าธรรมเนียมเบิกเงินสด | ไม่มี | 3% ของจำนวนเงินที่เบิก (บวกเพิ่ม Vat 7%) |
บัตรกดเงินสด คือบัตรสำหรับกู้ยืมเงินสดจากทางธนาคาร โดยธนาคารจะเป็นผู้กำหนดวงเงินกู้สูงสุดที่สามารถทำได้ทั้งกดเงินสดและผ่อนชำระสินค้า โดยตัวบัตรกดเงินสดจะแตกต่างจากบัตรเครดิต ดังนี้
ด้วยคุณสมบัติของบัตรที่ให้ผู้ถือบัตรผ่อนชำระได้นานสูงสุด 36 เดือน หนี้ชำระรายเดือนจึงต่ำกว่าบัตรเครดิต และยังเหมาะสำหรับการผ่อนชำระสินค้าที่มีราคาสูง เช่น ผ่อนโทรศัพท์ ผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เป็นต้น
บัตรเครดิต คือบัตรที่ให้วงเงินสินเชื่อล่วงหน้า เพื่อใช้ในการซื้อสินค้าหรือบริการ โดยจะสามารถใช้จ่ายได้ตามวงเงินที่กำหนด และชำระคืนในภายหลัง โดยมักมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยประมาณ 45-55 วัน โดยบัตรเครดิตจะแตกต่างจากบัตรกดเงินสด ดังนี้
อย่างไรก็ตาม บัตรเครดิตยังมีข้อจำกัดที่การผ่อนชำระขั้นต่ำต้องเริ่มที่ 10% และต้องผ่อนชำระภายใน 12 เดือน ทำให้ผู้ที่ต้องการผ่อนโทรศัพท์ผ่านบัตรเครดิตต้องมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนนั่นเอง
การเลือกผ่อนโทรศัพท์ผ่านบัตรกดเงินสด อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าบัตรเครดิตสำหรับหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นทางการเงิน และระยะเวลาผ่อนชำระที่นานกว่า
บัตรกดเงินสดสามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ ได้ในแบบไม่เสียดอกเบี้ย หรืออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และยังมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานถึง 36 เดือน ทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระหนี้แต่ละเดือนได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อโทรศัพท์ที่สามารถใช้ได้นานๆ เพราะสามารถซื้อโทรศัพท์ที่มีคุณภาพดีที่มีราคาสูงได้ แม้ว่าจะไม่มีเงินก้อนใหญ่พอในการจ่ายครั้งเดียวทั้งจำนวน
ยกตัวอย่างการผ่อนโทรศัพท์ผ่านบัตรกดเงินสด VS. บัตรเครดิต หากผ่อนโทรศัพท์ราคา 30,000 ดอกเบี้ย 0% สามารถทำตารางเปรียบเทียบได้ ดังนี้
จะเห็นได้ว่าถ้าใช้บัตรกดเงินสดผ่อนโทรศัพท์จะมีส่วนต่างค่างวดถึง 1,666 บาทเลยทีเดียว ทำให้เรามีเงินเก็บ หรือนำเงินไปหมุนใช้ได้สบาย
หากใช้บัตรกดเงินสดเบิกถอนเงินสดออกมาใช้ การชำระคืนขั้นต่ำอยู่ที่ 5% ของยอดเงินตามใบแจ้งยอดแต่ไม่ต่ำกว่า 500 บาท ถือว่าน้อยมาก ช่วยแบ่งเบาภาระรายเดือนไปได้เยอะเมื่อเทียบกับการใช้บัตรเครดิตที่มีการชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 10% ของยอดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
การสมัครบัตรกดเงินสดก็สมัครง่าย ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ช่วยให้อนุมัติได้ไว สามารถนำไปใช้ผ่อนโทรศัพท์ หรือผ่อนของที่อยากได้ รวมถึงสามารถกดเงินสดไปใช้ยามจำเป็นได้ทันทีหลังทำบัตร เป็นตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ที่ถือบัตรได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากสินเชื่อส่วนบุคคลที่มักต้องใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัตินานกว่า
* ขึ้นอยู่กับยอดคงค้างชำระในใบแจ้งหนี้จำนวนใดจะสูงกว่า
สำหรับผู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน บัตรกดเงินสดเป็นทางเลือกที่นำมาใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงการผ่อนโทรศัพท์ได้อย่างตอบโจทย์ เพราะไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ก็สามารถขอใช้บัตรกดเงินสดได้เลย
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเลือกใช้บัตรกดเงินสด หรือบัตรเครดิต เป็นบัตรผ่อนโทรศัพท์เครื่องใหม่ ก็ต้องระวังในการใช้งาน ดังนี้
เมื่อมีบัตรกดเงินสด หรือบัตรเครดิตอยู่ในมือ ผู้ถือบัตรอาจจะรู้สึกว่าตนเองมีกำลังทรัพย์ที่มากขึ้น อย่างการใช้ผ่อนของใช้ต่างๆ อย่างไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เกินความสามารถในการชำระหนี้ได้ ควรวางแผนการใช้จ่ายบัตรอย่างชัดเจน รวมถึงตั้งวงเงินที่จ่ายในแต่ละเดือนอย่างเหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่เกินความจำเป็น
หากมีหนี้สินอื่นอยู่แล้ว ก่อนใช้บัตรผ่อนโทรศัพท์ ควรจะตรวจสอบสถานะทางการเงินของตัวเองก่อน รวมถึงการคำนวณภาระหนี้ทั้งหมดให้ชัดเจน เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถชำระหนี้ได้ และเพื่อป้องกันปัญหาการชำระหนี้ที่อาจจะตามมาได้
เมื่อผ่อนโทรศัพท์ สิ่งที่สำคัญเลยก็คือการชำระเงินให้ตรงเวลา เพื่อป้องกันปัญหาดอกเบี้ยสูง และอาจส่งผลกระทบต่อเครดิตบูโรของผู้ถือบัตรได้ด้วย ควรตั้งการแจ้งเตือน หรือเตือนความจำในการชำระเงินให้ตรงเวลา หรือใช้ระบบหักเงินจากบัญชีอัตโนมัติไว้ก็ได้
หากผ่อนโทรศัพท์ และของหลายๆ อย่างพร้อมกัน ให้ระวังหนี้สินค้างคา เพราะการมีหนี้ค้างคา หนี้ไม่หมดไปสักที อาจทำให้เกิดเป็นหนี้สินสะสมในระยะยาวที่อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการกู้ยืมในอนาคตได้ ควรชำระหนี้ให้หมดในระยะเวลาที่กำหนด หากมีเหตุฉุกเฉิน หรือมีปัญหาการชำระหนี้ ควรติดต่อธนาคารเพื่อหาทางออก
ควรผ่อนโทรศัพท์ หรือของใช้ตามคำแนะนำที่กล่าวไปข้างต้นอย่างเคร่งครัด เพราะการมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดีอาจส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อบ้าน รถยนต์ หรือการขอสินเชื่ออื่นๆ จึงควรรักษาประวัติการชำระหนี้ให้ดี ชำระให้ตรงเวลา ตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองเป็นประจำ
หากต้องการใช้บัตรกดเงินสดผ่อนโทรศัพท์ได้อย่างสบายใจ แนะนำ บัตรเงินด่วน Xpress Cash* ตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อโทรศัพท์ใหม่ มอบวงเงินสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ บางช่วงมีโปรโมชั่นพิเศษผ่อนโทรศัพท์มือถือดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ผ่อนนานสุด 36 เดือน ทำให้ค่างวดต่อเดือนต่ำลง และสามารถบริหารจัดการการเงินได้ง่ายขึ้น
เมื่อโทรศัพท์เครื่องเก่าเริ่มใช้งานไม่ได้ มีปัญหามากวนใจ รวมถึงอายุการใช้งานที่มากขึ้นทุกปี อยากเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่แต่ซื้อสดไม่ไหว แนะนำใช้บัตรเงินด่วน Xpress Cash* ในการผ่อนโทรศัพท์ เพราะตัวบัตรสามารถผ่อนสินค้าได้ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% นาน 36 เดือน และยังเพิ่มความสามามารถ ในการใช้จ่ายในยามที่หมุนเงินไม่ทัน แถมสมัครง่าย รู้ผลอนุมัติไวสุด 15 นาทีเมื่อสมัครผ่าน K PLUS
* บัตรเงินด่วน Xpress Cash : กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 18%-25% ต่อปี
อ่านบทความช่วยเรื่องกู้รู้จริงเพิ่มเติม
คลิกเลย