ความสุขอย่างหนึ่งที่ทำได้ง่าย ๆ คือ การรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารคุณภาพเยี่ยม จากวัตถุดิบชั้นดีที่สุด และ รับประทานกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว ในวันนี้ The Explorer จึงจะพาทุกท่านมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ไม่เหมือนใครของการรับประทานอาหารไปกับร้าน Chai Jia Chai ร้านอาหารโอมากาเสะในสไตล์อาหารจีนกวางตุ้ง ที่เรียกได้ว่าเป็นที่แรกในประเทศไทยเลยทีเดียว แต่ละเมนูของทางร้านนั้นคงคอนเซปต์ของความเป็นโอมากาเสะเอาไว้นั่นก็คือการคัดสรรเฉพาะวัตถุดิบชั้นเยี่ยมแบบวันต่อวัน ก่อนจะนำมาประกอบอาหารตามสไตล์จีนกวางตุ้ง เพื่อให้ได้รสชาติที่สดใหม่ และ คงคุณภาพส่งถึงลูกค้าทุกคน
ภายในร้านตกแต่งอย่างหรูหราด้วยสีน้ำตาล และ สีทอง แต่ให้บรรยากาศที่อบอุ่นตามความหมายของชื่อร้านที่สามารถแปลโดยรวมได้ว่า “ร้านอาหารที่เป็นบ้านของเชฟไช่” (*) และแน่นอนว่าความพิเศษของเมนูจากทางร้าน ก็คือ การเสิร์ฟอาหารสไตล์จีนกวางตุ้ง ที่ให้ความสำคัญในทุก ๆ รายละเอียดที่เริ่มตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในฤดูนั้น ๆ ตามฉบับของโอกามาเสะนั่นเอง
(*) Chai Jia Chai เป็นภาษาจีน โดยที่
Chai ตัวแรก หมายถึง ชื่อของเชพไช่ , Jia หมายถึง บ้าน และ Chai ตัวสุดท้าย หมายถึง อาหาร
|
สำหรับตัวอย่างของเมนูแสนอร่อยกับ เริ่มต้นกันด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยที่เสิร์ฟมาในรูปแบบ 3 คำ รับประทานง่ายอย่าง
อะโวคาโดบดท็อปด้วยหอยเป้าฮื้อ ที่ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของเชฟ . ไข่ปลากระบอก รสชาติหอมพอดีคำ อีกทั้งยังเป็นของขึ้นชื่อของไต้หวันเลยทีเดียว และ
ปลาทอด ที่ท็อปด้านบนด้วยขิงทอด เป็น 3 สำหรับการเปิดต่อมรับรส เรียกน้ำย่อยก่อนเข้าสู่เมนูถัด ๆ ไปที่ตามมาติด ๆ อย่าง
ทาร์ตโอโทโร่ ที่ปรุงรสความอร่อยด้วยต้นหอม และ พริกไทยดำ ท็อปด้วยอูนิ และ คาเวียร์ เสิร์ฟมาในรูปแบบรมควันเพื่อเพิ่มมิติในการทานเมนูนี้ให้มากยิ่งขึ้น
ต่อกันด้วยเมนูน่าสนใจกับ
กุ้งแดงอาร์เจนตินา ด้วยการนำกุ้งไปดองกับเหล้าจีนและบ๊วยเป็นเวลา 1 วัน ทำให้ตัวกุ้งนั้นได้รสที่หวานนุ่ม เสิร์ฟพร้อมไข่ที่ดวงด้วยวิธีเดียวกัน และ โรยตบท้ายด้วยดอกหอมหมื่นลี้เพื่อรสชาติที่หวาน กลมกล่อมเข้ากัน และเมนูทานเล่นยอดนิยมของชาวไต้หวันอย่าง
ปลาหมึกชุบแป้งทอด ที่นำปลาหมึกไปบดก่อนจะนำไปชุบแป้งทอดจนเป็นสีทองกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับผักที่ราดด้วยซอสที่ทำจากถั่วลิสงและเต้าเจี้ยวมาให้รสชาติเข้ากันได้อย่างลงตัว
สำหรับเมนูหนักท้องจำนวกเนื้อสัตว์ที่จะมาแนะนำกันเริ่มต้นจาก
เนื้อปลา ที่นำไปปรุงด้วยวิธีการนึ่งทำให้ได้เนื้อปลาที่สัมผัสนุ่ม ละมุน จากนั้นจึงนำมาอบพร้อมกับขิง ต้นหอม และ กระเทียม ทำให้ได้กลิ่นหอม และ รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ก่อนจะเพิ่มความอร่อยให้เข้มข้นด้วยซอสปรุงรสสูตรแต้จิ๋วเป็นการปิดท้ายเมนู อีกเมนูน่าจะเป็นที่ถูกใจสำหรับสาย Beef Lover อย่าง
เนื้อออสเตรเลีย ที่นำไปชุบแป้งทอดจนฟูกรอบ เสริมความอร่อยที่เข้ากันได้อย่างลงตัวด้วยกานาฉ่ายทอด รับประทานทั้งหมดคู่กับน้ำของเนื้อที่ผ่านการทำซูวี เรียกได้ว่ากลมอร่อยอร่อยรสเนื้ออย่างแท้จริง
สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดกับเมนูที่พลาดไม่ได้อย่าง
ข้าวต้มกุ้งมังกร ที่โดดเด่นด้วยการนำกุ้งมังกรลงไปต้มทั้งตัว ทำให้มันกุ้งออกมาผสมในน้ำได้อย่างเต็มที่ จนได้รสชาติและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ จากนั้นจึงนำมาต้มกับข้าว เพิ่มความกรุบกรอบด้วยข้าวพอง จนกลายเป็นเมนูข้าวต้มที่ทายอร่อย และ เพลิดเพลิน ก่อนที่จะไปปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง
สาคูมะม่วงปั่น ที่มีรสชาติเปรี้ยวหวาน เสิร์ฟพร้อมแคนตาลูป เป็นเมนูที่จบท้ายคอร์สอาหารได้อย่างสวยงาม
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเมนูแสนอร่อย และ น่ารับประทาน อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารในรูปแบบโอมากาเสะนั้น เมนูอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามแต่วัตถุดิบที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ๆ แต่ทุกท่านสามารถมั่นใจได้ถึงรสชาติ และ ความพิถีพิถันได้เลยค่ะ เพราะ เชฟไช่นั้นมีประสบการณ์การทำอาหารจากหลากหลายประเทศมานานกว่า 23 ปีเลยทีเดียว ทั้งนี้การจะเข้าไปรับประทาน จะต้องมีการสำรองก่อนล่วงหน้า และ จะเห็นว่าบางเมนูมีกุ้ง หรือ ถั่วลิสงอยู่ หากท่านใดมีอาการแพ้อาหาร อย่าลืมแจ้งล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย และ ความสุขในการรับประทานอาหารของทุก ๆ ท่าน