Display mode (Doesn't show in master page preview)
Skip Ribbon Commands
Skip to main content

​​​        เข้าสู่เดือนที่ 2 ของปี 2022 และ เรายังอยู่กับช่วงเวลาของการฉลองไม่ว่าจะเป็นวันตรุษจีนที่เพิ่งผ่านพ้นไป และ วาเลนไทน์ที่ใกล้เข้ามา หลาย ๆ ท่านอาจจะกำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ สำหรับการดื่มด่ำความอร่อยไปพร้อม ๆ กับคนสำคัญ หรือ ครอบครัวของคุณ และจะดีแค่ไหน ถ้าอาหารมื้อนั้นมีทั้งความอร่อย เพลิดเพลินบรรยากาศ และ ยังมีประโยชน์ที่ดีกับร่างกาย ในวันนี้ The Explorer จะขอมาแนะนำร้านอาหารที่มีดีกรีความอร่อยระดับรางวัล Michelin Star 1 ดาว ที่เพิ่งได้รับเป็นรางวัลประจำปี 2022 นี้ ด้วยอาหารไทยฟิวชันสไตล์ไฟน์ไดน์นิ่งกับร้าน SAAWAAN ที่ตั้งอยู่ใจภายในซอยสวนพลูนั่นเอง​


เอกลักษณ์ของอาหารไทย นอกจากมีกลิ่น และ รสชาติเฉพาะตัวจากกรรมวิธีการปรุงที่ซับซ้อนแล้ว เอกลักษณ์จากการผสมผสานเครื่องเทศ และ สมุนไพรต่างๆ  ที่มาเป็นส่วนประกอบ ยังทำให้แต่ละเมนูอาหารไทยมีสรรพคุณทางยาที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จนอาจเรียกได้ว่าเป็นยาที่แสนอร่อยกันเลยทีเดียว 




SAAWAAN ร้านอาหารไทยฟิวชันสไตล์ไฟน์ไดน์นิ่ง ที่รังสรรค์ความอร่อยจากความเชี่ยวชาญด้านอาหารไทยของเชฟอ้อม สุจิรา พงษ์มอญ และ ครบรสชาติด้วยเชฟของหวานอย่างเชฟเปเปอร์ อริสรา จงพาณิชกุล โดยแต่ละเมนูจะเป็นรูปแบบอาหารไทยดั้งเดิม และ ได้มีการหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือ อาหารประจำภูมิภาค มารังสรรค์เป็นเมนูต่าง ๆ ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า “อยากรักษาอาหารไทย เมนูหาทานยาก ไว้ให้คนไทยได้รู้จักกันไปนาน ๆ และ เป็นการยกระดับอาหารไทยบ้าน ๆ สู่ความ High-End แบบสากล”




เริ่มต้นเมนูเรียกน้ำย่อย ที่จะมาช่วยปรับรสสัมผัสของเราก่อนที่จะได้รับคอร์สต่อ ๆ ไปอย่าง Amuse Bouche ที่ประกอบไปด้วยเมนูอย่าง เมี่ยงข้าวเหนียว ที่เกิดจากการนำใบหม่อนไปหมัก สอดใส้ด้านในด้วยลูกหม่อนเชื่อม มะพร้าวเผา ข้าวหอมมะลิ ส้มซ่า และ เปลือกส้มซ่า ก่อนที่จะห่อส่วนผสมทั้งหมดให้รวมกันเป็นชิ้นพอดีคำ ให้รสเปรี้ยวอมหวาน เหมาะสำหรับเป็นเมนูเปิดคอร์สอาหารจริง ๆ หรือจะเป็นเมนู หอยลาย ที่มีพริกแกง และ พริกเผาที่ทางร้านทำเอง เพิ่มกลิ่นหอมให้มีเอกลักษณ์ด้วยใบโหระพา โดยรสชาติที่ได้นั้นจะเหมือนราวกับว่าได้ทานผัดหอยลายเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีผลไม้ดอง 3 ชนิด ที่เสิร์ฟมาในลักษณะพอดีคำ เสิร์ฟพร้อมเครื่องจิ้ม 3 แบบ ทั้งพริกเกลือ ผงกระเจี๊ยบ และ ผงปรุงรสที่ทำมาจากแมลง




สำหรับเมนูอาหารหนักภายในคอร์สที่จะหยิบยกมาแนะนำนั้น เริ่มต้นจาก RAW หรือ ก้อยกุ้ง ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาตามชื่อ คือ ก้อยกุ้ง หรือ กุ้งเต้น ซึ่งเดิมทีแล้วเมนูนี้จะใช้กุ้งฝอยในการทำ แต่ทางร้านเลือกใช้กุ้งญี่ปุ่นอย่าง Ama Ebi ทำให้รสที่สดหวาน และ สัมผัสที่กรอบเด้ง เสิร์ฟมาพร้อม ๆ กับ แตงกวา 3 ชนิด (แตงกวาดอง แตงกวาย่าง และ แตงกวาสด) Dressing ด้วยกะทิผสมน้ำมันมะกรูดที่ทางร้านทำเอง ซึ่งเมื่อรับประทานทั้งหมดรวมกันแล้วจะได้รับที่กลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างมาก


รู้หรือไม่?
        แตงกวาเป็นผักที่อุดมไปด้วแร่ธาตุมากมาย เช่น โพแทสเซียม, แมงกานีส ซึ่งนอกจากมีสรรพคุณช่วยแก้กระหาย ลดความร้อนในร่างกาย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยควบคุมระดับความดันเลือด และ ความสมดุลของสารอาหารในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท ระบบกล้ามเนื้อ ระบบการหมุนเวียนเลือด รวมถึงแก้อาการนอนไม่หลับ 




ถัดมากับเมนู Fermented ขนมจีนน้ำพริก ซึ่งความพิเศษคือทางร้านจะใช้เส้นขนมจีนหมัก ที่หาทานได้ยาก และ น้ำยาขนมจีนนั้นทำมาจากถั่วลิสง และ ถั่วเขียวบดละเอียด เพิ่มกลิ่นหอมให้เป็นเอกลักษณ์ด้วยลูกมะกรูดทั้งลูก เสิร์ฟพร้อมเทมปุระผัก และ ดอกไม้ทานได้ พร้อมด้วยสมุนไพรตามฤดูกาล ท็อปปิ้งด้วยกระยาสารถจากธัญพืชกว่า 5 ชนิดที่ถูกนำมาคลุกเคล้ากับน้ำดอกมะพร้าว ทำให้เวลารับประทานนั้นจะได้เนื้อสัมผัส และ กลิ่นหอมที่ไม่เหมือนการทานขนมจีนน้ำพริกจากที่ไหนเลย


รู้หรือไม่?
        มะกรูดนอกจากจะนำมาใช้เพื่อช่วยเรื่องของเส้นผมแล้วนั้น ยังมีสรรพคุณทางยา อาทิ ขับลม แก้ไอ ขับเสมหะ รวมไปถึงบำรุงหัวใจ นอกจากนี้มะกรูดเป็นพืชในตระกูลส้ม ซึ่งเปลือกพืชตระกูลส้มจะมีสารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้ ดังนั้นหากรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของผิวมะกรูดก็จะช่วยรักษาสมดุลร่างกาย ลดโอกาสการเกิดมะเร็งได้




คอร์สถัดมาที่จะมาแนะนำจะเป็นตัวแทนของอาหารประเภทเครื่องจิ้ม ซึ่งก็คือ DIP กะปิคั่ว โดยความพิเศษของกะปิของทางร้าน คือ ทำมาจากกุ้งแม่น้ำที่ผ่านกรรมวิธีการทำหลากหลายขั้นตอน และ หลังจากหมักได้ที่แล้วทางร้านจะนำกะปิที่ได้ไปคั่ว หรือ คลุกเคล้ากับวัตถุดิบอื่น ๆ โดยเริ่มจากการนำกะปิไปคั่วกับน้ำกะทิ ปรุงรส จากนั้นจึงนำที่ได้ไปปั่น

อย่างที่ได้กล่าวไปว่ากะปิของทางร้านนั้นใช้กุ้งแม่น้ำ นั่นหมายถึงความว่ามีมันกุ้งด้วยแน่นอน ซึ่งมันกุ้งทางร้านจะนำไปคั่วเพื่อให้กะปิมีความเข้นข้มที่มากขึ้น จากนั้นจึงตามด้วยเครื่องสมุนไพร 3 ชนิด คือ ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย และ ใบมะกรูด เพิ่มส้มซ่าเพื่อให้กลิ่นหอมสดชื่น และ เสริมรสสัมผัสกรุบกรอบด้วยกุ้งทอด จัดเรียงเสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวเกรียบ 3 แบบ ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และ ข้าวมันปู รับประทานคู่กับผักผลไม้อย่าง มะม่วงกวน ชมพู่ สมุนไพร และ แตงกวาสด

รู้หรือไม่?
        ตะไคร้ และ หอมแดง ทั้ง 2 อย่างนี้มีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร ในส่วนของหอมแดงจะช่วยในเรื่องของการบำรุงโลหิต และ หัวใจ รวมถึงช่วยในเรื่องของการลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย 
นอกจากนั้นทั้ง ตะไคร้ หอมแดง และ ใบมะกรูด ต่างมีสรรพคุณที่เหมือนกันนั่นก็คือการช่วยขับลมได้



หากชอบรสชาติอาหารที่เข้มข้นต้องคอร์สนี้ กับเมนู Curry สิงห์เหนือเสือใต้ เป็นการนำเสนอเครื่องแกงของทั้งภาคเหนือ และ ภาคใต้ โดยส่วนของเครื่องแกงภาคเหนือจะนำมาผัดกับหัวปลี เสิร์ฟรองเป็นฐานสำหรับเนื้อในจาน นั่นก็คือ เนื้อหมูไอเบอริโก (หมูดำจากสเปน หมักกับข้าวหมาก และ นำไปรมควันข้าวและมะพร้าว) ส่วนเครื่องแกงของภาคใต้นั้นทำออกมาเป็นแกงเหลืองรสเข้นข้น เสิร์ฟมาพร้อมกับผงยี่หร่า  สับปะรดที่คาราเมลไรซ์ ชะอมทอด และ ข้าวบือโป๊ะโละ (ข้าวพื้นเมืองทางเหนือ) เมื่อรับประทานทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วทุกท่านจะได้รสชาติที่มีความอร่อยที่ลงตัว

รู้หรือไม่?
        หัวปลี อุดมไปด้วยแคลเซียมที่มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า อีกทั้งยังมีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงโลหิต และ สารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้ช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็งได้ดี

เมนูคอร์สน่ารับประทานที่หยิบยกมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของคอร์สเมนูในร้าน SAAWAAN เท่านั้น เรียกได้ว่าสวยงามทั้งหน้าตา อร่อยรสชาติ และ ยังมีประโยชน์กับสุขภาพร่างกายตามแบบฉบับของอาหารไทย อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นร้านอาหารสไตล์ไฟน์ไดน์นิ่ง คอร์สเมนูอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปได้นะคะ และ หากท่านใดที่มีการแพ้อาหารกรุณาแจ้งเชฟถึงข้อจำกัดของท่าน เพื่อไม่ให้อรรถรสของการรับประทานอาหารต้องสะดุดลง หวังว่าร้านที่หยิบมาในครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในไอเดียสร้างช่วงเวลาแสนพิเศษให้คนที่คุณรักกันนะคะ 


กลับ