เปิดตำราดูฮวงจุ้ยบ้านด้วยตัวเอง อยู่แล้วดี อยู่แล้วเฮง

เปิดตำราดูฮวงจุ้ยบ้านด้วยตัวเอง อยู่แล้วดี อยู่แล้วเฮง

24 ม.ค. 2566

เปิดตำราดูฮวงจุ้ยบ้านด้วยตัวเอง อยู่แล้วดี อยู่แล้วเฮง
quote

หากคุณกำลังมองหาบ้านสักหลังหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่ง หรือบ้านมือสอง นอกจากความสวยงามของตัวบ้านแล้ว อาจต้องคำนึงถึง “ฮวงจุ้ยบ้าน” อีกด้วย ความเชื่อในเรื่องของฮวงจุ้ยนั้นเป็นศาสตร์โบราณที่อยู่คู่กับคนไทยมาเป็นเวลาช้านาน โดยเฉพาะในหมู่คนไทยเชื้อสายจีน ด้วยความเชื่อที่ว่าบ้านที่สร้างถูกหลักฮวงจุ้ยนั้น จะนำโชคลาภและความเป็นสิริมงคลมาสู่ผู้อยู่อาศัย เพราะมีพลังงานที่สมดุลช่วยเกื้อหนุนดวงชะตาให้กับคนในบ้าน

บทความนี้ จึงได้รวบรวมเทคนิคการดูฮวงจุ้ยบ้านแบบพื้นฐาน ว่าฮวงจุ้ยนั้นสำคัญอย่างไร? ควรดูอะไร? และระวังจุดไหนบ้าง? เพื่อให้คุณได้ใช้เป็นแนวทางในการดูฮวงจุ้ยบ้านด้วยตัวเอง จะได้มีบ้านที่ทั้งอยู่สบายและเป็นสิริมงคลกับทุกคนในครอบครัว

quote
ฮวงจุ้ยบ้านคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อผู้อยู่อาศัย
ฮวงจุ้ยบ้านคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อผู้อยู่อาศัย

ฮวงจุ้ยบ้านคืออะไร สำคัญอย่างไรต่อผู้อยู่อาศัย

ฮวงจุ้ย (Feng Shui) เป็นศาสตร์จีนโบราณที่มีพื้นฐานมาจากแนวปรัชญาของลัทธิเต๋า เป็นศาสตร์ที่เชื่อในเรื่องของพลังงาน “ชี่” หรือ “ลมปราณ” ที่รายล้อมอยู่รอบๆ ตัวเรา การจัดฮวงจุ้ยบ้านนั้นเป็นการออกแบบพื้นที่ อาคาร และจัดวางสิ่งของในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลของพลังปราณภายในบ้าน โดยเชื่อว่าหากสามารถทำให้พลัง “หยิน” และ “หยาง” ในแต่ละพื้นที่มีความสมดุลแล้ว ก็จะทำให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพดี มีความสุขความเจริญ ดึงดูดโชคลาภ และนำพามาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ทุกคนในบ้าน

ลักษณะฮวงจุ้ยหน้าบ้านที่ดี
ลักษณะฮวงจุ้ยหน้าบ้านที่ดี

เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบฮวงจุ้ยหน้าบ้าน

สิ่งแรกที่ควรสังเกตุก่อนที่จะเข้าไปสำรวจจุดอื่นๆ ภายในบ้าน ก็คือ ฮวงจุ้ยหน้าบ้าน เพราะเป็นจุดทางผ่านเข้าออกของพลังงาน และเป็นจุดที่ควรให้ความสำคัญมากๆ เพราะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่จะถูกดึงดูดเข้าไปในบ้าน หากจัดบริเวณหน้าบ้านได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยดึงดูดโชคลาภและพลังงานที่ดีเข้ามาให้กับคนในครอบครัว โดยสิ่งที่ควรสังเกตจากบริเวณหน้าบ้านในการดูฮวงจุ้ยด้วยตัวเอง คือ

  • ประตูบ้าน: ควรเป็นประตูบานใหญ่และสูง เพราะเชื่อว่าจะนำความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาสู่ตัวบ้าน รวมถึง ต้องคอยหมั่นดูแลประตูให้อยู่ในสภาพดี บานประตูแข็งแรง ไม่ทรุดโทรม ที่สำคัญคือต้องใหญ่กว่าประตูหลังบ้านและไม่อยู่ในตำแหน่งที่ตรงกัน เพราะตามหลักฮวงจุ้ยบ้านถือว่าจะทำให้เงินทองที่หามาได้นั้นรั่วไหลออกไปจากครอบครัว
  • ทางเข้าบ้าน: บริเวณทางเข้าบ้านไม่ควรมีต้นไม้ ก้อนหิน หรือ สิ่งกีดขวางทางเข้า เพราะจะเป็นตัวกีดกันไม่ให้พลังงานดีไหลเข้าตัวบ้าน ควรหมั่นทำความสะอาดหน้าบ้านให้ดูโล่ง สะอาดตา และมีแสงสว่างที่เพียงพอ เพื่อทำให้คนในบ้านมีสุขอนามัยที่ดี สุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ ยังไม่ควรมีของมีคม หรือวัตถุที่มีลักษณะแหลมหรือเหลี่ยมชี้เข้าตัวบ้าน เพราะเชื่อว่าจะดึงดูดภัยอันตรายเข้ามาให้กับเจ้าของบ้าน
  • ต้นไม้ตกแต่ง: สามารถปลูกต้นไม้ในบริเวณที่ไม่กีดขวางทางเข้า เพื่อเพิ่มสีเขียวให้กับตัวบ้าน ซึ่งเชื่อว่าจะนำความอุดมสมบูรณ์ และความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับคนในบ้าน
  • สระน้ำและน้ำพุ: บ้านที่มีน้ำบริเวณหน้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็น สระน้ำ บ่อน้ำ น้ำพุ หรือ แม่น้ำ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อฮวงจุ้ยบ้าน เพราะจะทำให้อยู่เย็นเป็นสุข และนำพาโชคลาภเข้ามาสู่บ้าน
  • รั้วบ้าน: สำหรับบ้านที่มีรั้ว ควรเป็นรั้วแบบสูงทึบ เพราะหากเป็นรั้วที่เตี้ยและโปร่งจะทำให้กักเก็บความมั่งคั่งเอาไว้ไม่ได้ อาจใช้พุ่มไม้สูงเป็นตัวช่วยบังตา เพื่อให้ไม่รู้สึกทึบจนเกินไป

ดูฮวงจุ้ยภายในบ้านด้วยตัวเอง ต้องดูตรงไหนบ้าง

หลังจากที่สำรวจฮวงจุ้ยหน้าบ้านแล้วก็ถึงเวลาที่จะมาสำรวจบริเวณภายในบ้าน ซึ่งพื้นที่ของแต่ละห้องต่างก็มีหลักการจัดวางสิ่งของที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการใช้งานของพื้นที่นั้นๆ โดยหลักในการดูฮวงจุ้ยของห้องต่างๆ ภายในบ้านด้วยตัวเอง มีดังนี้

วิธีดูฮวงจุ้ยห้องครัวและรับประทานอาหารด้วยตัวเอง
วิธีดูฮวงจุ้ยห้องครัวและรับประทานอาหารด้วยตัวเอง

ฮวงจุ้ยห้องครัวและรับประทานอาหาร

ห้องครัวถือเป็นหัวใจหลักของบ้าน เพราะเป็นที่ที่ครอบครัวใช้ในการทำอาหารและใช้เวลาร่วมกันเวลากินข้าว สำหรับชาวจีนแล้วห้องครัวเปรียบเสมือนความสมบูรณ์ของบ้าน หากบ้านจัดห้องครัวดี ครอบครัวก็จะกินดีอยู่ดี มีสุขภาพแข็งแรง โดยห้องครัวมีธาตุหลักสองธาตุ คือ ไฟและน้ำ ซึ่งเป็นธาตุตรงข้าม จึงจำเป็นต้องมีการจัดวางตำแหน่งสิ่งของต่างๆ ให้เหมาะสม ซึ่งมีหลักการ ดังนี้

  • ตำแหน่งของห้องครัว: ห้องครัวควรตั้งอยู่บริเวณหลังบ้าน ห่างจากสายตาของคนนอก เพราะเปรียบเสมือนเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของครอบครัว หากมองเห็นได้ง่ายก็หมายถึงการที่อาจถูกแย่งชิงความอุดมสมบูรณ์ออกไปจากบ้าน สำหรับบ้านสองชั้น ตำแหน่งของห้องครัวไม่ควรตรงกับห้องนอนชั้นบน เพราะห้องนอนจะได้รับพลังงานจากธาตุไฟที่มากเกินไปจนอยู่ไม่สบายได้
  • ตำแหน่งของเตาไฟและก๊อกน้ำ: ธาตุน้ำและธาตุไฟเป็นธาตุตรงข้ามกัน จึงไม่ควรที่จะวางเตาแก๊สไว้ข้างอ่างล้างจาน เพราะจะทำให้พลังงานของทั้งสองธาตุ เกิดความขัดแย้งอยู่ตลอดเวลา ทำให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวไม่ราบรื่นและเกิดเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง
  • ห้องครัวไม่ควรอยู่ติดกับห้องน้ำ: เช่นเดียวกับเหตุผลข้างต้น เนื่องจากทั้งสองห้องเป็นพลังงานธาตุตรงข้ามกัน จึงอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งตลอดเวลา แต่ถ้าหากเราไม่สามารถแก้ไขผังบ้านได้จริงๆ ให้ใช้วิธีปิดประตูห้องน้ำให้สนิท และหมั่นทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา เพื่อลดกลิ่นรบกวนและทำให้เป็นการแบ่งพื้นที่ออกจากกันอย่างชัดเจน
ฮวงจุ้ยที่ดีของห้องน้ำภายในบ้าน
ฮวงจุ้ยที่ดีของห้องน้ำภายในบ้าน

ฮวงจุ้ยห้องน้ำ

ตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยบ้านนั้น ห้องน้ำถือเป็นห้องที่มีพลังงานด้านลบ เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของพลังหยิน การวางห้องน้ำให้ถูกตำแหน่งจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะกระทบต่อพลังงานด้านบวกของห้องอื่นๆ ภายในบ้านได้

  • ตำแหน่งของห้องน้ำ: ไม่ควรอยู่กลางบ้าน ซึ่งเป็นจุดรวมพลังงานด้านบวกของบ้าน รวมถึง ไม่ควรอยู่ใต้บันได หรือใกล้ห้องครัว เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัว ตำแหน่งที่ดีที่สุดของห้องน้ำ คือบริเวณค่อนไปทางหลังบ้าน
  • ตำแหน่งของประตูห้องน้ำ: ไม่ควรตรงกับประตูทางเข้า หรือประตูห้องอื่นๆ ภายในบ้าน เพราะจะทำให้พลังงานด้านลบเข้าไปในห้องเหล่านี้ได้ ถ้าหากแก้ไขไม่ได้ ให้หมั่นทำความสะอาดห้องน้ำและปิดประตูห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา
  • ห้องน้ำต้องโปร่งและสว่าง: ห้องน้ำต้องมีหน้าต่างที่ใช้ในการระบายอากาศ เพื่อให้พลังงานลบสามารถระบายออกไปจากตัวบ้าน และมีแสงสว่างส่องถึง เพื่อลดความอับชื้นที่เกิดขึ้นภายในห้อง
ฮวงจุ้ยที่ดีของห้องนอนภายในบ้าน
ฮวงจุ้ยที่ดีของห้องนอนภายในบ้าน

ฮวงจุ้ยห้องนอน

ห้องนอนถือเป็นอีกห้องหนึ่งที่มีความสำคัญมากในบ้าน เพราะเป็นที่ที่เจ้าของบ้านใช้ในการพักผ่อนหลังจากการทำงาน ห้องนอนที่ถูกหลักการจัดฮวงจุ้ยบ้านจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และเสริมพลังงานให้ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต

  • ตำแหน่งของห้องนอน: ห้องนอนนั้นมีจุดที่ดีที่สุดอยู่สองตำแหน่ง คือ บริเวณกลางบ้านและบริเวณหลังบ้าน โดยบริเวณกลางบ้านนั้นเป็นจุดรวมพลังงานด้านบวก จึงเป็นจุดที่ดีในการวางห้องนอน บริเวณหลังบ้านมักเป็นจุดที่ไม่มีกิจกรรม ไร้เสียงรบกวน ควรเป็นห้องนอนหลักของเจ้าบ้าน เพราะจะทำให้สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
  • ตำแหน่งของเตียงนอน: ต้องไม่วางเตียงขวางทางเข้าออกห้องนอน เพราะเป็นทางผ่านของพลังงาน อาจทำให้นอนหลับไม่สบาย นอนหลับไม่สนิท และหัวเตียงต้องไม่หันไปในทิศทางเดียวกับประตูห้องนอน
  • วัตถุต้องห้าม: ห้องนอนถือเป็นห้องธาตุดิน เพราะฉะนั้น ไม่ควรมีสิ่งของที่เป็นธาตุไม้อยู่ในห้อง เ่ช่น ต้นไม้ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการแย่งชิงความอุดมสมบูรณ์ออกไปจากตัวห้อง อีกธาตุหนึ่งที่ไม่ควรมีคือธาตุน้ำ เช่น น้ำพุ หรือรูปถ่ายและภาพวาดที่มีน้ำเคลื่อนไหวรุนแรง เพราะเป็นธาตุที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนและการค้าขาย จึงไม่เหมาะกับห้องที่ใช้ในการพักผ่อนอย่างห้องนอน
วิธีดูฮวงจุ้ยของห้องทำงานภายในบ้านด้วยตัวเอง
วิธีดูฮวงจุ้ยของห้องทำงานภายในบ้านด้วยตัวเอง

ฮวงจุ้ยห้องทำงาน

หากภายในบ้านมีห้องทำงาน ก็ควรให้ความสำคัญกับหลักฮวงจุ้ยห้องทำงานด้วยเช่นกัน เพราะเป็นห้องที่หลายๆ คนใช้เวลาแทบทั้งวันในนั้น ดังนั้น จึงถือเป็นห้องที่สำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับคนที่เป็นผู้นำหรือเสาหลักของครอบครัว การที่มีห้องทำงานที่ถูกหลักฮวงจุ้ยนั้น จะทำให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ขจัดปัญหาอุปสรรคในการทำงาน และดึงดูดโชคลาภให้กับธุรกิจอีกด้วย โดยหลักการที่ควรคำนึงเมื่อดูหรือจัดห้องทำงานตามหลักฮวงจุ้ย ได้แก่

  • ตำแหน่งของโต๊ะทำงาน: โต๊ะทำงานไม่ควรหันหน้าเข้ากำแพงทึบหรือตั้งอยู่ใต้คานบ้าน เพราะจะทำให้เจอแต่อุปสรรค ทางตัน และพลังงานโดนกดทับ ทำอะไรไม่ขึ้น โดยโต๊ะควรตั้งในทิศทางที่เห็นทางเข้าออกของประตู แต่ไม่ตรงกับประตูห้อง ควรหันหลังให้กับผนังทึบ เพราะผนังเปรียบเสมือนตัวแทนของภูเขา ทำให้การงานมีความหนักแน่นมั่นคง และมีคนคอยหนุนหลัง
  • รูปทรงของโต๊ะทำงาน: ควรมีขนาดเหมาะสมกับเจ้าของโต๊ะ สามารถหยิบใช้ของได้อย่างสะดวก ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป เพราะเป็นการทำให้งานอยู่ภายใต้การควบคุมได้อย่างทั่วถึง โต๊ะทำงานส่วนตัวอาจเลือกเป็นโต๊ะทำงานทรงสี่เหลี่ยม เพราะช่วยทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่โต๊ะทำงานที่เป็นลักษณะการประชุมอาจเลือกโต๊ะทรงกลม เพราะจะทำให้คนหันหน้าเข้าหากัน ช่วยเพิ่มความสมัครสมานกลมเกลียวและทำให้การเจรจาเป็นไปได้ง่ายขึ้น
  • ตกแต่งโต๊ะทำงานด้วยวัตถุมงคล: เราสามารถเสริมความเป็นมงคลให้กับโต๊ะทำงานโดยการวางของนำโชคต่างๆ บนโต๊ะทำงาน เช่น น้ำมันหอมระเหย เพื่อช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างผ่อนคลาย พืชมงคลต่างๆ เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจนและเสริมดวงชะตา หรือ แก้วน้ำที่ใส่น้ำสะอาด เพราะน้ำจะเป็นตัวนำพาโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับธุรกิจของเรา ทั้งนี้ ต้องระวังไม่ให้ของเยอะจนทำให้โต๊ะรกหรือสกปรก
ฮวงจุ้ยที่ดีของห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นภายในบ้าน
ฮวงจุ้ยที่ดีของห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นภายในบ้าน

ฮวงจุ้ยห้องรับแขกและนั่งเล่น

ห้องรับแขกเปรียบเสมือนหน้าตาของบ้าน เพราะมักเป็นจุดแรกที่แขกหรือเพื่อนที่มาที่บ้านต้องผ่านก่อนที่จะไปยังส่วนอื่นๆ ของบ้าน และยังเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวมักใช้ในการพักผ่อนหย่อนใจในช่วงเวลาว่างอีกด้วย จึงควรมีการจัดวางให้เหมาะสมตามหลักของฮวงจุ้ยบ้านเช่นเดียวกันกับห้องอื่นๆ

  • การเลือกโซฟา: ควรเลือกโซฟาที่มีพนักสูง เพราะหมายถึงการมีคนคอยหนุนหลัง มีที่พักพิง และเลือกใช้โทนสีอ่อนสบายตา เพื่อทำให้ครอบครัวอบอุ่นกลมเกลียว
  • แบ่งห้องรับแขกออกจากห้องนอน: ปัญหานี้มักเจอได้บ่อยจากคอนโดขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด ห้องนอนเป็นห้องที่ต้องการความสงบ ในขณะที่ห้องรับแขกคือห้องที่มีกิจกรรมเกิดขึ้นตลอดเวลา จึงควรที่จะมีการแบ่งโซนทั้งสองห้องออกจากกันให้ชัดเจน วิธีง่ายๆ ที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวก็คือการหาฉากกั้นมาช่วยแบ่งสัดส่วนของทั้งสองห้องออกจากกัน
  • การตกแต่ง: ห้องรับแขกเป็นห้องที่ต้องการพลังงาน “หยาง” เพื่อเพิ่มความอบอุ่น จึงสามารถเสริมความเป็นมงคลโดยการตกแต่งด้วยสีโทนร้อน เช่น แดง ส้ม เหลือง ทอง เป็นต้น นอกจากนี้ การตกแต่งฝาผนังด้วยรูปครอบครัวก็สามารถช่วยเสริมความอบอุ่นให้กับห้องได้เช่นเดียวกัน
ข้อควรรู้เกี่ยวกับฮวงจุ้ยบ้านมือสอง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับฮวงจุ้ยบ้านมือสอง

ข้อควรรู้เกี่ยวกับฮวงจุ้ยบ้านมือสอง ต้องดูอะไรบ้าง

การเลือกซื้อบ้านมือสองสักหลังนั้น ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของฮวงจุ้ยไม่ต่างกับการซื้อบ้านมือหนึ่ง หรือการสร้างบ้านหลังใหม่ โดยหลักการของการดูฮวงจุ้ยบ้านมือสองนั้นก็มีความคล้ายคลึงกับการดูบ้านทั่วๆ ไป แต่อาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่ควรมองข้าม มาดูกันดีกว่าว่าเราต้องคำนึงถึงอะไรบ้างในการดูฮวงจุ้ยบ้านมือสองด้วยตัวเอง

การเลือกรูปทรงบ้าน

รูปทรงบ้านนั้นเป็นสิ่งแรกที่เราควรคำนึงถึง เพราะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนภายในบ้านเช่นเดียวกับองค์ประกอบปลีกย่อยอื่นๆ โดยตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยบ้านนั้น ก็ได้ระบุไว้ถึงรูปทรงบ้านที่ดีและไม่ดีคือ

  • รูปทรงบ้านที่ดี: คือ บ้านที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพราะศาสตร์ของฮวงจุ้ยนั้นใช้หลักการ 8 ทิศในการดูการไหลเวียนของพลังงานภายในบ้าน รูปทรงสี่เหลี่ยมนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 8 ส่วนโดยแต่ละส่วนมีพื้นที่ใกล้เคียงกัน ทำให้พลังงานสามารถไหลเวียนได้อย่างทั่วถึง จึงเป็นทรงบ้านที่ดีที่สุด ส่วนรูปทรงบ้านที่ถือว่าดีรองลงมา คือ บ้านที่รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้านั่นเอง
  • รูปทรงบ้านที่ไม่ดี: คือ บ้านที่มีรูปทรงแปลกประหลาด เช่น บ้านทรงตัวซี ตัวแอล หรือ บ้านทรงสามเหลี่ยม บ้านที่มีเหลี่ยมมุมแบบนี้ขัดต่อหลักการไหลเวียนของพลังงาน จึงเป็นบ้านที่ไม่ตรงกับหลักของศาสตร์ฮวงจุ้ย

ดูความสูง-ต่ำของพื้นที่บ้าน

ความสูงต่ำของบ้านนั้นส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยของผู้คนภายในบ้านโดยตรง ทั้งในหลักฮวงจุ้ยและในเรื่องของความเสี่ยงต่อน้ำท่วม ในส่วนของฮวงจุ้ยบ้านนั้น บ้านที่อยู่ในพื้นที่ต่ำจะดึงดูดสิ่งชั่วร้ายเข้ามาในบ้าน ทำให้การค้าขายติดขัด ไม่เจริญรุ่งเรือง เหมือนโดนกดทับบารมีเอาไว้ ส่วนในหลักการทางวิทยาศาสตร์นั้น หากบ้านของเราอยู่ในตำแหน่งต่ำ ก็ย่อมมีความเสี่ยงที่จะเจอกับปัญหาน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งหลายๆ ที่เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เช่น เขตหนองจอก มีนบุรี คลองสามวา และลาดกระบัง หากกำลังมองหาบ้านในบริเวณนี้ก็ควรคำนึงถึงเรื่องความสูงของตัวบ้านร่วมด้วย

นอกจากนี้ ควรคำนึงด้วยว่าเขตที่บ้านมือสองที่เราดูไว้นั้นอยู่ภายนอกหรือภายในแนวคันกั้นน้ำที่กระจายตัวอยู่รอบๆ กรุงเทพฯ โดยบ้านที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำก็มีโอกาสที่จะเจอปัญหาน้ำท่วมมากกว่า

หลีกเลี่ยงการอยู่บ้านตรงทางสามแพร่ง

ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสอง บ้านหัวมุมทางสามแพร่งเป็นทำเลที่ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นตำแหน่งที่จะมีพลังงานพุ่งเข้าหาตัวบ้านเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้อยู่อาศัยเจอแต่เรื่องวุ่นวายและความไม่สงบ และในความเป็นจริงแล้ว ก็เป็นตำแหน่งที่อาจเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์พุ่งเฉี่ยวหรือชนตัวบ้านได้ง่าย อย่างน้อยที่สุดปัญหาหนึ่งที่จะต้องเจอ คือ การที่ไฟหน้ารถส่องเข้าบ้านช่วงเวลากลางคืน ซึ่งถือเป็นการรบกวนผู้อยู่อาศัย

เหล่านี้จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ควรหลีกเลี่ยงการเลือกบ้านตรงบริเวณทางสามแพร่ง อย่างไรก็ตาม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • ติดกระจกแปดเหลี่ยมไว้หน้าบ้าน: กระจกแปดเหลี่ยมเป็นวัตถุมงคลที่สามารถสะท้อนพลังงานด้านลบออกไปจากตัวบ้าน ช่วยปรับสมดุลให้พลังงานที่พุ่งเข้าตัวบ้านลดทอนน้อยลง ทำให้พลังงานเกิดความสมดุลมากขึ้น
  • ติดกระจกนูน: หลักการคล้ายกับกระจกแปดเหลี่ยม คือ ช่วยในการสะท้อนพลังงานด้านลบออกไปจากตัวบ้าน แต่ยังสามารถใช้งานได้จริงด้วย เพราะทำให้รถที่สัญจรไปมาสามารถมองเห็นรถ หรือวัตถุที่อยู่บนถนนอีกเส้นได้
  • สร้างรั้วบ้านสูง: สามารถปรับฮวงจุ้ยโดยการสร้างกำแพง เพื่อไม่ให้พลังงานพุ่งเข้าบ้านโดยตรง และผลพลอยได้ คือ จะช่วยเสริมในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและแก้ไขปัญหาเรื่องไฟรถที่ส่องเข้าบ้าน
  • เลื่อนตำแหน่งของประตูบ้าน: หากเราสามารถทำได้ ให้เลื่อนตำแหน่งทางเข้าบ้านไม่ให้ตรงกับถนน เพื่อป้องกันไม่ให้พลังงานไหลเข้าบ้านโดยตรง และควรปิดประตูให้สนิทมิดชิดไม่เปิดทิ้งไว้ระหว่างวัน

ศาสตร์ของการดูฮวงจุ้ยบ้านนั้นเป็นหลักการโบราณที่ยังคงมีความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเป้าหมายหลักของการดูฮวงจุ้ยนั้น คือ การสร้างที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับทุกคนภายในบ้าน หากเรามีความรู้พื้นฐานในการดูฮวงจุ้ยบ้านด้วยตัวเองแล้ว เราก็สามารถนำความรู้ไปปรับใช้สำหรับบ้านปัจจุบัน หรือใช้ในการพิจารณาบ้านในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น การซื้อบ้านหลังใหม่ การซื้อบ้านมือสอง หรือการสร้างบ้านใหม่ ท้ายที่สุดแล้ว ฮวงจุ้ยก็เป็นเพียงศาสตร์อย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดถึงความสุขหรือความสำเร็จของคนภายในบ้าน เพราะสิ่งที่สำคัญเหนือกว่าฮวงจุ้ย คือ การดูแลบ้านให้สะอาดสวยงาม รวมถึงความร่วมมือร่วมใจของคนในครอบครัวที่จะทำให้ที่อยู่อาศัยนั้นกลายเป็น “บ้าน” ที่น่าอยู่ของทุกคน สำหรับคนที่สนใจซื้อบ้านมือสองเพื่อการอยู่อาศัยก็สามารถดูบ้านสวยๆ ที่น่าสนใจได้จาก K-Property แหล่งรวมทรัพย์บ้านมือสองทำเลดี ราคาโดนใจเพื่อทุกความสุขของครอบครัว