เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านต่างรอคอยวันที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตข้างนอกอีกครั้ง อย่างไรก็ตามช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา การใช้ชีวิตแบบ New Normal ได้ทำให้เหล่าบริการต่าง ๆ มีการปรับตัวและเกิดเป็น Private Service ที่น่าสนใจขึ้นมากมาย พร้อมเกิด Trend ของการทำกิจกรรมเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เน้นความปลอดภัย และ เป็นส่วนตัวกันมากขึ้น ในวันนี้เราจึงอยากมาแนะนำกับ 5 กิจกรรม ให้ได้เป็นไอเดียในกิจกรรมที่คุณสามารถออกมาผ่อนคลายได้เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้น แถมยังได้ประสบการณ์ Ultimate Leisure อย่างเอ็กคลูซีพด้วยบรรยากาศของความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
| 
|
SuriyanChandra AT Ayuuthaya
"ทริปล่องเรือสุด Private กับคนใกล้ตัว อิ่มท้องพร้อมอิ่มบุญ"
เริ่มต้นกับกิจกรรมแบบวันเดย์ทริป ที่คุณสามารถทำได้ทั้งครอบครัวกับร้านอาหารสุริยันจันทรา ณ จังหวัดอยุธยา ที่ให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศการล่องเรือชมความงดงามของแม่น้ำน้อยที่รายล้อม 2 ฝั่งด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ดื่มด่ำกับไลน์น้ำผลไม้ และ อาหารว่างตลอดการล่องเรือ อาทิ เซตผลไม้ เมี่ยงคำ หรือ ขนมไข่โบราณ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับการมาอยุธยากับการทำบุญสักการะหลวงปูสุ่น ของวัดบางปลาหมอหลวง สักการะหลวงพ่อปานวัดบางนมโค รวมไปถึงการชมบ้านและโรงสีโบราณที่มีอายุกว่า 130 ปี จบท้ายการเดินทางด้วยการรับประทานอาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยาก เรียกได้ว่าเป็นทริปการเดินทางแบบ Private ที่ได้อิ่มท้อง พร้อมอิ่มบุญไปพร้อม ๆ กันค่ะ
สำหรับ Package ล่องเรือมีให้เลือก 3 รอบ ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมง โดยเริ่มรอบแรกเวลา 08.00 ย. รอบที่สอง คือเวลา 14.00 น. และ รอบสุดท้ายที่เวลา 16.30 น. ค่ะ โดยราคาสำหรับ 6 ท่านจะอยู่ที่ 13,900 บาท เป็นราคาที่รวมทุกอย่างไว้แล้ว
| 
|
ADHOC BKK
"เปิดประสบการณ์รับประทานอาหารสุด Exclusive เพียงโต๊ะเดียว"
ต่อมากับร้านอาหารแบบ Private Dining แห่งเดียวภายในซอยสุขุมวิท 39 ตัวร้านถูกแบ่งออกเป็นสามชั้น โดยในแต่ละชั้นนั้นจะมีโต๊ะเพียงโต๊ะเดียว ทำให้มั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหาร Fine Dining แบบ Private Exclusive โดยไอเดียนี้สร้างสรรค์จากคุณศุภสิทธิ์ ก๊กผล หรือ เชฟแท็ปที่ได้จบการศึกษาจาก Le Cordon Bleu Dusit และ เคยเปิดร้านอาหารที่ประเทศออสเตรเลียมาก่อน
นอกจากจุดเด่นที่ความ Private แล้ว อาหารไทยภายในร้านยังใช้เทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ ที่เรียกได้ว่าน้อยครั้งที่จะเจอในร้านอาหาร Fine Dining แบบนี้ โดยความพิเศษนั้นจะอยู่ที่การผสมผสานวัตถุดิบจากทั้งในและต่างประเทศได้อย่างลงตัว เช่น เมนูทูน่าทาร์ทาร์ที่ใช้ Bluefin Tuna นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องเทศทางภาคเหนือทำให้ได้รสชาติที่เผ็ดจัดจ้าน และ มีกลิ่นที่หอมคลุ้ง
Fine Dining ของที่นี่จะเป็นลักษณะการเสิร์ฟ 10-Course Dinner ราคาเริ่มต้นที่ 3,300 บาทต่อท่าน โดยหากท่านใดต้องการใกล้ชิด ได้สอบถามพูดคุยกับเชฟแท็ป หรือ อยากเห็นบรรยากาศภายในครัว แนะนำให้สำรองโต๊ะเป็นชั้นหนึ่งของร้านนะคะ
.jpg)
Kashikiri Onsen & Spa
"รีชาร์ตพลังด้วยการแช่ออนเซ็นแบบส่วนตัว ให้หายคิดถึงทริปญี่ปุ่น ด้วยน้ำแร่นำเข้า"
เปลี่ยนมาผ่อนคลายไปกับการแช่ออนเซ็น ที่เป็นที่นิยมอย่างมาเมื่อไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ที่ในตอนนี้ได้มีเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทยให้ได้เลือกใช้บริการกันหลากหลาย แต่สำหรับ Kashikiri Onsen & Spa นี้จะพิเศษตรงที่เป็นออนเซ็นแบบส่วนตัว ที่แรกในประเทศไทย ให้บริการแบบ 1 หรือ 2 ท่าน นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งแบบโปร่งสบาย รายล้อมด้วยต้นไม้สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่นอกจากจะให้ความผ่อนคลายแล้วยังมีความสวยงามเหมาะแก่การถ่ายภาพเก็บเป็นความประทับใจอีกด้วย
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ น้ำแร่ที่นำเข้าจากญี่ปุ่น เพื่อคุณสมบัติที่ดีต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็น การเสริมความแข็งแรงของกระดูก การลดอาการปวดตามข้อ อีกทั้งออนเซ็นแห่งนี้ยังมีการเปลี่ยนน้ำ และ ทำความสะอาดทุกครั้งก่อนให้บริการลูกค้า ให้คุณได้มั่นใจในความสะอาด และ สุขอนามัยในการใช้บริการค่ะ โดยออนเซ็นแบบส่วนตัวสำหรับ 2 ท่าน รวมบริการแช่ และ นวด 60 นาทีจะอยู่ที่ราคา 2,600 บาท ต่อท่าน ส่วนหากท่านใดไม่รับบริการนวดเพียงแค่ต้องการผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำแร่มีราคาเริ่มต้นที่ 1,190 บาท สำหรับ 2 ท่านค่ะ
The Hills
"ออร์แกนิคซาลอน ที่่คุณได้ผ่อนคลายด้วยบริการระดับเฟิร์สคลาส"
ก่อนจะออกไปทำกิจกรรมข้างต้น การได้ปรับลุคหลังจากไม่ได้ออกจากบ้านมานานนับว่าเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าทำ โดยเฉพาะเมื่อได้รับการบริการจากผู้เชี่ยวชาญ Ultimate Leisure จึงขอแนะนำ The Hills บิวตี้ซาลอน เรียบหรู และ อบอุ่นด้วยโทนสีเขียว ชมพูอ่อน และ สีขาวที่พร้อมจะให้บริการคุณแบบครบวงจรตั้งแต่ทรีตเมนต์ฟื้นฟูเส้นผมจนถึงการตกแต่งบำรุงเล็บด้วยบริการคุณภาพระดับเฟิร์สคลาส รังสรรค์ร่วมกับเทคโนโลยีดูแลความงามขั้นสูงสุด ใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่มีคุณภาพ ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความสำคัญกับความสวยงามและความสบาย เรียกได้ว่าแม้จะรับบริการเป็นเวลานานก็ไม่ต้องกลัวปวดหลังกันเลยทีเดียว
สำหรับค่าบริการตัดผมจะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ทรีทเม้นเริ่มต้นที่ 2,400 บาท และ ยังมีบริการอื่น ๆ อย่าง บริการทำเล็บ สปามือและเท้า รวมไปถึงการต่อขนตา นอกจากนี้หากมียอดบริการ 8,000 บาทขึ้นไป ทางร้านมี Private Room พร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ หรือ สามารถสำรองห้องส่วนตัวนี้ได้ โดยมีค่าบริการห้องส่วนตัวที่ 1,500 บาท ที่สำคัญระหว่างที่รอ ผู้ที่มาด้วยกันสามารถรับบริการนวดคอ บ่า ไหล่ หรือ เท้าได้ด้วยนะคะ
Black Amber Sathorn
"คลับของสุภาพบุรุษ ด้วยบริการตัดผม และ กรูมมิ่งจากช่างผู้มากด้วยประสบการณ์"
สำหรับทางฝั่งสุภาพบุรุษเองในปัจจุบันก็มีตัวเลือกของร้านที่ใส่ใจในรายละเอียด ชำนาญในการตัดผม และ กรูมมิ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ Black Amber ที่มาในรูปแบบร้าน Multi-Purpose Space ที่ก่อนช่วง COVID-19 จะมา ได้เปิดให้บริการทั้งร้านตัดผม ร้านอาหาร บาร์ ห้องสมุด ห้องพักผ่อน และ ห้องสูบซิการ์ เป็นคลับสำหรับสุภาพบุรุษ พร้อมให้บริการคุณอย่างครบวงจร
สิ่งที่โดดเด่นเมื่อก้าวเข้ามาเลย คือ บรรยากาศพรีเมียม ความเรียบหรูดูเป็นผู้ใหญ่จากการใช้สี และ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ตลอดจนความเป็นมืออาชีพของช่างที่เป็น Senior Barber มากด้วยฝีมือ และ ประสบการณ์ พร้อมจะให้บริการคุณผู้ชายทุกท่านทั้งเรื่องสระและตัดผม การโกนหนวด อีกทั้งที่ร้านยังใช้ผลิตภัณฑ์จาก Proraso แบรนด์ Men’s Grooming ชื่อดังของอิตาลีในการให้บริการทุก ๆ ท่านอีกด้วย เพิ่มความพิเศษเอ็กคลูซีฟขึ้นไปอีก ด้วยการสำรองรับบริการกับ Senior Barber และ รับบริการใน Senior Baber Lounge ซึ่งเป็น Private Zone ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ โดยราคาสระและตัดจะอยู่ที่ 1,000 บาทค่ะ
หวังว่ากิจกรรม หรือ บริการที่หยิบยกมาเหล่านี้ จะเป็นไอเดียในการออกไปเริ่มต้นกิจกรรมนอกบ้าน เต็มอิ่มกับความสุข และ การผ่อนคลาย แถมปลอดภัยด้วยความส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อย่างไรก็ตามอย่าลืมระมัดระวังสุขอนามัย สวมหน้ากาก และ หมั่นล้างมือให้สะอาดนะคะ ขอให้ทุกท่าน “Stay Safe but Enjoy Every Moment” ค่ะ