Technology Towards Life

Technology Towards Life

​​​​​​

        ความไม่เหมือนเดิมหลังต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 เริ่มต้นจากชีวิตของคนเราที่เปลี่ยนแปลงไป  ก่อให้เกิดผลกระทบไปทั่วโลก วันนี้ทุกคนจึงตระหนักเพิ่มขึ้นว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทำให้ชีวิตไม่เหมือนเดิม จึงทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและความสำคัญกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ในปี 2020 จะเป็นปีที่เทคโนโลยีเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงกับธุรกิจและสังคม
        วันนี้ Your Joy จึงขอนำข้อมูลความน่าสนใจของเทคโนโลยีที่คุณจำเป็นต้องรู้ เพื่อที่คุณจะได้เรียนรู้และทราบถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่และมันจะเป็นข้อได้เปรียบของคุณในการเตรียมตัวรับสิ่งใหม่ที่จะเข้ามาในปี 2020 นี้อย่างแน่นอน 

การให้บริการ AI (Artificial ​Intelligence)

        Artificial Intelligence หรือ AI เป็นหนึ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดที่สุดในยุคของเราเลยทีเดียว ปัจจุบันนี้มีหลากหลายบริษัทที่เริ่มศึกษาการใช้ AI โดยหวังว่าจะเอามาช่วยเหลือตั้งแต่เรื่องของ Customer Experience ไปจนถึงการจัดการ Business Operation เทรนด์นี้จะยังคงเป็นที่นิยมสุด ๆ ในปี 2020 โดยมนุษย์จะเริ่มคุ้นเคยกับการทำงานกับ AI มากขึ้นไปหลังจากนี้
  • AI ช่วยลดเวลาทำงานซ้ำๆ AI
            ช่วยจัดการงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ หรืองานแบบที่เราเรียกกันว่า ‘งานแอดมิน’ สำหรับคุณครูได้ กิจกรรมที่ครูอาจารย์ต้องใช้เวลามากที่สุด หนีไม่พ้นการตรวจการบ้าน ให้คะแนนเรียงความ และ ให้คำปรึกษาแก่นักเรียน AI ช่วยได้ในบางเรื่อง เช่น ตรวจงานที่เป็นแบบตัวเลือก (Multiple Choice) เพื่อให้อาจารย์มีเวลาไปให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวกับนักเรียนมากขึ้น นักพัฒนาซอฟต์แวร์กำลังหาวิธีตรวจงานที่เป็นแบบเขียนตอบ (Essay) แม้แต่กระบวนการรับนักเรียนเข้าเรียน (Admission) ก็ใช้ AI ช่วยจัดการและจำแนกงานเอกสารต่าง ๆ ได้

การแพทย์และยาเฉพาะบุคคล (Personalized Medicine)​

        เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงการแพทย์ของเราอย่างรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อเราสามารถเก็บข้อมูลจากเครื่องมือที่เราสวมใส่ เช่น smart watch ก็ทำให้เราสามารถทำนาย และ จัดการกับปัญหาทางสุขภาพได้ก่อนที่คนไข้จะรู้สึกถึงอาการเสียด้วยซ้ำ ถ้าหากเราจะพูดถึงเรื่องการรักษาแล้ว แน่นอนว่าเราจะได้เห็นวิธีการรักษาที่เฉพาะบุคคลมากขึ้น ซึ่งเราจะเรียกสิ่งนี้ว่า Precision Medicine (ยาที่มีความแม่นยำสูง) ซึ่งแพทย์สามารถจ่ายยา และ รักษาผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ ต้องขอบคุณการวิเคราะห์ข้อมูลในสมัยนี้ ที่สามารถระบุได้ว่ายาตัวไหนจะดีกับผู้ป่วยคนไหนมากน้อยขนาดไหน​ หรือ แม้แต่การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการประมวลผลข้อมูลของผู้ป่วยเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ ความถูกต้องในการรักษามากยิ่งขึ้น
  • การวินิจฉัยโรค
            การนำ Machine Learning, Deep Learning เข้ามามีบทบาทในการวินิจฉัยโรคทำให้สามารถวินิจฉัยโรค ได้อย่างแม่นยำมีประสิทธิภาพมากขึ้น รายงานการทดสอบแข่งขันการวินิจฉัยโรคมะเร็งผิวหนัง ระหว่าง AI กับผู้เชียวชาญเฉพาะทาง โดย AI สามารถวินิจฉัยโรคมะเร็งผิวหนังจากรูปภาพของผู้ป่วยโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ และ ได้รับการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญจนมีความแม่นยำในการวินิจฉัยถึง 95% ส่วนทางด้านผู้เชี่ยวชาญทำการวินิจฉัยในกรณีเดียวกันนี้แม่นยำเพียง 87%
  • การให้คำแนะนำและให้ความรู้แก่ผู้ป่วย 
            การมี Big Data Analytics, Chatbot เป็นการเพิ่มศักยภาพในการวางแผนการรักษา ดูแล และ ให้คำปรึกษาสำหรับผู้ป่วยให้เหมาะสมแต่ละคน โดยการใช้ Smart Phone เป็นเครื่องมือช่วยรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ เช่น ประวัติการรักษา การบริโภคอาหาร กิจกรรมประจำวัน เป็นต้น และ ให้ข้อมูลได้ถูกต้องและรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น Virtual Nurse เป็นโปรแกรม AI เพื่อเพิ่มช่องทางสื่อสารระหว่างผู้ป่วยกับผู้ให้บริการ เฝ้าระวังอาการป่วย ให้คำปรึกษา ติดตามอาการ และ แจ้งเตือนแบบ Realtime
  • Image Analysis 
            การทำ MRI, CT Scan, X-rays, Ultra Sound หรือ การใช้อุปกรณ์ที่มีผลต่อผู้ป่วยโดยตรง นำมาวิเคราะห์อาการป่วย หรือมาหาสาเหตุของโรคต่าง ๆ ซึ่ง AI จะมีบทบาทในส่วนการทำงานด้านนี้ได้เป็นอย่างดีเนื่องจากการนำเอาข้อมูลต่าง ๆ ในอดีต ถ้ามีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ และ มากพอก็ทำให้ AI สามารถวิเคราะห์ได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น รวมถึงการรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล ในระบบ Telemedicine ผู้ป่วยสามารถถ่ายภาพโดยใช้ Smart Phone ในบริเวณที่ต้องการรักษาซึ่ง AI สามารถวิเคราะห์และให้คำแนะนำในการรักษาเบื้องต้นได้

สังคมไร้เงินสด Cashless Societ​y

        สำหรับสังคมไร้เงินสดนั้น ก็คือ การที่กระแสการใช้จ่ายของผู้คนเปลี่ยนจากการใช้ธนบัตรหรือเงินจริง ๆ เป็นการแลกเปลี่ยนกันด้วยช่องทางอื่นที่ทำให้เราไม่จำเป็นต้องพกเงินจำนวนมากอีกต่อไป ในประเทศไทยนั้นเริ่มต้นมายังไม่นานเท่าไหร่นัก โดยเริ่มต้นมาจากพฤติกรรมของผู้คนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต และ สมาร์ทโฟนมากขึ้น เป็นผลให้หลาย ๆ หน่วยงานทั้งภาครัฐ และ เอกชนได้เกิดการปรับตัว หันมาให้บริการธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลาย เป็นผลทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น กระเป๋าเงิน Online การชำระค่าสินค้าผ่าน QR Code บัตรเดบิต และ บัตรเครดิต บัตรรถไฟฟ้าแบบดิจิตอล แอปพลิเคชั่นธนาคารสำเร็จรูป และ ช่องทางอื่น ๆ ที่ช่วยให้การใช้จ่ายของเราไม่จำเป็นต้องพกพาเงินสดอีกต่อไป

การลดการสัมผัส Touchless Society​

        วิกฤติทางอารมณ์ของคนเมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบากในสถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้แบบเดิม ๆ นำไปสู่การสูญเสียสมดุลทางความคิด และ อารมณ์ อาทิ เด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาจากเดิมมีวิธีการทักทายแบบจับมือ หรือ กอด แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ทำให้ไม่สามารถทำได้ ทำให้การปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพมีระยะห่างกันออกไปเรื่อย ๆ ส่งผลในเรื่องของอารมณ์ในแง่ของความใส่ใจ  และ ความห่วงใยในอนาคต อย่างวัยทำงานที่นิยม Co – Working Space ก็อาจจะมีปรับพื้นที่ในรูปแบบ Sharing Space With Boundary หรือ มีการแบ่งแยกพื้นที่ของตัวเองมากขึ้น และ การออกแบบพื้นที่บริการแบบไม่ต้องสัมผัส แต่ใช้ Voice Recognition หรือ AR แทน

บ้านอัจฉริยะ smart ​home

        หมายถึง การรวมโครงข่ายการสื่อสาร (Communication Network) ของที่อยู่อาศัยรวมเข้าด้วยกันเพื่อเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า การบริการ การตรวจตราดูแล รวมทั้งสามารถเข้าถึงการควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ (โดยการควบคุมอาจหมายถึงการควบคุมทั้งที่เกิดจากทั้งภายในที่อยู่อาศัยเอง หรือ ถูกควบคุมจากภายนอกก็ได้) นั่นคือบ้าน หรือ ที่อยู่อาศัยที่จะเรียกว่าบ้านอัจฉริยะ หรือ smart home 
  • บ้านโมดูลาร์ ( Modular ) 
            ระบบโมดูลาร์ เรียกง่าย ๆ คือ บ้านสำเร็จรูป เป็นเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรที่ต้องการที่อยู่​อาศัยกันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการก่อสร้างบ้านแบบโมดูลาร์นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเผชิญกับอุทกภัยทำให้บ้านเสียหายบ่อยครั้ง การสร้างบ้านสำเร็จรูปจึงเป็นเรื่องที่ง่าย และ ตอบโจทย์เรื่องการอยู่อาศัยได้ดีที่สุด โดยโครงสร้างของระบบโมดูลาร์นั้นถูกออกแบบโดยโครงเหล็กคุณภาพสูงแบบ Box Ramen Structure Module ทำให้มีความแข็งแรง และ ทนทาน
  • Intelligent night light ระบบไฟอัจฉริยะ 
            ระบบไฟฟ้า Intelligent Night Light เป็นระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่ออกแบบมาเพื่อบ้านสำหรับคนที่มีผู้สูงอายุ โดยการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า จะเริ่มทำงานเมื่อผู้สูงอายุลุกขึ้น และ วางเท้าลงบนพื้น หรือ เมื่อผู้สูงเดินเข้าห้องน้ำ ไฟในห้องก็จะเปิดขึ้น หรือดับลงเองโดยอัตโนมัติ
  • ระบบผนัง Thermal & Sound Insulated System 
            คือ ระบบแผ่นฉนวนสำเร็จรูปสำหรับงานผนังและเพดาน ข้อดีของการใช้ผนังแบบนี้  คือ ป้องกันความร้อน ความชื้นได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงเสียงรบกวนจากภายนอก และ ช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่าง​ดี